ไม่ควรให้ลูกกินขนมทุกชนิดก่อน 2 ขวบค่ะ คุ้กกี้ เค้ก โดนัท เพรทเซล แครกเกอร์รสหวาน ขนมถุงๆกรอบๆ มันฝรั่งทอด ช็อคโกแลต ลูกอม ซูกัส ทำให้เด็กอิ่ม แต่ให้ประโยชน์น้อย เพราะไม่มีสารอาหารที่สำคัญ แต่อุดมไปด้วยแป้ง ไขมัน เกลือ และน้ำตาล ทำให้เด็กไม่อยากกินอาหารที่มีประโยชน์ กินข้าวยาก และยังทำให้เด็กอ้วน และฟันผุ นอกจากนี้ บางงานวิจัยยังพบว่า เป็นสาเหตุของพฤติกรรมอยู่ไม่สุข ซนมากผิดปกติ หรือ ที่เรียกว่า โรคไฮเปอร์สมาธิสั้นของเด็กบางคน จึงไม่ควรให้เด็กกินของหวานเหล่านี้เป็นประจำทุกวัน ยกเว้นนานๆครั้ง หรือ บางโอกาส เช่น งานวันเกิด งานปีใหม่ งานปาร์ตี้ นมเปรี้ยว นมรสช็อคโกแลต ไมโล โอวัลติน นมรสหวาน เช่น นมน้ำผึ้ง นมพีเดียชัวร์ ก็ไม่ควรให้เด็กกิน เพราะมีน้ำตาลเป็นส่วนผสมอยู่เป็นจำนวนมากพอๆกับน้ำอัดลม น้ำหวาน ถึงแม้ว่านมเหล่านี้จะทำมานมวัวซึ่งมีแคลเซียมสูง และ มีสารอาหารอื่นที่นักโภชนาการแนะนำก็ตาม เราก็ไม่ควรฝึกให้ลูกกินนมรสหวานเหล่านี้ แต่ควรฝึกให้ลูกกินแต่นมรสจืด จะปลอดภัยกับสุขภาพในระยะยาวมากกว่า จำไว้ว่า น้ำตาลทราย และ คอร์นไซรัส ไม่ดีกับสุขภาพ เป็นสาเหตุของ โรคอ้วน โรคเบาหวาน ไขมันสะสมในตับ และ เส้นเลือดแข็งตีบอุดตัน เมื่อเรากินบ่อยๆ จะเสพติดรสชาติ และ หงุดหงิดเวลาที่ไม่ได้กิน ดังนั้นถ้ากินมาตลอด ช่วงแรกที่งด อาจมีอาการหงุดหงิด กระวนกระวายมากกว่าปกติ แต่ก็จะดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ พฤติกรรมการกินที่ดีปลูกฝังได้ตั้งแต่เล็กๆ โดยไม่ปรุงรสอาหารเด็กเลยอย่างน้อย 2 ปีแรก เพียงเติมเกลือไอโอดีนเล็กน้อย เพื่อให้ได้รับสารไอโอดีนที่จำเป็น ไม่ให้ลูกกินขนมทุกชนิดก่อน 2 ขวบ ถ้าผู้ใหญ่กิน ก็ควรหลบๆ หรือ บอกลูกว่า ตอนนี้หนูยังเด็กอยู่ กินไม่ได้ บางท่านอาจคิดว่า พูดง่ายแต่ทำยาก ป้าหมอก็ขอเล่าเคสจริงให้ฟัง คือ เด็ก 5 ขวบมารับวัคซีน ป้าหมอเอาวิตะมินซีให้ เด็กไม่รับ คุณแม่บอกว่า ที่ป้าหมอเคยสอนว่า ไม่ให้ลูกกินขนมทุกชนิดก่อน 2 ขวบ ที่บ้านก็ทำตามคำแนะนำมาตลอด และปลูกฝังให้ลูกเรียนรู้ว่า เพราะอะไรจึงไม่ให้กินอาหารเหล่านี้ ผลที่ได้รับ คือ ลูกชอบกินแต่อาหารที่มีประโยชน์ กินข้าว ผัก ผลไม้เก่งทุกอย่าง และ บอกว่าอาหารเหล่านี้อร่อยดีอยู่แล้ว ถึงแม้ไปโรงเรียน เจออาหารเหล่านี้ ก็ไม่สนใจกิน เลือกกินอาหารที่เป็นอาหารธรรมชาติ ไม่ชอบกินอาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก |