เมื่อลูกน้อยมีอาการโคลิค หรือเด็กร้องไห้อย่างไม่มีสาเหตุ ร้องไห้รุนแรง ยาวนานเป็นชั่วโมง อาจจะมีอาการเกร็ง หน้าแดง เห็นแบบนี้แล้วการร้องไห้ของเด็กก็ทำให้พ่อแม่กลุ้มใจเหลือเกิน แต่ก็มีวิธีที่จะช่วยบรรเทาอาการโคลิคได้อย่าง โปรไบโอติคช่วยคุณได้ แต่ก่อนจะรู้ว่าเจ้าโปรไบโอติคนี้สามารถช่วยแก้ปัญหาโคลิคของทารกได้อย่างไรนั้น เราไปทำความรู้จักกันหน่อยดีกว่า

            โปรไบโอติค เป็นจุลินทรีย์ที่มีอยู่ในลำไส้ และมีประโยชน์ต่อร่างกาย ตัวช่วยเรื่องระบบขับถ่าย รักษาสมดุลในลำไส้ ยับยั้งแบคทีเรียไม่ดีบางชนิด กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพ โดยที่ทารกร้องไห้เพราะอาจจะมีภาวะที่ขาดสมดุลในลำไส้ จุลินทรีย์ดีมีน้อยไม่สมดุลกัน ซึ่งในระยะยาวอาจจะทำให้เกิดภูมิแพ้ รวมถึงปัญหาในการขับถ่ายอีกด้วย

แล้วโปรไบโอติคสามารถแก้ปัญหา เด็กร้องไห้ แบบโคลิคได้อย่างไร

            โคลิค ปัจจุบันยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด เป็นอาจจะเกิดได้จากพื้นฐานอารมณ์ของตัวเด็กเอง ภูมิแพ้ การปรับตัวกับสิ่งแวดล้อม โดยอาการที่เกิดความไม่สมดุลในลำไส้มักจะเกิดในเด็กที่ไม่ได้คลอดด้วยวิธีธรรมชาติหรือไม่ได้ดื่มนมแม่ แต่โปรไบโอติคสามารถช่วยดูแลระบบลำไส้ให้สามารถทำงานได้ดี เมื่อระบบย่อยอาหารดี ลูกน้อยย่อมสุขภาพดีและอารมณ์ดีอย่างแน่นอน

อยากเพิ่มจำนวนโปรไบโอติคในระบบลำไส้ ต้องทำยังไง

          ที่จริงแล้วมีอาหารจากธรรมชาติหลากหลายที่มีจุลินทรีย์ดี เช่น โยเกิร์ต ชีส กิมจิ ผักดองพื้นบ้านของไทย น้ำนมแม่ เป็นต้น ซึ่งอาหารที่กล่าวมานี้ล้วนอุดมไปด้วยจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยโปรไบโอติคก็ทานอาหารเช่นกัน เพื่อให้โปรไบโอติคขยายจำนวน อาหารของโปรไบโอติคคือ พรีไบโอติค ได้แก่ กล้วย หัวหอม กระเทียม ถั่วเหลือง หรืออาหารจำพวกผัก ผลไม้ที่มีกากใย รวมถึงน้ำนมแม่ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นเด็กทารกที่ได้ทานนมแม่จะช่วยบรรเทาอาการโคลิคได้ แต่หากเด็กที่ไม่ได้ทานนมแม่อาจจะต้องทานนมอื่นที่มีการเสริมโปรไบโอติค

หากไม่ทำการรักษาล่ะ ลูกน้อยจะมีความผิดปกติด้านใดบ้าง

          แม้โคลิคจะดีขึ้นเมื่ออายุได้ 4 – 6 เดือน แต่ผลที่ตามมาระยะยาวไม่ได้เกิดกับเฉพาะลูกน้อยอย่างเดียวเท่านั้น เพราะตัวคุณเองก็จะซึมซับเสียงร้องไห้ของทารกมาเป็นความเครียด เพราะอาจจะเครียดจนเผลอเขย่าตัวเด็ก หรือทำร้ายได้ ส่วนตัวทารกเองก็มีความเสี่ยงสูงที่จะมีความผิดปกติเรื่องระบบลำไส้ ท้องผูกบ่อย บางทีก็ท้องเสียง่าย ส่งผลต่อการพักผ่อน พัฒนาการด้านร่างกาย เป็นโรคภูมิแพ้ เป็นต้น

            เพราะฉะนั้นเราควรที่จะรับมือกับอาการโคลิคให้เป็นอย่างดี หากลูกร้องไห้อย่างรุนแรงแนะนำให้กอดอุ้มลูกไว้แล้วโยกตัวเบาๆ