ReadyPlanet.com


ลูกร้องไม่หยุด แบบไหนที่บอกว่าลูกกำลังมี อาการโคลิค


 

เชื่อว่าเมื่อหลายคนเมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะเป็นคุณแม่ คุณพ่อแล้ว ก็มีการศึกษาเกี่ยวกับการดูแลลูกตัวน้อยให้ดีที่สุด อาการโคลิค เป็นอีกอาการที่เด็กหลายเป็นกัน เมื่อสังเกตว่าลูกมีอาการร้องไห้ไม่หยุดอย่างต่อเนื่องให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งในความจริงแล้วอาจเป็นแค่การร้องไห้ตามปกติก็ได้ เนื่องจากภาวะโคลิคที่เกิดในเด็กทารกนั้น จะไม่เหมือนกับการร้องไห้ปกติทีเดียวค่ะ เราไปดูกันดีกว่าจะสังเกตว่าลูกน้อยของเรามีอาการโคลิคได้อย่างไรบ้าง

 

·     ทารกมีอาการร้องไห้เป็นเวลานานประมาณ 3 ชั่วโมงต่อวัน และเกิดขึ้นมากกว่า 3 วันต่อสัปดาห์ และต่อเนื่องติดต่อกันเกินว่า 3 สัปดาห์ โดยข้อสำคัญคือ การร้องไห้แบบโคลิคจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดิม ๆ ทุกครั้ง เช่น ถ้า เด็กร้องไห้ ในช่วงหัวค่ำไม่เกิน 2 ทุ่ม ก็จะร้องไห้ในเวลาเดิมทุกครั้ง ในขณะที่เวลาอื่นลูกจะอารมณ์ดีร่าเริงหรือร้องไห้แบบปกติ

·     ลักษณะการร้องไห้จะมีความรุนแรงต่อเนื่อง เด็กจะร้องไห้อย่างไม่หยุด ใช้เสียงแหลมสูงมากกว่าการร้องไห้แบบปกติ และอาจจะมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็น หน้าแดง อาการเกร็ง กำมือแน่น ชูขาสูงจนมาถึงหน้าอก งอแขนงอขาทั้งสองข้าง

·     ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุ ไม่ได้เกิดจากหิวนม รู้สึกเปียกชื้น หรือมีอาการเจ็บป่วย และเมื่อพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย จะพบว่าลูกมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดีเหมือนเด็กปกติทั่วไป

 

            การที่ทารกร้องไห้ไม่หยุดแบบนี้ มีผลเสียที่ต้องระวังอย่างยิ่ง เพราะมักจะทำให้ได้รับการดูแลอย่างผิดวิธีจากพ่อแม่ เช่น หาจุกนมปลอมมาใส่ปาก หรือนำของกินต่าง ๆ มาให้กินเพราะเข้าใจผิดว่าหิว การป้อนเร็วไปก็ทำให้เด็กสำลักได้ บางคนเขย่าตัวเด็กแรง ๆ เพื่อให้หยุดร้องไห้ ทำให้อาจมีผลกระทบกระเทือนต่อสมองและระบบสายตาได้ หรือดุด่าให้เงียบ เกิดเป็นความเครียดทั้งพ่อแม่และส่งผลต่อสภาวะอารมณ์ของเด็กได้ คุณพ่อคุณแม่จึงต้องตระหนักถึงปัญหาการร้องไห้แบบโคลิคนี้ว่ามีนัยยะสำคัญ ไม่ควรปล่อยให้ผ่านไปโดยคิดว่าเดี๋ยวลูกก็หยุดร้องไห้เอง

 

โดยปกติแล้ว อาการโคลิค มักจะหายเองเมื่อเด็กอายุครบ 3 เดือน แต่ในระหว่างนั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตอาการของลูกอยู่ตลอด เมื่อ ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุคุณแม่ควรรีบเข้าไปปลอบทันที หลังจากนั้นให้อุ้มลูกในท่านั่งแล้วโยกตัวเบา ๆ หรืออุ้มไว้แล้วเดินเล่นไปมาเพื่อช่วยให้ลูกได้ผ่อนคลาย ในขณะเดียวกันควรห่อตัวลูกให้อุ่นด้วยผ้าห่มและอุ้มลูกแนบอก เพื่อเพิ่มความอบอุ่น

 

นอกจากนี้ แนะนำว่าควรให้ลูกเรอออกมาทุกครั้งหลังจากดื่มนม เพื่อช่วยลดการสะสมของแก๊สในกระเพาะอาหาร ลดอาการแน่นท้อง อย่างไรก็ตามหากพบว่าลูกน้อยมีอาการร้ายแรงในระหว่างที่ร้องไห้ เช่น ร้องนานเกินกว่าที่เคย หรือร้องเสียงดังเสียงแหลมกว่าปกติ กระสับกระสายอย่างเห็นได้ชัด อาเจียนเป็นสีเขียว อุจจาระเป็นเลือด ลูกตัวอ่อนไม่มีแรง มีไข้สูงเกินกว่า 38 องศาเซลเซียส หายใจแรง ตัวเขียว หรือมีอาการชัก คุณพ่อคุณแม่ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์ในทันทีเพื่อรักษาอย่างเร่งด่วน



ผู้ตั้งกระทู้ unyana :: วันที่ลงประกาศ 2019-12-27 21:28:19 IP : 159.192.221.185


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล