"เคยอ่านหนังสือพบว่า การอุ้มลูกบ่อยๆในช่วง 3 เดือนแรกจะไม่ทำให้ลูกติดมือ แต่เป็นการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างแม่และเด็ก หนังสือยังแนะนำให้อุ้มลูกทุกครั้งที่เขาร้องด้วย ช่วงเดือนที่ผ่านมาจึงอุ้มลูกบ่อยมาก จนปัจจุบันลูกมักร้องตอนกลางคืน และไม่ยอมนอนจนกว่าจะอุ้มจนหลับคามือ ทางพ่อแม่ฝ่ายสามีติงว่าอาจทำให้ลูกติดมือไปจนโต ถ้าทำทุกวิถีทางแล้วเขายังไม่หยุดร้อง ก็ควรปล่อยให้ร้องจนเหนื่อยแล้วหยุดไปเอง อยากทราบว่าจริงๆแล้วควรอุ้มหรือไม่อุ้ม"
ที่คุณ แม่เข้าใจถูกต้องแล้วค่ะ ผลงานวิจัยบอกว่าเด็ก 6 เดือนแรกซึ่งเป็นวัยที่สื่อสารความต้องการให้ผู้อื่นรับรู้ได้โดยการร้องไห้ เท่านั้น หากได้รับการตอบสนองจากผู้เลี้ยงดู ไม่ว่าจะเป็นการเดินเข้าไปหา การอุ้ม การสัมผัส การพูดคุยปลอบให้หายกลัว และได้รับความช่วยเหลือตรงกับความต้องการของเด็ก จะสามารถพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้เลี้ยงดูได้เป็นอย่างดี เกิดความไว้ใจ (trust) ว่ามีคนคอยดูแล และการร้องไห้จะน้อยลงเรื่อยๆ เมื่อเติบโตขึ้นมา จะเป็นเด็กที่เลี้ยงง่าย มีสุขภาพจิตที่ดี ไม่เรียกร้องความสนใจจนมากเกินไป (demanding) ป้าหมอเคยเจอฝาแฝดครอบครัวหนึ่ง คนหนึ่งเลี้ยงง่าย คนหนึ่งเลี้ยงยาก คนเลี้ยงยากถูกอุ้มเยอะมากกว่าในช่วง 3 เดือนแรก คนเลี้ยงง่ายถูกวางให้นอนเองมากกว่า พอโตขึ้นมา ปรากฎว่าคนเลี้ยงยากเรียนหนังสือเก่งกว่า อันนี้ก็ไม่ทราบว่าอาจเป็นผลมาจากการถูกอุ้มและเอาใจใส่มากกว่าหรือไม่
เด็กที่ขาดคนสนองตอบความต้องการอย่างเพียงพอในวัยทารก เช่น เด็กกำพร้าที่มีผู้ดูแลน้อยกว่าเด็กที่มีจำนวนมาก ร้องเป็นชั่วโมงแล้วยังไม่มีคนมาให้นม ช่วยเช็ดทำความสะอาด หรือปลอบให้หายกลัว เรียกว่าร้องจนสิ้นหวัง หยุดร้องไปเองเลย จะโตขึ้นมาอย่างคนขาดรัก เรียกร้องมากเพราะได้รับการเติมมาไม่เต็มพอ
การอุ้มในวัยนี้ไม่ได้เป็นการตามใจเด็กจนเสียนิสัย (spoil) แบบเดียวกับกรณีที่เด็กโตแล้วพูดเข้าใจแล้วซึ่งใช้วิธีร้องไห้เพื่อให้ได้ สิ่งที่ตรงการ ดังนั้นการร้องไห้ในวัยนี้ ให้อุ้มได้ค่ะ
ส่วนการที่ลูกของคุณแม่ยังมีปัญหาร้องมากกลางคืน ไม่ได้บอกหมอมาด้วย ว่าตอนนี้ลูกอายุเท่าไรแล้ว ขอเดาว่าอาจเป็นร้องโคลิก ถ้าลูกอายุยังไม่เกิน 3 เดือน เพราะเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยของการร้องแบบไม่มีสาเหตุ (ไม่ได้หิว ผ้าอ้อมเลอะ ปวดท้อง ) ที่ปลอบให้หยุดได้ยาก และไม่ยอมนอนจนกว่าอุ้มหลับคามือ หรือพาขับรถวนรอบหมู่บ้าน (จริงๆแล้ว ร้องจนพอใจแล้ว ครบเวลาแล้ว ก็หยุดร้องไปเอง)
หมอแนะนำว่าอดทนอีกไม่นานสถานการณ์จะดีขึ้นเมื่อลูกอายุเกิน 3 เดือนไปแล้ว ในระหว่างนี้หากลูกร้องต่อเนื่องเป็นชั่วโมง ถ้าทำทุกวิถีทางแล้วยังไม่หยุดร้อง การผลัดกันอุ้มบ้าง พักวางบ้างหากไม่มีคนช่วยอุ้มและแม่เหนื่อยมากแล้ว (ขอเวลานอกให้แม่ไปสูดอากาศ ก่อนกลับมาอุ้มใหม่) อย่างที่คุณพ่อแม่สามีแนะนำ ก็ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับสุขภาพจิตของลูก แต่ไม่ใช่เหตุผลเพราะกลัวลูกติดมือไปจนโตค่ะ ก่อนที่จะสรุปว่าลูกเป็นโคลิกคงต้องหาสาเหตุที่แก้ไขได้เช่น มีแก๊ส การให้ยาขับลมหรือทามหาหิงส์ก็จะช่วยได้ การแพ้อาหารหรือนมอาจเป็นสาเหตุร้องปวดท้องตอนกลางคืนได้ การปวดฟันที่กำลังขึ้น การฝันร้าย และอื่นๆอีกมาก หมอบอกสาเหตุที่เจาะจงได้ยากเพราะไม่ทราบอายุที่แท้จริงของลูกคุณแม่ค่ะ