ReadyPlanet.com
ardo calypso
dot
เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ : ข้อควรปฎิบัติ
dot
bulletการเริ่มต้นชีวิตที่ดีที่สุดสำหรับทารก 1
bulletการเริ่มต้นชีวิตที่ดีที่สุดสำหรับทารก 2
bulletวิธีเลือกกุมารแพทย์ให้ลูก
bulletก่อนคลอด
bulletสิ่งที่ต้องทำเมื่ออยู่ ร.พ.
bulletหลังคลอด
bulletท่าในการให้นม
bulletBreast Crawl
bulletความคาดหวังของลูกน้อย
bulletบันทึกการให้นมลูก
bulletวิธีให้นมเสริมอย่างถูกต้อง
bulletสัมผัสรักระหว่างแม่ลูก
bulletโรงพยาบาลสนับสนุนนมแม่
bulletแบบสอบถาม
dot
ปัญหาเรื่อง นมแม่
dot
bulletวิธีแก้ปัญหานมไม่พอ
bullet"นมแม่" ถ้าเข้าใจ ยังไงก็พอ
bulletนมพอหรือไม่
bulletเมื่อลูกไม่ดูดนมแม่ (new)
bulletอาหารเพิ่มน้ำนม
bulletวิธีเพิ่มน้ำนมด้วยการปั๊มนม
bulletWorkshop เพิ่มน้ำนม (new)
bulletยาประสระน้ำนม
bulletDomperidone (Motilium)
bulletยาเพิ่มน้ำนม Motilium
bulletคำเตือนสำหรับการใช้ยา Domperidone
bulletน้ำหนักตัวเพิ่มช้า
bulletน้ำหนักตัวน้อย
bulletเจ็บหน้าอก หัวนมแตก
bulletการบีบหน้าอก ช่วยลูกดูดนม
bulletลูกแพ้นมแม่หรือเปล่า
bulletตัวเหลือง
bulletสารพันปัญหา
บริจาคนมแม่
dot
เมื่อแม่ต้องไปทำงาน
dot
bullet20 เคล็ดลับสำหรับแม่ทำงาน
bulletมาทำ stock น้ำนม กันเถอะ
bulletวิธีให้ลูกยอมดูดนมแม่จากขวด
bulletจะให้ลูกกินอะไรเมื่อแม่ไปทำงาน
bulletวิธีเก็บรักษานมแม่
bulletต้องเตรียมปั๊มนมไว้ให้ลูกแค่ไหนถึงจะพอดี ?
bulletโปรแกรมคำนวณนมแม่
bulletยาคุมกำเนิด
dot
คุณแม่นักปั๊ม
dot
bulletการปั๊มนมโดยใช้เครื่องปั๊มนม
bulletปั๊มนมอย่างไรให้พอ หากลูกไม่ดูดจากเต้า
bulletข้อคิดก่อนซื้อ ที่ปั๊มนม
bulletเพิ่มน้ำนมภายใน 14 วันแรก
bulletเครื่องปั๊มนมยี่ห้อไหนดี
bulletซื้อเครื่องปั๊มที่ไหนดี
bulletปั๊มไฟฟ้า รุ่นไหนดี
bulletเรื่องของคุณแม่นักปั๊ม
bulletถุงเก็บน้ำนมแม่
dot
กลเม็ดเคล็ดลับ
dot
bulletวิธีบีบน้ำนมด้วยมือ (new)
bulletบีบด้วยมือ vs ปั๊มด้วยเครื่อง
bullet10 เคล็ดลับเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้ครบปี
bulletนอนให้นม...สบายมากๆ เลย
bulletอุปกรณ์เสริม ช่วยแม่ให้นมลูก
bulletมุมให้นมแม่
bulletวิธีพาสเจอร์ไรซ์นมแม่
dot
ปัญหาที่พบไม่บ่อย
dot
bulletลิ้นติด (Tongue Tie)
bulletเลี้ยงลูกแฝดด้วยนมแม่
bulletต้องการถามปัญหาอื่นๆ
bulletทำไมทารกร้องไห้โยเย
dot
หนังสือแนะนำ
dot
bulletขอรับหนังสือนมแม่ฟรี
bulletการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
bulletสร้างชีวิตมหัศจรรย์ด้วยน้ำนมแม่
bulletนมแม่ ทุนสมองของลูกรัก
bullet เคล็ดลับ...แม่มือใหม่ "นมแม่"
bulletเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
bulletพัฒนาสมองด้วยนมแม่...
bulletGuide to Breastfeeding
dot
แหล่งข้อมูลความรู้เรื่องนมแม่
dot
bulletคลินิกนมแม่ทั่วประเทศ
bulletนมแม่ แน่ที่สุด
bulletศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย
bulletคลีนิครัก
bulletศริริราชออนไลน์
bulletสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติ
bulletwww.breastfeeding.com
bulletPromom
bulletรักลูก
bulletLa Leche League
bullet4woman
bulletMother & Child Health
bulletWABA
bulletBreastfeedingonline
bulletDr. Sears
bulletbreastfeedingbasics
bulletwebboard
bulletkellymom
bulletDr. Jack Newman
bulletInfact
bulletgotbreastpump
bulletNew Beginnings
bulletโครงการสายใยรัก
bulletศูนย์ข้อมูล สสส
bulletUNICEF
bulletbreastfeedingmadesimple
bullethm4hb
bulletLactation Narration
bulletNormalFed
dot
Brainfeeding
dot
bulletเก็บมาฝาก
bulletIf we don't care, who will?
bullet๖๐ เรื่องน่ารู้ ในหลวงของเรา
bulletสัมภาษณ์ ดร. อาจอง ชุมสาย ฯ
bulletคนดีของพ่อ
bulletเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้รู้
bulletคุยกับประภาส
dot
Sponsor Link
dot
bulletbfdcenter
bulletร้านนมแม่
bulletศูนย์รวมฟิล์มทุกชนิด
bulletV-Kool
bulletSuvarnabhumi Airport Hostel
bulletBussaba Bangkok Boutique Hotel Suvarnabhumi Airport
bulletbeing-mom
bulletมีลูกยาก
bulletSite Map
ปั๊มไฟฟ้า รุ่นไหนดี whisper
unimom allegro
ardo calypso
Ardo Carum
bulletนมแม่


ร้านนมแม่-เครื่องปั๊มนม


ท้องสาม ลองแล้วถึงรู้ ตอน นมผสม-1

 เห็นชื่อหัวข้อว่า นมผสม แล้วก็อย่าเพิ่งตกใจคิดว่าวันนี้ webmother จะมาแนะนำให้ลูกกินนมผสมกันหรือยังไง ไม่ใช่ค่ะ

ที่วันนี้อยากจะคุยเรื่องนมผสม ก็เพราะเพิ่งจะตระหนักว่านอกจากนมผสมจะเป็นตัวการทำให้แม่ไม่มีน้ำนมตั้งแต่แรกคลอด จากการที่ผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายชอบเอานมผสมให้ก่อนแล้ว ยังเป็นตัวการทำให้แม่ที่อุตส่าห์ฟันฝ่าอุปสรรคไม่ได้ให้นมผสมตั้งแต่แรก และสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างดีจนครบหกเดือนได้ กลายเป็นแม่ที่มีนมไม่พอ (อีกจนได้)

กรณีที่แม่มือใหม่ไม่มีความรู้ความเข้าใจ และถูกสถานการณ์บังคับทำให้ต้องให้นมผสมนั้น รู้สึกน่าเห็นใจเป็นอย่างมาก แต่แม่ที่สามารถฟันฝ่าอุปสรรคจนให้นมแม่ได้ตั้งแต่แรก แต่มาตกม้าตายให้นมผสมตอนสามสี่เดือน หรือหกเดือนไปแล้วนี่น่าเสียดายมากๆ ค่ะ

ก่อนอื่นต้องขอเล่าซ้ำให้ฟังอีกครั้งว่าลูกคนแรกคลอดปี 45 แม่แค่ตั้งใจว่าจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะแม่ของแม่กำชับมาว่าให้หลานกินนมแม่ ประกอบกับพ่อเขาก็เชื่อว่าลูกคนต้องกินนมคนเท่านั้น แต่เวลานั้น ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มากขนาดนี้ ลูกคนแรกก็เลยได้รับนมผสมตอนที่อยู่โรงพยาบาลสองสามวัน พอกลับมาบ้าน พ่อเขาก็เททิ้งหมด แล้วหลังจากนั้นลูกคนโตก็ไม่ได้กินนมผสมเลย

ด้วยความที่ความรู้ยังน้อย ก็ทุลักทุเลพอสมควร หานู่นหานี่มากินเพื่อจะได้มีนมพอ แต่ไม่รู้กฎสำคัญที่ว่ายิ่งให้ลูกดูดแล้วยิ่งมีน้ำนม ไม่รู้ว่าควรจะให้กินนมแม่อย่างเดียวหกเดือน ลูกคนโตก็เลยเริ่มกล้วยบดตั้งแต่สามเดือนกว่า พอเจ็ดแปดเดือนก็เริ่มปั๊มนมไม่ค่อยออกเพราะไม่รู้ว่าเครื่องปั๊มนมดีๆ กับไม่ดี มีผลต่างกันยังไง เมื่อปั๊มนมไม่ออกก็เลยไปซื้อเครื่องทำนมถั่วเหลือง แล้วก็เริ่มให้นมถั่วเหลืองที่ทำเองตอนสิบเอ็ดเดือน ควบคู่ไปกับนมแม่และอาหารอื่น ไม่เคยคิดถึงนมผสมเลย

จากประสบการณ์ของลูกคนโต ทำให้เห็นคุณค่าของนมแม่อย่างเต็มที่ ลูกคนที่สองก็เลี้ยงด้วยนมแม่ได้ง่ายขึ้น แต่ตอนคลอดใหม่ๆ ก็เรียกว่ายังไม่ได้รู้มากเท่าไหร่ อาศัยแค่ประสบการณ์เดิมๆ พอลูกตัวเหลือง หมอบอกให้งดนมแม่แล้วส่องไฟ ก็เชื่อหมอ ลูกคนที่สองก็เลยได้นมผสมไปอีกสองวันตอนที่ส่องไฟอยู่โรงพยาบาล หลังจากนั้นก็ไม่ได้นมผสมอีกเลยเช่นกัน

พอลูกคนที่สองได้สามเดือน เข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น ทำให้ได้ความรู้เกี่ยวกับนมแม่ที่ไม่เคยรู้มาก่อน จากเว็บของต่างประเทศมากมาย จนต้องเอามาเผยแพร่เป็นเว็บนี้ขึ้นมา ทำไปทำมาจนลูกคนที่สองหย่านมไปแล้ว เข้าโรงเรียนแล้วก็ยุ่งๆ จนใกล้จะหมดไฟในการทำเว็บนี้ไปเลย แต่ก็เหมือนฟ้าลิขิต อยู่ดีๆ ก็ทำให้มีลูกคนที่สามจนได้

ลูกคนนี้ก็มาจุดไฟให้แม่มีความรู้สึกอยากคิดอยากเขียนเรื่องเกี่ยวกับนมแม่ต่อไปอีก ทั้งๆ ที่ก็ไม่ค่อยจะมีเวลาเท่าไหร่

เนื่องจากมีประสบการณ์และข้อมูลมากมายจากการทำเว็บนี้มาสามปีกว่า ทำให้ลูกคนนี้รอดจากนมผสมตั้งแต่แรกคลอดมาได้ แม้กระทั่งตัวเหลืองก็ยังผ่านมาได้ตามที่เล่าให้ฟังไปตอนที่แล้ว

เกริ่นมาเยอะแยะก็เพียงเพื่อจะบอกว่า จริงๆ แล้วโลกเราไม่จำเป็นต้องมีนมผสมก็ได้ ถ้าไม่มีนมผสม เราจะไม่มีปัญหากับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เลย การที่ลูกร้องตลอดเวลาตั้งแต่แรกคลอดก็จะไม่ใช่ปัญหา การที่ลูกต้องการดูดนมแม่ตลอดเวลาก็จะไม่ใช่ปัญหา การที่ลูกดูดนมแม่นานๆ ก็จะไม่ใช่ปัญหา เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติต่างหาก

ถ้าไม่มีนมผสม แม่ที่อาจจะมีปัญหาทางสุขภาพและร่างกายจนไม่อาจให้นมลูกได้จริงๆ คงจะมีไม่เกิน 5% ของมนุษย์ทั้งหมด ตามความน่าจะเป็น เท่าที่เคยเป็นมานับพันๆ ปีของมนุษยชาติ

แต่ตั้งแต่เริ่มมีผู้คิดค้นผลิตนมผสมขึ้นมาเมื่อปี 1867  ความโลภของมนุษย์ ทำให้เกิดการตลาดที่ไร้จรรยาบรรณ จนทำให้ทุกวันนี้เหลือแม่ที่เชื่อว่าตนเองมีนมพอสำหรับลูกเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ มนุษย์เรากำลังจะวิวัฒนาการตัวเองให้กลายเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมของสัตว์ชนิดอื่นหรือ

ไม่ใช่เลย เพราะความโลภและการตลาดที่ไร้จรรยาบรรณต่างหากที่ทำให้ทุกคนรู้สึกว่า นมแม่ไม่พอ

เพิ่งซื้อหนังสือมาใหม่เล่มหนึ่งชื่อว่า "The Politics of Breastfeeding: When Breasts are Bad for Business" เขียนโดย Gabrielle Palmer

 มีประเด็นหนึ่งกล่าวไว้น่าสนใจมากว่า ในบางสังคมแบบโบราณ มีความเชื่อว่า ถ้าถูกคำสาปหรือแช่ง จะทำให้น้ำนมแม่แห้งหายไปได้ แล้วผู้เขียนก็เปรียบเทียบว่า ในสังคมปัจจุบันนี้ก็มีคำสาปแช่งสมัยใหม่เช่นกัน

คำสาปแช่งนั้นมีว่า "If breastmilk fails,..." ใช่แล้ว ประโยคที่เราคุ้นเคยกันดี "ถ้านมแม่ไม่พอ...(ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงนมแม่ที่สุด คือผลิตภัณฑ์... ของผู้สาปแช่งนั่นเอง)"

คำสาปแช่งนี้ ผู้ผลิตนมผสมทุกรายใช้ได้ผลมาแล้วกับคนทั่วโลก และยังคงเดินหน้าใช้มันต่อไป พร้อมๆ กับคำกล่าวอ้างว่าพวกเขากำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเพื่อสุขภาพและความฉลาดของลูกน้อยของเรา ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วผู้ผลิตนมผสมเหล่านั้นกลับปกปิดข้อมูลมากมายที่ควรจะเปิดเผย เพื่อให้พ่อแม่ตระหนักและระมัดระวังมากกว่านี้หากเลือกที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมผสม

ขอยกตัวอย่างข้อมูลที่น้อยคนนักที่จะรู้อย่าง เช่น

นมผงดัดแปลงสำหรับทารกที่ขายกันอยู่ทั่วโลกนี้ (ทุกยี่ห้อ) ไม่ได้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดเชื้อ แม้ว่าจะบรรจุอยู่ในกระป๋องหรือบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิทมาจากโรงงานก็ตาม นมผงเหล่านั้นไม่ได้ผ่านกระบวนการสเตอริไรส์เซชั่น หรือการฆ่าเชื้อโรคในระหว่างการผลิตเลย นั่นก็เพราะว่ากระบวนการสเตอริไรส์เซชั่นจำเป็นต้องใช้ความร้อนสูงเพื่อการฆ่าเชื้อโรค แต่ถ้าใช้ความร้อนสูงในกระบวนการผลิต ก็จะไปทำลายคุณสมบัติของสารอาหารในผลิตภัณฑ์นั้นเอง

นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เราได้ยินข่าวว่ามีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียชนิดต่างๆ ในนมผงที่วางขายกันอยู่บ่อยๆ  ทำให้ทารกที่กินนมผสมเหล่านั้นได้รับเชื้อโรค ซึ่งอาจก่อให้เกิดการเจ็บป่วยอย่างรุนแรง หรืออาจถึงแก่ชีวิตได้

ทุกครั้งที่เราเปิดนมกระป๋องเพื่อเลี้ยงลูก เท่ากับเรากำลังเสี่ยงว่า กระป๋องนี้จะถูกแจ็คพ็อตหรือไม่ ซึ่งเป็นแจ็ตพ็อตที่เราไม่อยากได้เลย

ตั้งแต่ปี 2000 จนถึงปัจจุบัน (4/2009) มีรายงานการปนเปื้อนของเชื้อโรค และการเรียกเก็บนมผสมยี่ห้อต่างๆ ที่ไม่ปลอดภัยสำหรับทารกออกจากท้องตลาดเป็นจำนวนถึง 78 ครั้ง ในหลายสิบประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และประเทศไทยเอง (http://www.ibfan.org/site2005/Pages/article.php?art_id=85&iui=1)

เนื่องจากนมผงดัดแปลงสำหรับทารกไม่ได้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดเชื้อ องค์การอนามัยโลกจึงต้องออกคู่มือเพื่อแนะนำวิธีการเตรียมนมผสมให้ปลอดภัยสำหรับทารกขึ้นมาโดยเฉพาะ คู่มือนี้มี 32 หน้า ใครอยากรู้ว่ามีอะไรบ้างก็ดาวน์โหลดไปอ่านกันค่ะ (http://www.who.int/foodsafety/publications/micro/pif_guidelines.pdf)

คำแนะนำหนึ่งในนั้นก็คือ น้ำที่จะใช้เตรียมนมผสมต้องต้มให้เดือดแล้วปล่อยให้อุณหภูมิลดลง แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 70 องศาเซลเซียส แล้วค่อยผสมนมผงลงไป เพราะถ้าน้ำมีอุณหภูมิต่ำกว่านี้จะไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคที่ปนเปื้อนอยู่ในนมผงนั้นได้ หลังจากนั้นจึงค่อยทิ้งไว้ให้เย็นลงต่อ จนกระทั่งสามารถป้อนทารกได้โดยไม่ลวกปาก คำแนะนำนี้มีอยู่ข้างนมกระป๋องยี่ห้อไหนบ้างไหมคะ

ข้อมูลอีกอย่างก็คือ ขวดนมพลาสติกใสๆ ที่ขายกันอยู่ทั่วไปในท้องตลาดบ้านเรานั้นมีสาร Bisphenol A (BPA) เป็นส่วนประกอบ ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง ภูมิคุ้มกันบกพร่อง  โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และส่งผลต่อการเจริญเติบโตของตัวอ่อนและสมองของทารก การใช้น้ำยาทำความสะอาดแบบเข้มข้นและความร้อนสูงในการทำความสะอาด หรือใช้บรรจุของเหลวร้อนๆ จะทำให้ขบวนการขับสารพิษออกมาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วขึ้น

ถ้าเราไม่ใช้น้ำร้อนชงนม ไม่นึ่งขวดนม ลูกเราก็กำลังเสี่ยงกับเชื้อโรคอันตราย ถ้าเราใช้น้ำร้อนชงนม ลูกเราก็กำลังเสี่ยงกับสารก่อมะเร็ง นี่คือสิ่งที่เราได้รับเมื่อเราตัดสินใจเลือกหรือถูกบังคับ (หรือถูกสาปแช่ง) ให้เลือกที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมผสม ไม่นับความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดผลเสียทางสุขภาพอื่นๆ อีกในระยะยาว

เรื่องของนมผสมนี้ยังไม่จบค่ะ ยังไม่ได้พูดถึงว่าทำไมแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่มาดีๆ กลับต้องมาเสียท่านมผสมได้ยังไงเลย แต่รู้สึกว่าบทความนี้ยาวเกินไปแล้ว ขอยกไปต่อ ตอน 2 ค่ะ

webmother@breastfeedingthai.com

หมายเหตุ-ขวดนมที่ปราศจาก BPA ในท้องตลาดบ้านเราขณะนี้ราคาประมาณ 2-300 บาทต่อหนึ่งขวด ขวดแก้วราคาประมาณ 3-400 บาท :(

สามารถอ่านหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้ได้โดย scroll down ลงไปด้านล่าง



Webmother รำพัน

ซื้อเครื่องปั๊มตามรีวิว
บุคลากรทางการแพทย์กับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
เลิกด่านมผงซะทีเถอะครับ...จากใจคุณพ่อลูกสอง (ตอนที่ 1)
หมาป่าในคราบนักบุญ
ปั๊มนมวันละ 7-8 รอบทุกวัน ทำไมนมไม่เพิ่มสักที
อุปสรรคทางสังคมกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
การให้ลูกกินนมผสมไม่เกี่ยวอะไรกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
นมเกลี้ยงเต้า เข้าใจให้ถูกต้อง
สงครามน้ำนม ตอนที่ 3 ตัวอย่างแจกฟรี
สงครามน้ำนม ตอน เล่นผิดบท
สงครามน้ำนม ตอน ลูกคนควรกินนมอะไร
อย่าบอกว่าดีเหมือนกัน
รู้ว่าเขาหลอก แต่เต็มใจให้หลอก
คุณค่าของนมแม่หลัง 6 เดือน หรือ 1 ปี
หมอที่ไม่ชอบให้หนูกินนมแม่
ท้องสาม ลองแล้วถึงรู้ ตอน นมผสม 3 article
ท้องสาม ลองแล้วถึงรู้ ตอน นมผสม-2
สงสารหลินฮุ่ย article
ท้องสาม ลองแล้วถึงรู้ ตอน ตัวเหลือง
ร้องแค่ไหนถึงไม่ตาย
โครงการจัดพิมพ์หนังสือนมแม่ 2
โครงการจัดพิมพ์หนังสือนมแม่
Workshop เพิ่มน้ำนม ฉบับล่าสุด
ขอความร่วมมือหน่อยค่ะ
ไม่รู้จักพอ article
คำถามที่ไม่อยากตอบ
โรงพยาบาลสนับสนุนนมแม่
ช่วยกันเผยแพร่ความรู้ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ article
ทำไมถึงเข้าใจว่านมไม่พอ
แบบนี้ เห็นทีจะไม่พอแน่ article
ถ้าเข้าใจ...ยังไงก็พอ Part 2 article
ถ้าเข้าใจ...ยังไงก็พอ Part 1 article
ต้องการแต่ไม่อยากเป็น article
ควันหลง แม่ดีเด่น อยากเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ article
รับสมัคร แม่อาสา ให้คำปรึกษาเรื่องนมแม่
Mission Accomplished : หนังสือของเรา
วันแม่แห่งชาติ - สัปดาห์แห่ง การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ article
Workshop เพิ่มน้ำนม article
นมไม่พอ - บันทึกการให้นมลูก article
นมแม่ ช่วยป้องกัน โรคติดเชื้อ ไอพีดี article
บีบน้ำนมด้วยมือ article
13 เม.ย. 49 เปิดใจ webmother article
ถุงรับขวัญ article
สงครามน้ำนม ตอนที่ 2 หมอจบอะไรมา
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้
เข้าเว็บนี้ครั้งแรก article



[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (103873)

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆที่แบ่งบันคะ ตอนนี้กำลังเตรียมตัวเป็นคุณแม่มือใหม่ อ่านแล้วได้ประโยช์มากๆเลย เพราะตัวเองก็ตั้งใจอยู่แล้วว่าจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่คะ

ผู้แสดงความคิดเห็น somjeed วันที่ตอบ 2009-07-13 09:32:27


ความคิดเห็นที่ 2 (103875)

ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่านมแม่สำคัญถึงเพียงนี้ และนมผสมอันตรายขนาดนั้น ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ และขอเป็นกำลังใจให้เผยแพร่งานดีๆอย่างนี้ต่อไป เพื่อลูกหลานและอนาคตของประเทศเราค่ะ ยินดีสนับสนุนเต็มที่ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปริญ วันที่ตอบ 2009-07-13 12:12:46


ความคิดเห็นที่ 3 (103876)

     เพิ่งรู้ซึ้งถึงคำว่านมแม่  เมื่อเป็น อสม.แล้วสมัครเข้าโครงการนมแม่  และก็เสียใจมากที่ไม่ได้ให้ลูกกินนมแม่เลย

รู้แล้วว่าทำไมลูกปวดท้องเมื่อให้กินนมขวด จนกระทั่งเลี้ยงลูกเองไม่ได้ ต้องให้คนอื่นนำไปเลี้ยงแทน ไม่รู้เขาทำอะไรกับ

ลูกเราบ้าง  หกเดือนล่วงไปแล้วเขาถึงเอาลูกมาคืน  บอกตรงว่าลูกเราไม่ครบร้อย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แม่ที่เสียใจ (gullayar522-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-07-13 13:21:23


ความคิดเห็นที่ 4 (103992)

ขอบอกว่าเป็นคนนึงค่ะ ที่ทำความเข้าใจเรื่องนมแม่ และเตรียมตัวเป็นอย่างดีเรื่องนมแม่

ฝากครรภ์ก้อย้ายไปฝากกับ รพ.สนับสนุนนมแม่ และมีการเตรียมพร้อมอีกหลายอย่างมากๆ รวมทั้งอ่านข้อมูลเรียกว่า แทบจะทุกบทความเกี่ยวกับนมแม่ เคยผ่านสายตาดิชั้นมาแล้ว

อยากบอกว่า ประสบความสำเร็จกับนมแม่ได้ เพราะข้อมูลที่ถูกต้องจากเวปนี้ และ ฯลฯ

ถึงแม้ในระยะเริ่มแรกจะมีปัญหาเรื่องการทำความเข้าใจกับคนรอบข้างบ้างเล็กน้อย แต่ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น และมั่นใจในนมแม่ ดิชั้นไม่เคยหวั่น กับคำพูดใดๆ ตั้งใจให้นมแม่ต่อไปจนถึงที่สุด และไม่เคยให้นมผสมแก่ลูกเลย

ถึงตอนนี้ตั้งใจว่าจะให้นมแม่กับลูกให้นานที่สุด พยายามปั๊มนมสม่ำเสมอแม้เลี้ยงลูกเต็มเวลา และลูกไม่ดูดขวดก้อตาม แต่ก้อปั๊มเพื่อรักษาปริมาณน้ำนมให้ไม่ลดลงมากตามกาลเวลา แถมน้ำนมที่ปั๊มออกมายังแบ่งไปให้หลานสาววัยใกล้เคียงกับลูกชายได้อีกตะหาก

มีหลายคนรอบข้างมากมาย พยายามพูดให้ลูกกินข้าวตั้งแต่ยังไม่ 6 เดือน และให้เสริมนมชง ทำให้ดิชั้นแอบหงุดหงิดใจเป็นอย่างมาก ว่าเฮ้ย... ใครเป็นคนบัญญัติว่าในโชลกนี้เด็กต้องกินนมวัว ใครเป็นคนบัญญัติว่านมแม่ประโยชน์ไม่พอ และน้อยกว่านมวัวจนต้องเสริมนมวัว ได้แต่บอกไปว่าไม่ค่ะ อ้างหมอไปว่า หมอขอว่า ให้นมแม่อย่างน้อย 2 ปี

มีรุ่นพี่ที่ทำงานเก่าคนนึง ด้วยความหวังดีกับน้องตัวเอง มาเล่าให้ดิชั้นฟังว่า "ดูสิน้องสาวตัวเองลูกจะขวบแล้ว ยังให้กินนมตัวเองอยู่อีก หลัง 6 เดือนไม่มีประโยชน์แล้ว บอกยังงัยก้อไม่เชื่อ" ดิชั้นได้แต่ก๊อปบทความหลายบทความจากเวปนี้ ส่งไปให้อ่านทางอีเมล์ จนล่าสุดไม่แน่ใจว่าพี่เค้าไม่เข้าใจ หรือยังไม่ได้อ่าน พี่ท่านนั้นมาบอกดิชั้นว่าพี่เห็นหลานแล้วสงสาร แม่เค้าไม่เสริมอะไรเลย ให้กินแต่นมตัวเอง กับข้าว พี่บอกให้ซื้อนมชงเสริม ก้อไม่เชื่อฟังอย่างนี้แล้วได้แต่คิดว่า ทำไมนะ กลายเป็นเข้าใจว่า การให้นมแม่เป็นเรื่องของคนจน? คนไม่มีเงินหรอ? ทั้งที่ทุกครั้งที่ได้คุยกัน ดิชั้นจะบอกเสมอว่า ดีแล้วพี่ให้นมแม่นานๆสิดี ดิชั้นก้อจะให้นานๆ เหมือนกัน แต่ป่านนี้พี่ท่านนั้นคงซื้อนมวัวไปให้หลานเรียบร้อยหรือยัง ไม่ทราบได้

ล่าสุด เพื่อนบ้านหลายๆ คน ถามตรงกันเลยว่า จะให้ลูกกินนมวัวเมื่อไหร่ ดิชั้นก้อบอกไปว่าคงไม่ค่ะ อ้างหมอเหมือนเดิม ว่าหมอขอสองปี ใจจริงน่ะ จะให้นานกว่านั้นยาวๆ เลย แต่ไม่พูดละค่ะ เพราะเคยพูดแล้วมีแต่คนหัวเราะ หาว่าบ้า ป่านนั้นจะมีนมให้ลูกรึป่าว? (ดิขั้นให้นมลูกมาจะ 8 เดือนแล้ว น้ำนมยังมาปรกติ พุ่งปรี๊ดๆ เหมือนเดิม เพราะการปั๊มนม)

หลังจากที่พูดตอบไปว่าจะให้นมแม่นานๆ ยังถามกันต่ออีกว่า จะเสริมนมชงมั้ย? เฮ้อเอาอีกแล้ว คำถามยอดฮิต ดิชั้นตอบไปเช่นเดิม ไม่ค่ะ หมอขอนมแม่สองปี แต่เวลาเจอหน้ากัน ก้อยังโดนถามเสมอๆ เรื่องเสริมนมชง ในความเข้าใจของตัวเองของที่จะมาเสริมมันต้องเอามาแทนในส่วนที่ขาดและไม่พอ แต่นมแม่ประโยชน์พอเกินจะพอ แล้วทำไมต้องเสริม?

แม้แต่สามีก้อยังบอกว่า หลังสองปี อยากให้ลูกกินนมวัว ดิชั้นยังอยากให้ลูกกินนมคนต่อไป แม้ใครจะบอกว่าให้นมแม่ แล้วแม่จะโทรม ดิชั้นไม่เคยกลัว แต่ให้ไม่เหลือความงามแม้แต่น้อย ดิชั้นก้อยินดีทำเพื่อลูกถึงที่สุด ขอเพียงแค่ความเข้าใจและกำลังใจเท่านั้นพอ!!

ผู้แสดงความคิดเห็น แม่น้องต้นหนาว วันที่ตอบ 2009-07-18 08:00:56


ความคิดเห็นที่ 5 (103993)

อยากให้ความรู้ในบทความนี้ และเว็บไซต์นี้

ให้คุณแม่ทั้งประเทศได้รับรู้จริงๆ

แล้วถ้าคุณแม่ที่ไม่มีอินเตอร์เน็ต และไม่อ่านหนังสือแม่-ลูก เพื่อหาความรู้ ไม่ได้รับความรู้ดีๆ แบบนี้ ก็สงสารลูกน้อยจัง

ผู้แสดงความคิดเห็น แม่พี่เฟรชกะน้องเฟรม วันที่ตอบ 2009-07-18 08:01:56


ความคิดเห็นที่ 6 (103994)

ก็ช่วยกัน fwd ให้คนที่รู้จักต่อไปสิคะ ใครมีเพื่อน แฟนเพื่อน พี่น้อง หรือคนรู้จัก โดยเฉพาะที่กำลังจะเป็นคุณแม่ยิ่งควรจะได้รับรู้ไว้ค่ะ เราไม่ต้องหวังสูงว่าเด็กไทยทั้งประเทศจะได้กินนมแม่ทั้งหมดหรอกค่ะ แค่ได้กินเพิ่มมาอีกคนจากที่เราแต่ละคนช่วยกันบอกต่อก็น่าดีใจแล้วค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2009-07-18 08:09:57


ความคิดเห็นที่ 7 (105229)

เป็นความรู้ที่ควรเผยแพร่ต่ออย่างมาก

แต่ทำอย่างไรจึงจะสามารถเผยแพร่ให้ทราบได้มากๆ

และคนจนไม่มีเงินซื้อของดีๆใช้ จะแก้อย่างไร

ผู้ผลิตรับผิดชอบไหม

ผู้แสดงความคิดเห็น ประยูรเทพ วันที่ตอบ 2009-09-08 05:42:00


ความคิดเห็นที่ 8 (105231)

 คุณ Webmother เขียนบทความโดนๆ ได้ดีๆ เช่นเคย :)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น บี มามี๊ต่าต๋า วันที่ตอบ 2009-09-08 09:30:19



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล