ถ้าคุณแม่เอานมแม่แช่แข็งมาวางทิ้งไว้ให้ละลาย จะเห็นว่ามีการแยกเป็นชั้นๆ ไม่ต้องตกใจคิดว่านมเสีย
ชั้นบนสุดจะเป็นส่วนของไขมัน ที่เป็นดีเอชเอ เป็นตัวที่ทำให้น้ำหนักลูกขึ้นดี และไม่ทำให้ถ่ายบ่อยหรือถ่ายเหลวเกินไป ส่วนชั้นล่างสุดจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักและมีน้ำตาลแลคโต๊สซึ่งเป็นแหล่ง ให้พลังงาน และช่วยขับสารสีเหลืองออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น บางครั้งอาจมีลิ่มหรือตะกอนนมจับอยู่ด้านข้างขวดนม ไม่ได้เป็นนมเสียหรือนมบูดแต่อย่างใด ทุกองค์ประกอบล้วนมีประโยชน์ ทั้งสิ้น เวลาจะให้ลูกกินให้นำขวดมาแกว่งเบาๆแบบควงสว่านในน้ำอุ่น เพื่อให้ชิ้นส่วนทั้งหมดละลายเป็นเนื้อเดียวกัน แต่อย่าเขย่าแรง เพราะจะทำให้เซลเม็ดเลือดขาวแตก คุณค่าของน้ำนมจะลดลง
นมเสีย คือ ชิมแล้วมีรสเปรี้ยว ส่วนกลิ่นเหม็นหืนเป็นเรื่องปกติ เกิดจากไขมันถูกย่อยสลายโดยน้ำย่อยไลเปสที่อยู่ในน้ำนม ยิ่งเก็บนานจะยิ่งเหม็นหืนมาก
วิธีลดกลิ่นอาจทำโดย
1. เวลาเก็บนมใส่ถุง ให้ไล่อากาศออกให้มากที่สุด
2. วางถุงนอนราบ
3. หลังจากปั๊มเสร็จ ให้เอาเข้าตู้เย็นให้เร็วที่สุด
4. เวลาจะใช้ ให้ย้ายจากช่องฟรีสลงมาช่องน้ำเย็นตอนกลางคืน ประมาณ 12 ชม.จะละลาย เทใส่ขวดให้กินแบบเย็นๆได้เลย ไม่ได้ทำให้ปวดท้องหรือท้องเสีย แต่ถ้าลืมย้าย ให้แช่ถุงนมในน้ำอุ่น ให้ละลาย แล้วกินแบบเย็นได้เลย เพราะนมยิ่งอุ่น จะยิ่งเหม็นหืน ห้ามแช่ในน้ำร้อนหรือใส่ไมโครเวฟ
ในกรณีที่ลูกไม่ยอมกินนมที่มีกลิ่นเหม็นหืน ก่อนตัดสินใจเลิกปั๊มนมเพื่อทำสต๊อก เพราะคิดว่าปั๊มไป ลูกก็ไม่กินอยู่ดี ลองใช้กรรมวิธีต่อไปนี้ จะช่วยให้นมที่เก็บฟรีสไม่เหม็นหืนเหมือนกับวิธีเก็บแบบดั้งเดิม (นมวัวที่เก็บไว้ไม่เหม็นหืน ก็เพราะวิธีนี้เช่นกัน)
วิธีการ คือ หลังจากปั๊มนมได้แล้ว ให้นำนมไปต้มให้นานพอที่จะเห็นฟองอากาศปุดๆอยู่ด้านข้างหม้อ แล้วดับไฟทันที จะไม่นานจนถึงขั้นเดือดทั้งหม้อ แล้วนำนมไปเข้าตู้เย็นแช่แข็งทันที วิธีนี้จะทำให้น้ำย่อยไขมันทำงานไม่ได้ จึงไม่เกิดกลิ่นเหม็นหืน ถึงแม้ว่าจะเก็บไว้นานเพียงใดก็ตาม คำถาม คือ แล้วการต้มนมแบบนี้จะเสียคุณค่าไหม คำตอบ คือ คุณค่าที่ยังเหลืออยู่ ยังมากมายเมื่อเทียบกับนมผงค่ะ
นมวัวที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการโฮโมจิไนซ์ หากวางทิ้งไว้ก็จะแยกเป็นชั้นๆแบบนี้เช่นกัน แล้วทำไมอุตสาหกรรมการผลิตนมจึงต้องโฮโมจิไนซ์
โฮโมจีไนเซชัน (Homogenization) หมายถึง การที่ไขมันในน้ำนมได้ถูกทำให้มีขนาดเล็กลงจนมีขนาดเดียวกันทั้งหมด ซึ่งเล็กลงถึง 10 เท่า มีผลทำให้ไขมันในน้ำนมไม่มีการลอยตัว แยกเป็นชั้นเมื่อตั้งทิ้งไว้ จึงช่วยท้าให้ผลิตภัณฑ์มีความคงตัวสูงขึ้น ผลจากการโฮโมจีไนซ์ จะทำให้มีจำนวนเม็ดไขมันจำนวนมากกว่าเม็ดไขมันในน้ำนมที่ไม่ได้ผ่านการโฮโม จีไนซ์ถึง 10,000 เท่า และทำให้เอนไซม์ xanthine oxidase เพิ่มขึ้นซึ่งมีงานวิจัยกล่าวว่าอาจเป็นสาเหตุของเส้นเลือดโคโรนารีแข็งตัว (อีกเหตุผลหนึ่งของการที่คนไม่ควรกินนมวัว)