จากการสำรวจพบว่าคนนิยมซื้อรถยนต์กันมากขึ้นด้วยเวลาเดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวกรวดเร็ว ถึงได้ทำให้รถราบนถนนทุกวันนี้มีมากขึ้น สิ่งที่ตามมาก็คืออุบัติเหตุบนท้องถนนที่อาจคาดไม่ถึง แน่นอนว่าจึงต้องมีการทำประกันภัยรถยนต์ไปด้วยซึ่งประกันรถยนต์แต่ละชั้นไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ประกันชั้น 2 หรือ ประกันรถชั้น 3 ก็ให้ความคุ้มครองที่ต่างกันไป วันนี้เราจะมาดูว่าประกันรถยนต์แต่ละชั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร

          หลายคนลังเลว่าควรทำประกันรถยนต์ชั้นไหนดีที่จะให้ความคุ้มครองในการขับขี่ในชีวิตประจำวันอย่างรอบด้าน ต่อไปนี้คือความแตกต่างของ ประกันรถยนต์ชั้น 1 SCB Protect ประกันรถยนต์ชั้น 2 ประกันรถยนต์ชั้น 3

1.             ประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมาะกับรถใหม่ไปจนถึงรถที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี ต้องการการคุ้มครองให้รถเหมือนใหม่และครอบคลุมทุกด้าน รวมไปถึงคนที่อาจจะยังไม่ชำนาญในการขับขี่ ใช้รถบ่อย ๆ หรือต้องขับทางไกล เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ตลอดเวลา เป็นประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สินของคู่กรณีด้วยการชดใช้ค่าสินไหมตามจำนวนเงินเอาประกันภัยต่อคน ให้ความคุ้มครองเจ้าของรถหากรถยนต์เกิดสูญหายหรือไฟไหม้จะได้รับการชดเชยตามที่ระบุไว้ในสัญญา รวมไปถึงเมื่อรถยนต์เกิดความเสียหายก็สามารถเคลมประกันได้อย่างครอบคลุม โดยทางบริษัทประกันจะซ่อมรถให้ทั้ง 2 ฝ่าย

2.       ประกันรถยนต์ชั้น 2 ให้ความคุ้มครองต่อคู่กรณีด้านความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินด้วยการชดใช้ค่าสินไหมตามที่ได้ตกลงกันไว้ในสัญญา รวมทั้งคุ้มครองกรณีรถสูญหายและไฟไหม้ด้วยเหมือนกัน แต่หากเกิดอุบัติเหตุจนรถยนต์เกิดความเสียหายและเราเป็นฝ่ายผิด ทางประกันจะรับผิดชอบค่าซ่อมรถของคู่กรณี แต่ต้องออกค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมรถของเราเอง สำหรับ ประกันชั้น 2 จะเหมาะกับคนที่ขับรถยนต์คล่องแล้ว ขับขี่เป็นประจำและมีทักษะในการขับขี่ที่ปลอดภัยไปจนถึงปลายทาง

3.             ประกันรถยนต์ชั้น 3 คือประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองค่าซ่อมรถให้เฉพาะคู่กรณี แต่ก็ยังคุ้มครองชีวิต ร่างกาย การรักษาพยาบาลให้กับทั้งสองฝ่าย แต่ไม่ครอบคลุมค่าซ่อมรถคันที่เอาประกัน และหากรถสูญหายหรือไฟไหม้ก็ต้องรับผิดชอบเองเช่นกัน สำหรับ ประกันรถชั้น 3 จะเหมาะกับคนที่มีทักษะในการขับขี่เหมือนข้อ 2

ยังมีประกันภัยรถยนต์แบบ 2 พลัส และ ประกันชั้น 3 พลัส SCB Protect ที่เป็นตัวเลือก เพิ่มเติมความคุ้มครองค่าซ่อมรถยนต์ให้กับคันที่เอาประกันด้วย มีค่าเบี้ยเพิ่มเติมมาอีกไม่มาก ถือเป็นทางเลือกที่ดีเพิ่มขึ้นมาและคุ้มครองความเสี่ยงได้ดีกว่า คุ้มค่าเพราะไม่ต้องจ่ายค่าซ่อมรถยนต์เอง เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินการทำ ประกันชั้น 1 คือเครื่องมือที่ช่วยปกป้องและคุ้มครองทั้งตัวเราและคู่กรณีได้ดีที่สุด แต่ถ้ารถยนต์มีอายุเกิน 7 ปี ก็มีทางเลือกอื่นเพิ่มเติม ซึ่งการทำประกันรถยนต์ไว้ยังไงก็คุ้มค่าแน่นอน เพราะหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ก็มีกรมธรรม์ความคุ้มครองที่ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้