นอกจากคุณแม่มือใหม่จะมีความกังวลเรื่องการปฏิบัติดูแลรักษาตัวระหว่างตั้งครรภ์แล้ว เชื่อว่ายังมีคุณแม่จำนวนไม่น้อยกังวลความเชื่อผิด       ๆ เกี่ยวกับการตั้งครรภ์และเพื่อสร้างความเข้าใจถูกต้องและให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์แก่คุณพ่อคุณแม่ แอพ alive หรือ แอพสําหรับคนท้อง ได้รวม 7 ความเชื่อไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เตรียมมาให้คุณแม่มือใหม่โดยเฉพาะ

1. ดื่มน้ำมะพร้าวขณะตั้งครรภ์จะทำให้แท้ง

เหตุผลที่ทำให้เกิดความเชื่อผิดนี้ เพราะน้ำมะพร้าวมีฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้เชื่อว่าอาจส่งผลต่อการบีบตัวของมดลูกและทำให้แท้งบุตร ทั้งที่จริงแล้วร่างกายคุณแม่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงมากอยู่แล้ว การดื่มน้ำมะพร้าวไม่มีผลต่อการแท้งแต่อย่างใด แต่ถึงอย่างนั้นควรดื่มในปริมาณเหมาะสม นั่นคือ 1 แก้วต่อวัน

2. ห้ามออกกำลังกายขณะตั้งครรภ์

คุณแม่มือใหม่หลายท่านไม่กล้าออกกำลังกาย เพราะเกรงว่าจะส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์ ทั้งที่ความจริงการออกกำลังกายจะช่วยบรรเทาอาการปวดหลังเมื่อขนาดครรภ์ใหญ่ คลายความเครียดและยังลดโอกาสเกิดโรคเบาหวาน นอกจากนี้ยังช่วยทำให้บุคลิกดีขึ้น แต่ควรออกกำลังกายหลังจากอายุครรภ์ 14 สัปดาห์ ไม่ออกกำลังกายที่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุและควรอยู่ในการแนะนำของแพทย์

3. ขณะตั้งครรภ์ห้ามมีเพศสัมพันธ์

ขณะตั้งครรภ์คุณแม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้โดยไม่ส่งผลต่อความผิดปกติของลูกน้อย แต่มีข้อควรระวัง คือ เลือกท่าทางเหมาะสม และไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ที่หนักหน่วง เลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ช่วงใกล้คลอดเพราะอาจเหนื่อยง่ายและหากมีอาการน้ำเดินควรงดมีเพศสัมพันธ์

4. คนท้องห้ามนอนคว่ำ

แม้ว่าท่านอนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนท้องคือท่านอนตะแคง แต่คุณแม่หลายคนยังอยากนอนคว่ำแต่เกรงว่าจะเป็นการทับลูก ความจริงแล้วการนอนคว่ำจะไม่เป็นการทับลูกน้อยในครรภ์ เพราะอย่าลืมว่าทารกอยู่ในถุงน้ำคร่ำ เทคนิคนอนคว่ำของคุณแม่ตั้งครรภ์คือหาหมอนหนุนบริเวณต้นคอและต้นขาจะช่วยให้นอนได้อย่างสบายยิ่งขึ้น

5. สะโพกใหญ่จะคลอดลูกง่าย

อีกหนึ่งความเชื่อผิด ๆ ว่าหากสะโพกใหญ่จะคลอดลูกได้ง่าย โดยการคลอดง่ายหรือไม่นั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะขนาดกระดูกเชิงกราน ซึ่งโดยปกติกระดูกเชิงกรานหญิงตั้งครรภ์จะขยายเมื่ออายุครรภ์เข้าสู่ไตรมาส 3 หากกระดูกเชิงกรานมีขนาดเล็กไป แพทย์อาจแนะนำให้ผ่าคลอดแทน

6. อาการแพ้ท้องเกิดขึ้นเฉพาะไตรมาสแรก

อาการคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ คือ อาการของคนท้อง ที่พบได้ทั่วไป ซึ่งพบมากช่วงไตรมาสแรก โดยคุณแม่แต่ละคนมีอาการมากน้อยแตกต่างกัน ส่วนใหญ่อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปเอง แต่ถึงอย่างนั้นคุณแม่บางคนอาจมีระยะเวลาแพ้ท้องไปจนถึงไตรมาสที่ 2 ซึ่งหากมีอาการแพ้ท้องรุนแรงแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ร่วมด้วย

7. คิดว่าลูกไม่รับรู้ความเครียดตนเอง

เคยมีการศึกษาออกมาแล้วว่า เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ได้ประมาณ 6 เดือน ลูกน้อยจะสามารถรับรู้ความเครียดได้โดยการส่งผ่านฮอร์โมน ซึ่งหากลูกน้อยได้รับฮอร์โมนนี้บ่อย ๆ อาจส่งผลให้ลูกรักเป็นโรคอ้วนได้ง่ายและอาจส่งผลต่อด้านความจำของเด็ก ดังนั้นระหว่างตั้งครรภ์ควรรักษาอารมณ์และทำใจให้สบาย เพื่อสุขภาพของลูกน้อยในท้อง

และทั้งหมดนี้คือความเชื่อผิด ๆ ที่ แอพปรึกษาหมอ ชวนไขข้อข้องใจ เพื่อความเข้าใจใหม่ที่ถูกต้อง และคุณแม่ท่านใดที่ต้องการปรึกษาแพทย์และพยาบาลผ่านแอพฯ สามารถเข้าร่วมกลุ่มพูดคุยประสบการณ์คุณแม่มือใหม่กับผู้เชี่ยวชาญผ่าน Alive Powered by AIA โดยสามารถอ่านรีวิว แอพ alive แอปตั้งครรภ์ เพื่อการใช้งานง่ายขึ้นผ่าน www.aia.co.th/th/Alive ซึ่งแน่นอนหากมีคำถามว่าแอพ alive ดีไหม แนะนำว่าต้องดาวน์โหลดเพราะเต็มไปด้วยข้อมูลดี ๆ สำหรับคุณแม่เป็นอย่างยิ่ง