จุลินทรีย์โพรไบโอติคแบบไหนปลอดภัย แก้ปัญหา เด็กร้องไห้ โคลิค

เด็กร้องไห้ นานเป็นชั่วโมงในลักษณะที่รุนแรง หน้าแดงตัวงอ กำหมัดแน่น พ่อแม่ทั้งกล่อมและปลอบก็ไม่ยอมหยุดร้อง เป็นอาการโคลิคที่พบได้ในทารกอายุตั้งแต่ 2 สัปดาห์จนถึง 3-5 เดือน การหยดยาโพรไบโอติคเป็นทางเลือกอย่างหนึ่งในทางการแพทย์ช่วยบรรเทา อาการโคลิค ได้ผล

เชื่อว่าหลายคนเคยได้ยินเรื่องจุลินทรีย์โพรไบโอติคซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดดีที่ส่งเสริมการทำงานในร่างกาย โดยเฉพาะระบบย่อยอาหารและการทำงานในลำไส้ มีประโยชน์ต่อร่างกาย พบได้ในอาหารหลายชนิด เช่น นมเปรี้ยว โยเกิร์ต แหนม กิมจิ ถือเป็นจุลินทรีย์ที่มีบทบาทสำคัญในการย่อยอาหารที่ย่อยยากอย่างโปรตีนในนมวัว ซึ่งทำให้เด็กท้องอืด จุกเสียด และมีแก๊สในท้อง  เมื่อรับประทาน หรือหยดยาโพรไบโอติคเข้าไปแล้วจะทำให้สุขภาพดี กระตุ้นให้ระบบทางเดินอาหารและระบบขับถ่ายมีความสมดุล ขับถ่ายง่าย ลดปัญหาท้องอืด ท้องผูก ท้องเสีย 

ทั้งนี้ การรักษาภาวะ ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุ ขึ้นอยู่กับชนิดของจุลินทรีย์โพรไบโอติคที่เลือกใช้ด้วย หากเลือกได้ดีก็จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย มีตัวอย่างดังนี้

1.Lactobacillus เป็นจุลินทรีย์ในลำไส้ชนิดที่ช่วยลดอาการปวดท้อง จุกเสียดแน่นท้อง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการโคลิคที่พบบ่อย ลดอาการจุกเสียดแน่นท้อง ท้องเสีย ท้องผูก ลดการเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ลดการใช้ยาปฏิชีวนะ ช่วยแก้ปัญหาเด็กร้องได้โคลิคได้อย่างปลอดภัยและช่วยให้สุขภาพดีขึ้นอีกด้วย การรับยาโพรไบโอติคต้องมีปริมาณเหมาะสมกับร่างกาย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะตรวจวินิจฉัยและหยดยารักษาไปตามอาการ จึงก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ 

2. Bifidobacteria เป็นจุลินทรีย์อีกกลุ่มที่อยู่อาศัยในบริเวณลำไส้ใหญ่ มีประโยชน์ในด้านลดอาการปวดแน่นท้อง ท้องอืด สร้างความสมดุลในระบบย่อยอาหาร ช่วยเรื่องการย่อยและดูดซึมสารอาหารได้ดี รวมถึงยับยั้งการเติบโตของเชื้อโรค ถือว่ามีประโยชน์กับทารกมาก

นอกจากนี้ยังมีจุลินทรีย์ชนิด Streptococcus Thermophilus ไม่จัดเข้ากลุ่มเชื้อจุลินทรีย์โพรไบโอติคที่อยู่ในลำไส้ แต่เป็นส่วนผสมกับแลคโตบาซิลัสในโยเกิร์ตช่วยให้ท้องไม่อืด ช่วยในการย่อยน้ำตาลแลคโตสในน้ำนม สำหรับทารกที่มีอาการแพ้น้ำตาลแลคโตส ทำให้กินนมแล้วท้องไม่อืด ขับถ่ายง่าย รวมถึงไม่เป็นผื่นผ้าอ้อมอีกด้วย

โพรไบโอติคจัดว่าเป็นจุลินทรีย์ปลอดภัย ก่อให้ผลดีต่อสุขภาพร่างกาย การเสริมจุลินทรีย์ลงในอาหารหรือหยอดยาให้ ทารกร้องไห้ รุนแรงจากภาวะโคลิค หลังกินนมแล้วไม่มีปัญหาท้องอืด ลมในท้อง หรือถ่ายเหลว หากได้รับโพรไบโอติคในปริมาณที่พอเหมาะก็จะรักษาได้ผล พ่อแม่ต้องปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการก่อนเริ่มใช้โพรไบโอติคแก้ปัญหาอย่างปลอดภัย เมื่อลูกน้อยโตขึ้น ระบบร่างกายของทารกจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่ ปัญหาระบบย่อยอาหารและลำไส้ลดลง การดูดซึมสารอาหารดีขึ้น ปัญหา ลูกร้องไม่หยุด จากอาการโคลิคจะค่อย ๆ ลดลงและหายไปเอง

เมื่อลูกน้อยมีอาการโคลิค พ่อแม่ควรเอาใจใส่เป็นพิเศษเพราะถึงแม้โตแล้วอาการลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุจะหายไปเอง แต่ช่วงที่ลูกร้องไห้หนัก กินน้อยนอนน้อย จะมีผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็กในระยะยาว แต่ถึงเป็นจุลินทรีย์ที่ปลอดภัยก็ควรไปพบแพทย์เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง