ก่อนเลือกทำประกันรถในช่วงหาข้อมูล หลายคนสงสัยว่า ประกันชั้น 2 กับ ประกันชั้น 2 พลัส นั้นต่างกันอย่างไร และจะเลือกทำประกันประเภทไหนดี วันนี้เรามีข้อแตกต่างมาบอก ระหว่างประกันชั้น 2 และ 2+ ให้เข้าใจได้ภายในไม่กี่นาที

ประกันชั้น 2 คืออะไร คุ้มครองอะไรบ้าง

ประกันชั้น 2 คือประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครอง 4 ความเสียหาย ดังนี้

-          ความเสียหายต่อชีวิต ค่ารักษาพยาบาลและทรัพย์สิน ที่เกิดขึ้นกับบุคคล ทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสารในรถที่เอาประกัน ในรถของคู่กรณี และบุคคลภายนอก

-          ความเสียหายของรถยนต์คู่กรณี

-          ความเสียหายของทรัพย์สินบุคคลภายนอก ที่เกิดความเสียหายจากรถที่เอาประกัน

-          ความเสียหายที่เกิดจากกรณีไฟไหม้และรถสูญหาย

ซึ่งจะต่างกับความคุ้มครองของ ประกันชั้น 1 คือ ประกันรถยนต์ชั้น 2 ไม่คุ้มครองความเสียหายของรถที่เอาประกัน ไม่ว่าจะมีคู่กรณีหรือไม่มีก็ตาม รวมไปถึงไม่คุ้มครองกรณีน้ำท่วมอีกด้วย จึงทำให้เบี้ยประกันชั้น 1 กับเบี้ยประกันชั้น 2 ค่อนข้างต่างกันเพราะความคุ้มครองที่แตกต่างกันนั่นเอง

ประกันชั้น 2 พลัส คืออะไร คุ้มครองอะไรบ้าง

ประกันชั้น 2 พลัส คือประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองแบบเดียวกัน กับ ประกันชั้น 2 ต่างกันที่ ประกันชั้น 2 พลัส มีความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยด้วย ในกรณีที่ชนกับยวดยานพาหนะทางบกเท่านั้น และจำเป็นต้องมีคู่กรณีด้วย นั่นแปลว่า ถ้าชนแต่ไม่มีคู่กรณีหรือชนแล้วหนี หาพยานหลักฐานไม่ได้ จะไม่ได้รับความคุ้มครองเช่นเดียวกันกับประกันชั้น 2  ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับความคุ้มครองของ ประกันชั้น 1 จะต่างกันเพียงอย่างเดียว นั่นคือประกันชั้น 2 พลัส ไม่คุ้มครองรถผู้เอาประกันแค่กรณีเดียวคือชนแล้วไม่มีคู่กรณีนั่นเอง

รถแบบไหนควรใช้ ประกันรถยนต์ชั้น 2 และ ประกันชั้น 2 พลัส

            ประกันรถยนต์ทั้ง 2 ประเภท นอกจากความคุ้มครองและเบี้ยประกันที่ต่างกันแล้ว เรื่องของความเหมาะสมของรถยนต์ที่จะซื้อประกันแต่ละประเภทก็ต่างกัน ความต่างในที่นี้หมายความรวมถึงรุ่นรถยนต์และยี่ห้อรถด้วยเพราะรถราคาแพงค่าซ่อมค่าอะไหล่ก็แพง จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เจ้าของรถต้องซื้อประกันรถที่ให้ความคุ้มครองสูงเพื่อให้ครอบคลุมความเสียหายที่เสี่ยงจะเกิดขึ้นในการขับขี่นั่นเอง โดยปกติก็มักจะเลือกทำ ประกันชั้น 1 อยู่แล้ว แต่ถ้ารถยนต์ไม่ใช่รุ่นแพง หรือรถจากค่ายที่ราคาสูง การเลือกทำ ประกันรถยนต์ชั้น 2 หรือ 2+ ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะค่าเบี้ยประกันก็ต่างกัน

สุดท้ายแล้ว การจะตัดสินใจว่าจะเลือกทำประกันชั้น 2 หรือ 2+ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเหตุผลเฉพาะตัวของแต่ละคน ซึ่งก็มีปัจจัยในการตัดสินใจที่ต่างกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นควรต้องพิจารณาถึงเรื่องของการใช้งาน ว่าขับขี่บ่อยมากน้อยขนาดไหน หากขับขี่บ่อยแม้จะเป็นระยะทางสั้นๆ นั่นย่อมมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุมากกว่า หากเรายังมีความกังวลในการขับขี่และกลัวว่าจะเกิดความเสียหายจากน้ำท่วม การเลือกทำประกันชั้น 1 หรือชั้น 2+ ก็ดูจะตอบโจทย์มากกว่าประกันชั้น 2 อย่างเห็นได้ชัด

ชมข้อมูลเพิ่ม

https://online.scbprotect.co.th/motor/type-3