ต้องยอมรับว่าอาการโคลิค เป็นปัญหาสำคัญที่คนเป็นพ่อเป็นแม่มักไม่ได้เตรียมตัวเตรียมความพร้อมไว้รับมือล่วงหน้า โดยเมื่อลูกร้องไห้ไม่หยุด พ่อแม่หลายคนอาจจะปล่อยให้ลูกร้องไห้เป็นเวลานาน หรือร้องไห้จนหยุดไปเอง แต่ที่จริงแล้วไม่ควรทำเลยเพราะส่งผลเสียทั้งต่อสุขภาพร่างกายและพัฒนาการของลูกรัก ดังนั้นเพื่อช่วยคุณพ่อคุณแม่รับมือปัญหาลูกร้องไม่หยุดได้ง่ายขึ้น วันนี้เราจึงมี 3 วิธีแก้ปัญหาลูกร้องไม่หยุดที่พ่อแม่มือใหม่ควรรู้ไว้มาฝาก แต่จะมีวิธีไหนบ้างนั้น มาดูกันเลย

1.       ตรวจสอบให้แน่นอนก่อนว่าเป็นอาการโคลิคจริงๆ หรือไม่ โดยสามารถดูได้จากการร้องของเด็กว่าเป็นการร้องไห้แบบรุนแรง เสียงแหลม หน้าแดง อาจจะมีอาการงอมือ เกร็งเท้า และยังร้องไห้เป็นเวลา นอกจากนั้นจะต้องเกิดขึ้นอย่างน้อยวันละ 2-3 ชั่วโมงต่อวัน 3 วันต่อสัปดาห์ และต่อเนื่องกันอย่างน้อย 3 สัปดาห์ขึ้นไป หากไม่ได้มีรูปแบบตามนี้แต่ลูกยังร้องไห้ไม่หยุด แนะนำว่าให้พาลูกไปปรึกษาแพทย์ เพราะการร้องไห้ของลูกอาจเกิดมาจากสาเหตุอื่นก็ได้

2.       อย่าปล่อยให้ลูกร้องไห้จนหยุดไป ควรที่จะปลอบโยนลูกโดยทันที เพราะหากร้องไห้นานๆ อาจทำให้ลูกเหนื่อยจนหมดแรงและมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ การร้องไห้นานๆ จะทำให้สมองหลั่งฮอร์โมนคอร์ติโซลออกมาทำร้ายเซลล์สมองและขัดขวางการสร้างเซลล์สมอง โดยอาจจะลองโอบกอดลูกให้แนบชิดอกแล้วโยกตัวเบาๆ หรือพาเดินเปลี่ยนไปที่สถานที่เงียบสงบ

3.       หลังจากลูกกินนมแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกเรอออกมาทุกครั้งเพื่อระบายลมในกระเพาะอาหาร ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโคลิค และห้ามให้ลูกดูดขวดนมเปล่าๆ เพราะจะเกิดแก๊สในกระเพาะได้ สำหรับวิธีช่วยให้ลูกเรอนั้นก็มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การอุ้มลูกพาดบ่า การอุ้มลูกนั่งบนตัก และการอุ้มแบบวางลูกลงบนหน้าตัก

3 วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยรับมือกับอาการทารก ร้องไห้สามารถทำได้ทั้งพ่อแม่มือใหม่เลย อย่าลืมสังเกตุอาการของลูกน้อยและเมื่อผ่านไป 4 – 6 เดือนแล้วอาการโคลิคจะสามารถหายไปได้เองนะ