เมื่อพูดถึงการทำประกันภัยรถยนต์ หลายคนสงสัยแน่นอนว่าประกันแต่ละชั้นให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง เพราะปัจจุบัน ประกันรถยนต์มีหลายระดับเพื่อเป็นทางเลือกให้เจ้าของรถมากขึ้น หากพิจารณาในภาพกว้าง ๆ แล้วชั้น 1 กับชั้น 2 เป็นประกันภัยรถยนต์ที่แตกต่างกันไม่มาก ทำให้มือใหม่เมื่อซื้อรถยนต์ เกิดคำถามว่าควรทำประกันชั้นใด ดังนั้นวันนี้เราจึงขอนำข้อแตกต่างระหว่างประกัน 2 ชนิดนี้มาฝากทุกคนกัน โดยแบ่งเป็น 3 ประเด็นดังนี้

1.      การคุ้มครองรถยนต์ระหว่างเรากับคู่กรณี

          ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายคู่กรณีหรือตัวคุณเอง ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทำ ประกันรถยนต์ชั้น 1 เอาไว้ ย่อมคุ้มครองความเสียหายของรถยนต์คู่กรณี + รถยนต์ของผู้ทำประกันด้วยแบบครบวงจร ไม่ว่าจะมีคู่กรณีหรือไม่ก็ตาม ในขณะที่เมื่อทำ ประกันรถยนต์ชั้น 2 เอาไว้ หากเกิดการชนขึ้น ประกันรถชั้น 2 จะคุ้มครองความเสียหายเฉพาะรถยนต์อีกฝ่ายเท่านั้น สรุปโดยง่ายคือหากทำประกันรถยนต์แบบชั้น 1 ไว้คุณจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย ส่วน ประกันชั้น 2 คุณต้องออกค่าใช้จ่ายสำหรับการซ่อมรถยนต์ของคุณเอง แต่ไม่ต้องเสียค่าซ่อมรถยนต์ของคู่กรณี

2.      ทุนประกัน

          ทุน ประกันรถยนต์ชั้น 1 ย่อมสูงกว่าทุน ประกันรถยนต์ชั้น 2 เนื่องจากมีความคุ้มครองครอบคลุมมากกว่า ทำให้ ประกันรถชั้น 1 เสียเบี้ยรายปีโดยเฉลี่ยมากกว่า 10,000 บาทขึ้นไป ส่วนประกันรถชั้น 2 เสียเบี้ยเพียงแค่หลักพันต่อปีเท่านั้น และการเสียเบี้ยมากกว่าย่อมได้รับความคุ้มครองที่สูงขึ้นด้วยนั่นเอง

3.      การคุ้มครองอื่นนอกเหนือการชน

          ข้อนี้ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทประกันแถมสิทธิประโยชน์อื่นมาแนบท้ายกรมธรรม์หรือไม่ ซึ่งประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 ของ SCB ให้ความคุ้มครองพิเศษด้านน้ำท่วมเท่ากับทุนประกันภัย และรับประกันคุณภาพซ่อม 1 ปี เมื่อเข้าซ่อมกับอู่เทเวศเชียร์ รวมทั้งคุ้มครองค่ายาง 100% ในขณะที่ ประกันรถชั้น 2 ของ SCB ให้ความคุ้มครองพิเศษด้านน้ำท่วม 50,000 บาท ซึ่งถือว่าน้อยกว่าประกันภัยรถชั้น 1 พอสมควร รวมทั้งไม่สามารถเข้าซ่อมกับอู่พิเศษที่เข้าร่วมกับ SCB ได้

ประกันชั้น 2 เหมาะกับการใช้รถยนต์แบบไหน พร้อมทางเลือก ประกันชั้น 2 พลัส ของ SCB Protect

            โดยปกติแล้วรถยนต์ป้ายแดงควรทำ ประกันชั้น 1 อยู่แล้ว เพราะทุนประกันที่สูงกว่า ครอบคลุมค่าอะไหล่รุ่นใหม่ที่ราคาสูงอย่างเพียงพอ ไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายเองเพิ่มเติม ในขณะที่เมื่อใช้งานรถยนต์ไปสักระยะเวลาประมาณ 7 ปีขึ้นไป บริษัทประกันจะไม่รับทำประกันรถชั้น 1 แก่รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานนาน ๆ เนื่องจากมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูง ทำให้รถยนต์กลุ่มดังกล่าวต้องหันมาทำประกันรถชั้น 2 แทน ทั้งนี้ผู้ขับขี่ต้องอาศัยประสบการณ์ขับขี่พอสมควร มิเช่นนั้นแล้วเมื่อเกิดอุบัติเหตุต้องรับผิดชอบค่าเสียหายในส่วนของรถยนต์ตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

            หากรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานนาน มีการนำออกไปขับในระยะทางสั้น ๆ ในเมือง ก็มีทางเลือกที่คุ้มค่าคือ ประกันชั้น 2 พลัส ที่คุ้มครองเหมือนชั้น 2 และเพิ่มความคุ้มครองทรัพย์สินของผู้เอาประกันภัย หากเกิดการชนและเป็นฝ่ายผิด ก็ยังสามารถนำรถยนต์ของเราไปซ่อมในวงเงินประกันโดยที่ไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายเอง ชมเพิ่มเติมที่เว็บไซด์ https://online.scbprotect.co.th/motor/type-2