เมนูลูกรักตั้งแต่อายุ1ขวบ เพื่อพัฒนาการที่สมบูรณ์

พัฒนาการที่สมบูรณ์ตามวัยของทารก มีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง หนึ่งในนั้นคือความครบถ้วนในด้านโภชนาการต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องได้รับในแต่ละช่วงอายุ ตั้งแต่ทานนมแม่ อาหารทารก6เดือน ที่ต้องกินอาหารทารก ไปจนถึง เมนูลูกรักตั้งแต่อายุ1ขวบ ที่เป็น อาหารเสริมสำหรับเด็ก ซึ่งมีโภชนาการและลักษณะของอาหารเหมาะสมสำหรับเด็กในช่วงนี้ ไปดูกันว่าจะมีเมนูไหนที่น่าทำตามบ้าง 

ข้าวผัดผักสามสี 

เมนูลูกรักตั้งแต่อายุ1ขวบ ยอดนิยม ของหลาย ๆ บ้านต้องมีข้าวผัดอยู่ด้วยแน่นอน โดยเมนูนี้จะใช้ผักสามสี คือ แครอท ข้าวโพดหวาน และบรอกโคลี่ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและ วิตามินบำรุงสมอง เป็นองค์ประกอบอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังใช้ไข่ไก่ ที่เป็นแหล่งของ DHA ที่หาได้ง่าย เริ่มจากตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันถั่วเหลืองลงไปเล็กน้อย ตามด้วยผักสามสีสับละเอียด อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ ผัดให้เข้ากันสักพัก ใส่ข้าวสวย 1 ถ้วยลงไปผัดให้เข้ากัน จากนั้นตอกไข่ใส่ลงไป รอจนสุกดีก็ตักเสิร์ฟได้ อาจตกแต่งเป็นรูปต่าง ๆ เพิ่มเติม เพื่อดึงดูดความสนใจจากเจ้าตัวเล็ก

ขนมปังกรอบ-ซุปฟักทอง แครอท

ผลไม้สีเหลืองส้มส่วนใหญ่จะมีเบต้าแคโรทีนที่ช่วยบำรุงสายตาเป็นองค์ประกอบ เมนูนี้จึงมีทั้งฟักทองและแครอท ที่มี วิตามินบำรุงสมอง และเสริมพัฒนาการด้านการมองเห็นให้กับลูกน้อย เริ่มจากการใส่เนยจืด 1 ช้อนโต๊ะลงไปในหม้อ ตามด้วยหอมใหญ่และแครอทสับละเอียดอย่างละ 2 ช้อนโต๊ะ ผัดให้เข้ากัน จากนั้นใส่ฟักทองนึ่งบดละเอียด 1 ถ้วย แล้วผสมให้เข้ากันอีกรอบ ตามด้วยน้ำเปล่าครึ่งถ้วยและนมสด 1 ถ้วย เติมเกลือป่นครึ่งช้อนชา คนให้เข้ากันดีแล้วเสิร์ฟพร้อมขนมปังปิ้งหั่นเป็นแท่งยาว ขนาดพอที่เจ้าตัวเล็กจะถือได้ 

ข้าวต้มปลารวมมิตรผักสีเขียว

เป็น เมนูอาหารสำหรับเด็ก ที่ทำได้ง่าย โดยวันนี้เราจะใช้เนื้อปลาช่อน ที่เป็นแหล่งของ DHA และผักสีเขียวจากใบตำลึงและบรอกโคลี ซึ่งเป็นแหล่งของธาตุเหล็ก ช่วยป้องกันโรคโลหิตจางได้ โดยเริ่มจากหั่นเนื้อปลาช่อนเป็นชิ้นเล็ก ขนาดประมาณ 3 นิ้ว นำไปนึ่งให้สุกพร้อมกับใบตำลึงและบรอกโคลี แล้วบดแยกกันพอละเอียดพักไว้ ต่อมาใช้ข้าวสวยบดละเอียดนำไปต้มกับน้ำซุปไก่ที่หลาย ๆ บ้านควรมีเก็บเป็นสต๊อกไว้ เพื่อความสะดวกในการปรุงอาหารสำหรับเจ้าตัวเล็ก เมื่อข้าวต้มสุกแล้ว ใส่ใบตำลึงและบรอกโคลีบดละเอียดอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยเนื้อปลาช่อนที่บดแล้วประมาณครึ่งถ้วย ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวเล็กน้อย รอจนเดือดแล้วตักเสิร์ฟได้

การเตรียมเมนูอาหารให้ลูก นอกจากจะมั่นใจได้ว่าอาหารทุกคำจะปลอดภัยและได้คุณค่าทางอาหารครบถ้วนแล้ว ยังดึงความสามารถแห่งความคิดสร้างสรรค์ที่ซ่อนอยู่ในตัวคุณแม่ทุกคนออกมาด้วย ถึงแม้จะมีช่วงเวลาที่เหนื่อยและท้อบ้าง แต่เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของเจ้าตัวเล็ก ก็ช่วยลดความเหนื่อยลงไปได้มากแน่นอน