ReadyPlanet.com


เห็ด… เมนูคุณภาพของคุณแม่ตั้งครรภ์


เห็ด... เมนูคุณภาพของคุณแม่ตั้งครรภ์

ปริมาณโปรตีนของเห็ดต่อน้ำหนัก 100 กรัม เห็ดนางรม 2.7 กรัม เห็ดหอมสด 2.2 กรัม เห็ดหูหนู 7.6 กรัม เห็ดหอมแห้ง 17.5 กรัม เห็ดนางฟ้า 2.3 กรัม เห็ดเป๋าฮื้อ 2.6 กรัม

คุณค่าน่ารู้ของเห็ด

เห็ดจัดเป็นอาหารสุขภาพประเภทผักสามารถแบ่งได้หลากหลายสายพันธุ์ แต่ที่นิยมกินกันในบ้านเรา ได้แก่ เห็ดหอมสดเห็ดหอมแห้ง เห็นนางฟ้า เห็ดเข็มทอง เห็ดนางรมหลวง เห็ดโคนญี่ปุ่น เห็ดหูหนูขาว และเห็ดหูหนูดำ และเห็ดเหล่านี้อุดมไปด้วย สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายหลายอย่างเลยทีเดียว เป็นทั้งแหล่งของโปรตีน ไขมันก็มีน้อย แถมให้พลังงานต่ำอีกต่างหาก เห็ดทุกชนิดจะมีส่วนประกอบของกรดอะมิโนกลูตานิค ซึ่งให้รสอูมามิหรือรสอร่อยที่เราคุ้นหูกันดี เมื่อนำเห็ดมาปรุงเป็นอาหาร จึงให้รสอร่อยคล้ายเนื้อสัตว์ แต่ไม่มีส่วนประกอบของไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอล เห็ดจึงใช้เป็นอาหารทดแทนอาหารในหมวดโปรตีน ที่ได้จากเนื้อสัตว์ได้เป็นอย่างดี ทุกเทศกาลกินเจเห็ดมักถูกแปลงร่างเป็นเมนูเนื้อสัตว์ต่าง ๆ และให้รสที่คล้ายคลึงกับเนื้อสัตว์อีกด้วยในขณะตั้งครรภ์ แม่ท้องต้องการโปรตีนทั้งจากสัตว์และพืช เพื่อสร้างความสมดุลให้กับร่างกาย จุดเด่นของเห็ดที่แตกต่างจากเนื้อสัตว์คือ ไม่มีกลิ่นคาวที่จะกระตุ้นให้แม่ท้องคลื่นไส้ อาเจียน และมีเส้นใยอาหารสูง ทำให้ลดอาการท้องผูก ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยขณะตั้งครรภ์ขณะเดียวกัน เห็ดยังมีวิตามินหลายตัว เช่น วิตามินบี 1 บี 2 บี 6 และบี 12 วิตามินที่มีมากเป็นพิเศษคือ วิตามินบี 2 ซึ่งช่วยในการบำรุงผิว และในอาชินที่ช่วยในการทำงานของสมองและระบบประสาท นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุอื่น ๆ เช่น โปแตสเซียม ธาตุเหล็ก ซีลีเนียม ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเสื่อมของร่างกาย
สำหรับแม่ท้องที่เหม็นกลิ่นเนื้อสัตว์ในช่วงแพ้ท้อง เห็ดถือเป็นวัตถุดิบทดแทนเนื้อสัตว์ ที่เหมาะกับการปรุงเมนูอร่อยให้คุณได้ แถมยังช่วยควบคุมน้ำหนักไม่ให้เพิ่มขึ้นเร็ว และช่วยลดระดับไขมันในเลือดได้อีกทาง

เห็ดชนิดไหนเหมาะชนิดไหนควรเสี่ยง

แม่ท้องทุกไตรมาส สามารถกินเห็ดที่เคยกินเป็นประจำมาก่อนท้องได้ทุกชนิด ข้อแนะนำคือ ไม่ควรกินเห็ดที่ไม่รู้จักหรือไม่เคยกินมาก่อน เช่น เห็ดป่า เห็ดที่มีรูปร่างลักษณะแปลก ๆ เห็ดที่มีสีสวย เพราะอาจแพ้ หรือถ้าโชคร้ายอาจเจอเห็ดพิษได้ ที่สำคัญ ควรหลีกเลี่ยงเห็ดดิบ ถ้าปรุงอาหารเองต้องทำให้เห็ดสุกก่อนทุกครั้ง ส่วนอาหารตามสั่งหรือปรุงสำเร็จ ควรเลือกชนิดที่ต้มหรือผัดให้สุกดี เพราะพิษบางอย่างในเห็ดถูกทำลายด้วยความร้อน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของแม่ท้องที่อยากกินเห็ด ควรกินเมนูเห็ดที่ยังร้อนหรืออุ่นเสมอ ถ้าต้องกินนอกบ้าน ควรสอบถามพนักงานที่ร้านอาหารทุกครั้งว่า ใช้เห็ดอะไรในการปรุงเมนูนั้น ๆ

เลือกและเก็บรักษาเห็ดอย่างถูกวิธี

เห็ดใหม่และสดจะมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และมีรสชาติดีมากกว่าเห็ดที่เก็บไว้นาน ดังนั้นจึงไม่ควรซื้อเห็ดตุนไว้ทีละมาก ๆ ควรกะปริมาณให้เพียงพอกับการกินในแต่ละครั้ง จะช่วยสงวนคุณค่าอาหาร และทำให้อาหารที่ปรุงจากเห็ดมีรสอร่อยมากขึ้น การเลือกซื้อเห็ดทุกชนิดควรเลือกเห็ดที่ดอกใหญ่สมบูรณ์ สะอาด ไม่เหี่ยว ไม่มีรอยช้ำ จับดูแล้วไม่มีเมือกติดมือ โคนหรือลำต้นกับดอกเห็ดติดกัน ไม่มีรอยเว้าแหว่งจากการเก็บไว้นาน มีสีอ่อน ๆ ตามแต่ชนิดของเห็ด แต่ละสายพันธ์ เห็ดที่เก็บไว้นานจะมีสีน้ำตาลเข้มตามระยะเวลาของการเก็บ วิธีเก็บรักษาเห็ดที่ซื้อมาก่อนปรุงอาหารคือ เก็บในถุงกระดาษและนำเข้าตู้เย็น ควรแบ่งเห็ดเป็นถุงเล็ก ๆ ดีกว่าใส่ในถุงเดียว เพราะถ้าเก็บปริมาณมากในถุงเดียว จะทำให้เห็ดที่อยู่ด้านล่างช้ำ ที่ลืมไม่ได้คือ ไม่ควรล้างน้ำก่อนเก็บ เพราะจะทำให้เห็ดเน่าเสียง่าย และคุณค่าอาหารลดน้อยลงนั่นเอง

cr: baby2talk

สนใจเกร็ดความรู้สุขภาพเพิ่มเติมลองดูที่นี่นะคะคุณแม่ https://www.facebook.com/piyamaharajkarun

 



ผู้ตั้งกระทู้ บัวลอยน้ำขิง :: วันที่ลงประกาศ 2013-10-19 10:33:18 IP : 115.87.212.187


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3341564)

พี่สาวตอนท้องก็ทานเห็ดเหมือนกันค่ะ เพราะทานเนื้อสัตว์แล้วคลื่นไส้มากๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น กล้วยไข่ วันที่ตอบ 2013-10-20 06:14:28 IP : 58.8.215.13



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล