ReadyPlanet.com


มาทำความรู้จักประกันสุขภาพอุบัติเหตุ คุ้มครองเรื่องอะไร


 

                การมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเป็นความปราถนาที่หลาย ๆ คนต้องการ เพราะสุขภาพร่างกายคือสิ่งที่สำคัญ แต่โรคภัยไข้เจ็บและการเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ และเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็อาจรุนแรงจนต้องใช้เวลารักษาตัวเป็นเวลานาน จนส่งผลให้เกิดสถานการณ์เงินไม่พอจ่ายกับค่ารักษาพยาบาลที่แพงขึ้นทุก ๆ วัน เสียเวลาในการเดินทาง หรือบางครั้งอาจรุนแรงถึงขั้นทุพพลาภาพ ไม่สามารถหารายได้ได้เหมือนเดิมอีกต่อไป หลาย ๆ คนจึงเลือกที่จะทำประกันด้วยประกันสุขภาพอุบัติเหตุ นั่นเอง

                ประกันสุขภาพอุบัติเหตุคือคุ้มครองอุบัติเหตุครอบคลุมรายการต่อไปนี้

1.       กรณีบาดเจ็บ เสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะ ค่ารักษาพยาบาลเมื่อได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ มักทำให้เกิดความกังวลได้ง่าย โดยเฉพาะอุบัติเหตุที่เกิดมีโอกาสขึ้นได้บ่อย ๆ ตัวอย่างเช่น อันตรายจากไฟฟ้า ไฟดูด การพลัดตกจากที่สูง ถูกของมีคมบาด กระดูกแตกหัก หกล้ม จมน้ำ ไฟหรือน้ำร้อนลวก เป็นต้น

2.       กรณีเจ็บป่วยจากโรคภัยต่าง ๆ ที่พบได้บ่อย เพิ่มความอุ่นใจด้วยการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ทั้งในกรณีที่นอนพักรักษาตัว หรือพบแพทย์แบบผู้ป่วยนอก โดยเฉพาะโรคที่พบได้บ่อย ไม่ว่าจะเป็น อาหารเป็นพิษ ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก ปอดอักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ โรคมือ เท้า ปาก RSV เป็นต้น

3.       ค่าการชดเชยรายได้ การบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วยที่รุนแรงจนทำให้ขาดงาน ไม่มีขาดรายได้ จะไม่มีความกังวลอีกต่อไป เพราะประกันสุขภาพอุบัติเหตุจะมอบเงินชดเชยรายได้ หรือมอบเป็นค่าดูแลผู้ป่วยต่อวันจากประกันอุบัติเหตุเด็ก SCB Protect เมื่อต้องดูแลลูกหลาน ที่นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ให้หายกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย

                อัตราเบี้ยประกันภัย พิจารณาจากปัจจัยใด

1.       อาชีพของผู้ทำประกันภัย แบ่งได้เป็น 4 ลักษณะ คือ

·        อาชีพพนักงานประจำ ที่ทำงานในสำนักงาน

·        อาชีพผู้ปฏิบัติงานในลักษณะวิชาชีพ มักต้องทำงานกลางแจ้งเกือบตลอดเวลา

·        อาชีพผู้ปฏิบัติงานด้านช่าง มักอยู่ในกระบวนการผลิตที่ต้องใช้เครื่องจักรกลหนัก ๆ ลักษณะงานที่ต้องใช้แรงงาน ต้องมีการเดินทาง หรือทำงานนอกสำนักงานเป็นประจำ

·        อาชีพพิเศษที่มีความเสี่ยงสูงมาก ๆ ตัวอย่างเช่น นักแสดงผาดโผน หรือคนที่ต้องทำงานบนที่สูง อาชีพที่มีความเสี่ยงจากอันตรายจากไฟฟ้า เป็นต้น

2.       อายุ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี เบี้ยประกันภัยจะสูงกว่าผู้ที่อายุต่ำกว่า 60 ปี หรืออาจมีประกันภัยลักษณะเฉพาะตามอายุ อย่างประกันอุบัติเหตุเด็ก หรือประกันสำหรับผู้สูงอายุ

3.       ความคุ้มครองที่ต้องการ ผู้เอาประกันเองสามารถเลือกพิจารณาสัญญาประกันตามความคุ้มครองเฉพาะที่ต้องการด้วยตัวเอง เช่นความคุ้มครองเฉพาะกรณีที่เสียชีวิต สูญเสียอวัยวะและทุพพลภาพ โดยไม่ต้องการความคุ้มครองด้านค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น

4.       ความคุ้มครองเพิ่มเติม เช่นเพิ่มโรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็ง โรคหัวใจ หรือความเสี่ยงเฉพาะบุคคลอย่างไฟดูด เป็นต้น

5.       วงเงินคุ้มครองที่กำหนดในสัญญาประกัน ยิ่งวงเงินคุ้มครองสูง อัตราเบี้ยประกันก็จะยิ่งสูงตามไปด้วย ซึ่งผู้สนใจทำประกันสามารถเลือกวงเงินคุ้มครองที่เหมาะสมกับตนเองที่เราเห็นว่าสำคัญพอ หรือหากมีรายได้เพิ่มขึ้นอาจพิจารณาขอความคุ้มครองเพิ่มเติมในภายหลังก็ได้

 

 

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ nemophilanie :: วันที่ลงประกาศ 2022-09-19 01:34:38 IP : 124.120.77.203


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล