รายงานล่าสุดจากวารสาร The American Journal of Epidemiology ทบทวนงานวิจัยมากกว่า 100 ฉบับ โดยย้อนหลังไป 30 ปี มีจำนวนทารกในการศึกษาทั้งหมดประมาณ 250,000 คน พบว่า
การกินนมแม่ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหอบหืดในเด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ ลงได้ถึง 37% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้กินนมแม่ และเมื่อติดตามไปถึง 7 ขวบ ก็ยังพบว่าเป็นโรคหอบหืดน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้กินนมแม่ 17% พบว่าแตกต่างกันไม่มากเหมือนตอนอายุน้อย เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ระบบภูมิ คุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น คนที่เคยเป็นโรคมาก่อน เมื่อโตขึ้นก็จะมีอาการดีขึ้น ไม่หอบอีก แต่ก็ยังมีอาการแพ้ระบบอื่น เช่น โรคผิวหนังอักเสบ โรคภูมิแพ้อากาศ ไซนัสอักเสบ หูอักเสบ
อย่างไรก็ดี การกินนมแม่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการหอบที่รุนแรงในวัยเด็กเล็ก ซึ่งทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจำนวนมาก บางรายต้องนอนรักษาตัวในรพ.หลายวันเพราะต้องให้ยาฉีดทางเส้นเลือด และ ยาพ่นขยายหลอดลม บางรายต้องสั่งยาพ่นสเตียรอยด์กลับไปพ่นต่อเนื่องที่บ้าน แบบกระบอกเหมือนรูปตัวอย่าง หรือ อาจต้องสั่งซื้อเครื่องพ่นยาไว้ใช้พ่นเองที่บ้าน เมื่อป่วยบ่อยก็จะทำให้การเจริญเติบโตหยุดชะงัก ต้องหยุดเรียนบ่อยๆ ออกกำลังกายได้ไม่เต็มที่เพราะเหนื่อยง่าย
ในบรรดาเด็กๆนมแม่ที่ป้าหมอดูแล กลุ่มที่ประสบความสำเร็จในการให้นมแม่เป็นอันดับต้นๆ คือ กลุ่มที่มีคุณพ่อ หรือ คุณแม่ เคยเป็นโรคหอบหืดเมื่อตอนเด็ก เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่ยังจำความทุกข์ทรมานที่ตัวเองเคยเป็น จึงไม่อยากให้ลูกเป็นแบบเดียวกัน และ อีกกลุ่มหนึ่ง คือ คนที่เคยมีลูกคนโตเป็นโรคหอบหืด หรือ ป่วยบ่อยๆ ก็จะมีแรงจูงใจสูงสุดที่จะให้ลูกคนต่อไปได้กินนมแม่.jpg)
ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ทุกท่านคะ หากท่านต้องการให้นมแม่สำเร็จ จงอย่าคุยกับคนที่ให้นมผงที่มีลูกอายุยังไม่เข้าโรงเรียนนะคะ เพราะอาจทำให้เข้าใจผิดคิดว่า "นี่ไง ลูกชั้นกินนมผงมานานตั้ง 1 เดือนกว่าแล้ว แข็งแรงสุดๆ พัฒนาการดีสุดๆ ไม่จริงหรอกที่ว่า กินนมผงแล้วป่วยบ่อย" แต่ให้คุยกับคุณแม่ที่มีลูกวัยเข้าเรียนแล้ว ประมาณเนอสเซอรี่จนถึงอนุบาล 2 แล้วลองเปรียบเทียบดูอย่างเป็นธรรมว่า การกินนมแม่ป่วยน้อยกว่ากินนมผง จริงหรือไม่
ปล.1 ถ้าใครจะแชร์ประสบการณ์ส่วนตัว เชิญได้นะคะ และรบกวนช่วยบอกอายุของลูก และ รายละเอียดว่าเข้าเรียนหรือยังด้วยค่ะ เพื่อที่ท่านผู้อ่านจะวิเคราะห์ข้อมูลได้
ปล.2 โพสต์นี้ไม่ต้องการซ้ำเติม คุณแม่ที่ให้นมแม่ไม่สำเร็จนะคะ ดังนั้นอย่ามาดราม่าหาว่า ป้าหมอโจมตีคุณแม่ที่ให้นมแม่ไม่สำเร็จว่า ไม่รักลูกนะคะ หรือ กำลังเอายาพิษให้ลูกกิน แม่ทุกคนรักลูกเหมือนกันค่ะ ไม่ว่าจะกินนมอะไรก็ตาม และ ถ้าป้าหมอไม่มีนมแม่ ป้าหมอก็อาจต้องให้นมผงกับลูกป้าหมอเช่นกัน เพราะไม่เช่นนั้น ลูกก็อาจจะตายเพราะขาดอาหารก็เป็นได้
แต่ป้าหมอต้องให้ข้อมูลที่แท้จริง เพื่อเป็นแรงผลักดันสำหรับคุณแม่มือใหม่ ให้พยายามอย่างสุดความสามารถ และ ให้แม่มือใหม่ หรือ ผู้ที่กำลังจะเป็นคุณแม่ได้ทราบข้อมูลที่ถูกต้องว่า นมผงไม่ได้ดีเท่านมแม่ และ มีอันตรายแฝงอยู่ จึงไม่ควรใช้ถ้าไม่มีข้อบ่งชี้ หรือ พยายามหาหนทางให้นมแม่ให้สำเร็จอย่างเต็มความสามารถ เช่น ไปคลินิคนมแม่ หรือ หาความรู้ในแฟนเพจต่างๆ และถ้าได้ทำเต็มที่แล้ว ยังต้องใช้นมผง ก็เลือกนมผงที่ปลอดภัยที่สุด ที่ลูกไม่แพ้ แล้วก็ไม่ต้องเสียใจอีกต่อไปค่ะ เพราะคุณไม่ได้รักลูกน้อยกว่าคนอื่นเลย