ป้าหมอขอแชร์ประสบการณ์จากคุณแม่ Paweena เกี่ยวกับเรื่องการแพ้แป้งสาลีของน้องแป้งพิมพ์ มีหลายประเด็นที่ป้าหมออยากนำมาแชร์เพื่อเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่านค่ะ
"วันนี้ไปฟังผลตรวจเลือดของแป้งพิมพ์ค่ะ (แพ้แป้งสาลี นมวัว) ตอนนี้น้อง 6 ขวบแล้วค่ะ เข้ามาในแฟนเพจชมรมรักเด็กขี้แพ้ ตั้งแต่ 3 ขวบ เป็นเด็กแพ้ยุคแรกๆของชมรมตั้งแต่ยังมีสมาชิกไม่ถึง 1000 คน ติดตามชมรมและปฏิบัติตามมาตลอดเรื่องการงดเข้ม ผลตรวจเลือดดีขึ้นทุกปี จากเดิม 19.5 ตอน 1.6 ขวบ ปีถัดมา 5.5 , 5.4 , 4 , 3.8 (แป้งสาลี) มาปีนี้วันนี้หวังว่าถ้าไม่หายก็ต้องดีขึ้นแน่ๆ แต่ผลที่ออกมาคือ 8 ถึงกับร้องไห้ทั้งแม่ทั้งลูกเพราะเราไม่ได้เตรียมใจรับกับการเพิ่มขึ้นของผล เลือดคิดเพียงแค่ว่าถ้าไม่หายมันต้องดีขึ้นเพราะมันก็ดีขึ้นทุกปีจริงๆ แต่ไม่เข้าใจว่าลูกก็งดเข้มขนาดนี้
ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้ สงสารแป้งพิมพ์มาก หลายคนที่ติดตามเรื่องราวของเรา จะทราบดีว่าตลอดระยะเวลาที่ลูกรู้ตัวว่าแพ้ ต้องเจอะเจอเรื่องราวต่างๆมากมายที่บั่นทอนกำลังใจ ทั้งจากคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ แต่ลูกก็อดทนและเข้มแข็งมาตลอด ดูแลตัวเองตามที่แม่ และ คุณหมอบอก เพราะมั่นใจว่าตัวเองต้องหายๆๆๆ
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาลูกนอนละเมอร้องไห้เพียงครั้งเดียวตอน 3 ขวบว่าอยากกินเค้กแป้งสาลี แต่มาวันนี้ลูกไม่ได้ละเมอ เธอร้องไห้ออกมาจากหัวใจของเด็กที่ตั้งใจแล้วรู้สึกผิดหวังมากๆๆๆๆ แม่ได้แต่กอดลูกไว้แล้วก็บอกลูกว่า หนูอยากร้องก็ร้องออกมาเลย แม่เข้าใจ หนูเสียใจมากเท่าไหร่แม่เสียใจยิ่งกว่าหนูหลายเท่า
แต่พอขึ้นรถจะกลับบ้าน ลูกบอกกับแม่ว่า ไม่ใช่ความผิดของแม่หรอกที่ให้หนูกินซุปเห็ดตอน 4 เดือน ก็แม่ไม่รู้นี่ว่าหนูแพ้ ไม่มีแม่คนไหนที่อยากให้ลูกแพ้หรอก แม่น้ำตาตกในเลยค่ะ นี่หรือคำพูดของเด็ก 6 ขวบ และยังบอกกับแม่อีกว่า พรุ่งนี้วันเกิดใครเอ่ย หนูเตรียมคำอวยพรไว้ให้แม่แล้วนะคะ พูดไม่ออกเลยค่ะ เรากลัวเขาเสียใจ แต่เขากลับกลัวเราเสียใจยิ่งกว่า กลับกลายเป็นมาปลอบใจแม่แทน
และปีการศึกษานี้ลูกก็กำลังจะขึ้น ป.1 ย้ายไปอยู่ ร.ร ใหม่ ซึ่งเป็น ร.ร ใหญ่ น.ร เยอะ ก็ต้องทำอาหารไปให้ลูกเหมือนเดิมจะปลอดภัยกว่า แล้วลูกก็ต้องพก ยาแก้แพ้ และepi pen ไปเหมือนเดิม ถามลูกว่า หนูจะให้แม่ฝากไว้ที่ห้องพยาบาลไหม ลูกตอบว่า หนูพกไปเองเหมือนเดิมดีกว่าค่ะ เผื่อว่าครูหยิบผิดเอาของคนอื่นมาให้หนู เอาของหนูไปให้คนอื่น ซึ่งก็เป็นไปได้ เพราะกว่าครูจะรู้ว่าแพ้ก็คงหนักแล้ว แต่ลูกจะรู้อาการของตัวเองดีค่ะ
และลูกดูแลตัวเองได้มาตั้งแต่อนุบาล แต่เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกันนะคะ ครอบครัวอื่น ยังไงฝากยาไว้ที่คุณครูน่าจะดีกว่า แต่สำหรับแป้งพิมพ์ แม่ไว้ใจลูกเรื่องนี้มากกว่าครูอีกค่ะ เพราะลูกเจออะไรมาเยอะ ผ่านการช่วยเหลือตัวเองมาเยอะค่ะ ทั้งร่างกายและจิตใจ
จากนี้ไป ก็ยังต้องงดเข้มต่อไป โดยหวังว่าสักวันหนึ่งลูกของแม่ จะต้องหาย"
น้องแป้งพิมพ์ เก่งมากๆค่ะ ทั้งเรื่องความรู้เรื่องอาหารที่ควรกิน ไม่ควรกิน และเรื่องการรับผิดชอบการใช้ยาด้วยตัวเอง เก่งเกินอายุไปมากจริงๆค่ะ ป้าหมอเอาใจช่วยให้หายแพ้ไวๆค่ะ เพราะแพ้แป้งสาลีใช้ชีวิตลำบากพอสมควร เนื่องจากอยู่ใน ซี่อิ๊ว ซ้อสปรุงรส ขนมปัง เค้ก คุ้กกี้ ซีเรียล ขนมถุงๆ อาหารชุบแป้งทอด มะกะโรนี พาสต้า บะหมี่ เกี๊ยว ซาลาเปา ปาท่องโก๋ ฯฯลฯ
ป้าหมอขอเพิ่มเติม ความรู้เรื่องแพ้แป้งสาลีค่ะ
"อาการแพ้แป้งสาลี อาจแสดงอาการทันทีหลังกิน หรือ หลายชั่วโมง หรือ หลายวัน หลังจากกินอาหารที่มีแป้งสาลีเป็นส่วนประกอบ ดังนี้ : ปากบวม ตาบวม ผื่นคัน ผื่นลมพิษ คัดจมูก หายใจลำบาก คันตา น้ำตาไหล ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย อาการแพ้แบบรุนแรงเฉียบพลันทำให้เสียชีวิต เช่น กล่องเสียงบวมหลอดลมตีบ เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก เป็นลม หมดสติ ชีพจรเต้นเบาเร็ว ช็อค
เด็กส่วนหนึ่งจะดีขึ้นหลังจากอายุ 5 ขวบ สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้แบบรุนแรงเฉียบพลัน ต้องมียาฉีดอะดรีนาลิน (Epi Pen) ติดตัวไว้ 2 โด๊ส เมื่อเริ่มมีอาการต้องรีบฉีดยาทันที และต้องเรียกรถพยาบาลฉุกเฉินทันที
ถ้ายังไม่หายแพ้ ห้ามรักษาแบบหนามยอกต้องเอาหนามบ่งเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายจนถึงแก่ชีวิตได้"
ประสบการณ์เรื่องแพ้อาหาร top 5 ที่ป้าหมอเจอเด็กแพ้อาหารบ่อยที่สุด คือ นมวัว อันดับสอง คือ ไข่ ถัดไป คือ ถั่วเหลือง แป้งสาลี ซีฟู้ด ตามลำดับ ยังไม่มีใครทราบสาเหตุที่แท้จริง ว่าทำไมบางคนถึงแพ้อาหารได้ แต่คาดเดาว่า น่าจะเป็นจากหลายปัจจัยร่วมกัน คือ พันธุกรรม อาหารกลุ่มโปรตีนที่คุณแม่กินมากๆระหว่างการตั้งครรภ์และให้นมลูก การเริ่มอาหารอื่นที่ไม่ใช่นมแม่ก่อนอายุ 6 เดือน เป็นต้น
อย่างไรก็ดี เพื่อความปลอดภัยในการป้องกันไม่ให้ลูกมีปัญหานี้ ขณะคุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมลูก จึงไม่ควรกินอาหาร 4 อย่างนี้มากกว่าปกติ คือ นมถั่วเหลือง แป้งสาลี ไข่ ซีฟู้ด ส่วนนมวัวและผลิตภัณฑ์นมวัว ในความคิดเห็นของป้าหมอ เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงค่ะ เพราะเป็นอาหารที่แพ้บ่อยมากที่สุดค่ะ ไม่กินทั้งนมวัว นมถั่ว ก็ไม่ขาดแคลเซียม ถ้ากินอาหารที่มีแคลเซียมสูงและแคลเซียมเม็ดที่คุณหมอสูติให้กินระหว่างตั้ง ครรภ์ค่ะ