ReadyPlanet.com


เคล็ดลับ “เอาอยู่” เมื่อเจ้าตัวเล็กมี อาการโคลิค


 

เด็กร้องไห้ เป็นเรื่องธรรมดา แต่หากต้องเผชิญปัญหา ลูกร้องไม่หยุด หรือ ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุ บ่อย ๆ คุณพ่อ คุณแม่คงเครียดและเหนื่อยกาย เหนื่อยใจไม่น้อยเลย ไหนจะต้องทำงาน ไหนจะต้องดูแลลูก ให้ลองสังเกตเจ้าตัวน้อยดู หาก ทารกร้องไห้มากกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน มากกว่า 3 วันต่อสัปดาห์ และติดต่อกันนานเกิน 1 สัปดาห์แล้ว นั่นแปลว่าหนูน้อยมี อาการโคลิค ซึ่งไม่ควรปล่อยปัญหาผ่านไปโดยไม่แก้ไข เพราะมีผลเสียทั้งระยะสั้นและระยะยาวต่อตัวเด็ก เกิดเป็นความเครียดทั้งตัวเด็กและพ่อแม่ และกระทบต่อสุขภาพองค์รวมของเด็กได้

หากคุณกังวลใจ เมื่อ ลูกร้องไม่หยุด และคิดว่า มีอาการโคลิค ดังที่ว่า คุณควรไปปรึกษาแพทย์ แต่โดยทั่วไป อาการ ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุ อาจหายไปเอง เมื่อลูกคุณมีอายุประมาณ 3-4 เดือน

แต่กว่าจะผ่านช่วงเวลานั้นได้ ปัญหา ทารกร้องไห้ ไม่หยุดหย่อน ก็อาจทำให้พ่อแม่บางคนแทบจะถอดใจไปเลย ไม่ต้องกังวลใจ เรามีเคล็ดลับรับมือ ที่จะช่วยให้คุณ “เอาอยู่” เมื่อเจ้าตัวเล็ก มีอาการโคลิค ลองเลือกดูสักข้อ หรือหลายข้อทำร่วมกัน เพื่อความสุขของทั้งตัวคุณและเจ้าตัวน้อย

1.โอบกอดลูกบ่อย ๆ วิธีนี้เป็นวิธีง่าย ๆ ที่มักได้ผล เพราะมีผลการศึกษาอย่างเป็นระบบ ชี้ว่า เด็กร้องไห้ ไร้สาเหตุและไม่หยุดหย่อน หากได้รับไออุ่นจากอ้อมกอดนานพอ แม้ตอนก่อนร้องไห้ เจ้าหนูจะร้องไห้โยเยเป็นเวลาสั้นลงกว่าเดิม

2.เคลื่อนไหวให้มาก ส่วนใหญ่ การเคลื่อนไหวจะช่วยให้ทารกน้อยผ่อนคลาย ดังนั้น ให้อุ้มหนูน้อยเขย่าเบา ๆ หรือเดินไปมา วิธีนี้อาจช่วยให้ลูกน้อยหยุดร้องได้

3.นวดให้ลูก บางครั้ง เมื่อลูกร้องไห้มาก ๆ ก็ยิ่งทำให้กลืนอากาศเข้าไปมาก เป็นผลให้เกิดการอึดอัดภายในท้อง การนวดท้องให้ลูกเบา ๆ จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้ โดยคุณอาจใช้น้ำมันนวดไร้กลิ่น หรือมีกลิ่นอ่อน ๆ ที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น ลาเวนเดอร์ ก็ได้

4.เปลี่ยนอาหารที่คุณรับประทาน สำหรับคุณแม่ที่ให้นมลูก บางครั้งอาหารบางอย่างที่คุณกิน อย่างเช่น นมวัว อาจทำให้ลูกเกิดอาการแพ้ได้ ส่วนลูกน้อยที่ไม่ได้ดื่มนมแม่ แนะนำให้ใช้นมสูตรที่ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ (hypoallergenic) ป้อนลูกของคุณ

5.ใช้ขวดนมที่มีคุณภาพ ถ้าสงสัยว่า ลูกคุณมีอาการโคลิค ให้เปลี่ยนไปใช้ขวดนมที่มีจุกนมออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อทารก แบบนี้จะดีกว่าเนื่องจากจะช่วยให้เด็กกลืนอากาศน้อยลงขณะดูดนม เป็นผลให้เกิดแก๊สในท้องน้อยลง และการร้องไห้ก็อาจน้อยลงตามไปด้วย

6.ใช้เสียงเป็นตัวช่วย เช่น เสียงเห่กล่อม หรือเสียงธรรมชาติเช่น เสียงคลื่นหรือน้ำตก หรือเสียงอื่น ๆ แล้วสังเกตว่า ลูกคุณผ่อนคลายขึ้นได้ด้วยเสียงแบบไหน

7.ห่อตัวลูกน้อยของคุณด้วยผ้า เพราะจะช่วยให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบาย ๆ เหมือนยังอยู่ในท้องของคุณ

8.จับไปส่องกระจกวิเศษ วิธีนี้ คุณพ่อคนหนึ่งเคยแชร์ให้รู้ว่า เวลาลูกตนเองร้องไห้ เขาอุ้มลูกไปหน้ากระจก ให้ดูดราม่าของตนเอง พร้อมกับจับมือหรือเท้าลูกไปแตะกระจกด้วย ผลคือ เจ้าตัวน้อยหยุดร้องไห้สนิท (ถ้าวิธีอื่นไร้ผล คุณจะลองดูก็ไม่เสียหลาย)

9.สงบสติอารมณ์ของคุณให้ดี เพราะความเครียดอาจทำให้คุณเบรกแตกได้ ระลึกเสมอว่า ลูกคุณไม่ได้โกรธคุณ มันเป็นเพียงอาการแบบหนึ่ง ที่อาจส่งเสียงดังจนน่ารำคาญ แต่ที่สุด มันจะผ่านไป

นอกจากนี้ ควรให้ผู้อื่นมาช่วยดูแลบ้าง เช่น พี่เลี้ยง หรือปู่ย่าตายาย เพราะตัวคุณก็ต้องดูแลตัวเองและพักผ่อนด้วย จึงจะ “เอาอยู่” เมื่อเจ้าตัวเล็ก มี อาการโคลิค




ผู้ตั้งกระทู้ risa (warisa-dot-pp01-at-gmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2020-01-26 13:13:38 IP : 124.122.193.64


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล