ReadyPlanet.com


บอกต่อ ถ้วยกาแฟ แต่ละแบบใส่เมนูแบบไหน


 

          ถ้วยกาแฟ ไม่ใช่แค่ภาชนะเท่านั้น แต่ยังเปรียบเหมือนตัวช่วยให้กาแฟเมนูนั้น ๆ ดูสวยงาม น่าดื่ม และยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้อีกด้วย หากใครยังนึกภาพไม่ออกก็ขอให้ลองนึกภาพตอนที่เรายกแก้วกระดาษขึ้นดื่มกับภาพที่เรายกแก้วเซรามิกสวย ๆ ขึ้นดื่มก็น่าจะเห็นภาพได้ง่ายขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น แก้วเซรามิกที่วางขายอยู่ในท้องตลาดก็มีด้วยกันหลายขนาดและหลายรูปทรง แล้วแบบนี้เราควรเลือกใช้แบบไหนดีถึงจะเหมาะกับเครื่องดื่มแต่ละชนิด วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปหาคำตอบกัน

 

ทำความรู้จักกับถ้วยกาแฟรูปทรงต่าง ๆ

          สำหรับ แก้วใส่กาแฟ แบบวัสดุเซรามิกที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมีด้วยกัน 3 รูปทรง ซึ่งแต่ละรูปทรงก็จะมีจุดเด่นและคุณสมบัติที่แตกต่างกันดังต่อไปนี้

1.      แก้วทรงทิวลิป แก้วทรงเตี้ย ฐานหรือก้นแก้วค่อนข้างกว้าง แต่ปากแก้วจะแคบคล้ายดอกทิวลิป บางคนก็บอกว่าลักษณะคล้ายแก้วไวน์ที่ไม่มีก้าน ส่วนใหญ่จะมีความจุไม่มาก แต่เก็บความร้อนได้นาน  คุณสมบัติเด่นคือช่วยคงกลิ่นของกาแฟได้ยาวนาน

2.      แก้วทรงกระบอก แก้วมีลักษณะเป็นทรงกระบอกตามชื่อ ก้นแก้วกับปากแก้วจะมีขนาดเท่ากันเป๊ะ ๆ ทำให้จุเครื่องดื่มได้ค่อนข้างมาก แต่จะเก็บความร้อนได้ไม่ดีเท่าแก้วทรงทิวลิป คุณสมบัติเด่นคือ เมื่อยกดื่มจะได้รับรู้ถึงรสชาติของกาแฟที่กลมกล่อมเป็นพิเศษ

3.      แก้วทรงปากกว้าง แก้วมีลักษณะปากแก้วกว้าง ก้นแก้วแคบ เมื่อยกขึ้นจิบหรือดื่ม ไอน้ำที่มีกลิ่นของกาแฟอัดแน่นอยู่จะลอยออกมาเข้าจมูกแบบเต็ม ๆ และกาแฟจะไหลเข้าไปสัมผัสที่ด้านข้างและปลายลิ้น ช่วยให้สัมผัสกับรสชาติแท้จริงของกาแฟได้มากขึ้น

 

 

 

วิธีการเลือกถ้วยกาแฟให้เหมาะสมกับปริมาณกาแฟ

          ถ้วยกาแฟ มีด้วยกันหลายขนาด ส่วนใหญ่จะบอกความจุมีหน่วยเป็น “ออนซ์” (Oz) โดย 1 ออนซ์ เท่ากับ 29.5 มิลลิลิตร ซึ่งแก้วที่นิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบันมีด้วยกัน 4 ขนาดดังต่อไปนี้  

1.      แก้วความจุ 3 ออนซ์ หรือ “แก้วเอสเพรสโซ่” (Espresso Cup) ซึ่งเรียกกันอีกอย่างว่า “แก้วช็อต” นั่นเอง เป็นแก้วทรงเตี้ย มีหูจับ ปากแก้วจะมีความหนาพอดีกับริมฝีปาก ตัวแก้วมีคุณสมบัติเก็บความร้อนได้ดี ส่วนใหญ่มักใช้เสิร์ฟกาแฟเอสเพรสโซ่ เพราะเป็นเครื่องดื่มประเภท กาแฟดำ ไม่มีการเติมน้ำหรือนมเพิ่ม จึงมีปริมาณน้ำน้อย

2.      แก้วความจุ 6 – 8 ออนซ์ หรือ “แก้วคาปูชิโน่” (Cappuccino Cup) เป็นแก้วขนาดกลาง มีหูจับ ก้นแก้วจะมีลักษณะโค้งมน ปากแก้วกว้างเพื่อจะได้วาดลายฟองนมได้สะดวก ส่วนใหญ่นิยมใช้เสิร์ฟลาเต้ร้อน โกโก้ร้อน และคาปูชิโน่ร้อน

3.      แก้วความจุ 12 ออนซ์ หรือ “แก้วมัค” (Mug Cup) เป็นแก้วทรงสูงแบบมีหู ถูกออกแบบให้สามารถยกดื่มโดยจับที่แก้วโดยตรงหรือจับที่หูแก้วก็ได้ ก้นแก้วจะมีลักษณะแคบ ปากแก้วกว้าง นิยมใช้เสิร์ฟกาแฟร้อนอย่าง กาแฟดำ หรือลาเต้ร้อน

4.      แก้วความจุ 13 ออนซ์ หรือ “แก้วลองดริ๊งก์” (Long Drink Glass) เป็นแก้วทรงสูง ไม่มีหูจับ ใช้เสิร์ฟเครื่องดื่มเย็น อย่างกาแฟเย็นหรือชาเย็น

 

ทั้งหมดนี้คือสาระความรู้เกี่ยวกับรูปทรงและขนาดของ แก้วกาแฟ ซึ่งคนทั่วไปอาจจะไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก แต่สำหรับคอกาแฟหรือผู้ที่อยากจะเปิดร้านกาแฟควรจะต้องให้ความสำคัญมากพอ ๆ กับตัวเมล็ดกาแฟเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะเพิ่มความสวยงามน่าดื่มแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพและความเชี่ยวชาญด้านกาแฟได้เป็นอย่างดีอีกด้วย



ผู้ตั้งกระทู้ nemophilanie :: วันที่ลงประกาศ 2024-01-06 03:52:39 IP : 124.120.79.119


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล