ReadyPlanet.com


เคล็ดลับเลี้ยงลูกให้หลักแหลม


 เคล็ดลับเลี้ยงลูกให้หลักแหลม

 
เฉียบแหลมด้วยเหตุว่านมแม่
ให้นมแม่ยาวนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผลการศึกษาในเด็กวัยศึกษาเจอว่า เด็กที่กินนมแม่เวลาที่เป็นทารกมักจะมีไอคิวสูงกว่าเด็กที่มิได้กินนมแม่ การมอบให้นมลูกยังเป็นระยะเวลาสำคัญสำหรับในการสร้างสายสัมพันธ์กับลูกน้อย
 
เลี้ยงลูกยังไง…ไม่ให้ทุกข์ใจในต่อมา…
บิดามารดาทุกท่านต่างต้องการให้ลูก ๆ ของตัวเองเติบโตเป็นคนดี มีความน่ายินดี มีคุณธรรม แล้วเราจะเลี้ยงดูเด็กให้เป็นอย่างที่คาดหมายได้อย่างไร ความจริงแล้วกระบวนการเลี้ยงลูกที่เยี่ยมที่สุดไม่จำเป็นที่จะต้องอาศัยการอบรมในคอร์สที่มีคุณค่าที่สูง หรือหนังสือความรู้อะไรมากมาย เราสามารถศึกษาได้จากการถ่ายทอดวิชาความรู้ของคนที่มีการทำงานที่เคยทำมาและความชำนาญสำหรับการทำงานด้านสุขภาพจิตและจิตเวช
 
ดร.หลุยส์ โรจาส มาร์กอส (Luis Rojas Marcos) จิตแพทย์ที่เป็นที่รู้จักของอเมริกาและยอดเยี่ยมในผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกของคณะกรรมการการแพทย์แห่งรัฐนิวยอร์ก ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา ได้เขียนบันทึกเรื่องราวที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับกรรมวิธีเลี้ยงลูก เรื่องโศกนาฏกรรมเงียบ (A silent tragedy) โดยในบทความได้ให้คำแนะนำที่มีประโยชน์ต่อคนอ่านที่เป็นผู้ปกครองของเด็กสำหรับการนำไปเป็นแนวทางเลี้ยงชมลูกหลานเพื่อที่จะไม่ให้จำเป็นจะต้องมานั่งทุกข์ใจกับความประพฤติปฏิบัติไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ
 
 ให้ลูกกินนมแม่
 
ผลการค้นคว้าวิจัยจาก American Academy of Pediatrics (AAP) และ  American College of Obstetricians and Gynecologists เผยว่าการมอบให้ลูกกินนมแม่ขั้นต่ำ 6 เดือนถึง 1 ปี นับเป็นเลิศในเทคนิคและวิธีในการปรับปรุง IQ และ EQ เด็กอย่างเป็นธรรมชาติและมีคุณภาพ คุณประโยชน์ทางโภชนาการของน้ำนมแม่ช่วยปรับปรุงระบบทางประสาทของเด็ก และการใกล้ชิดเวลาแม่กับลูกระหว่างให้นมยังช่วยให้เด็กสัมผัสอบอุ่นและรับรู้ถึงความรักความใส่ใจจากแม่ ช่วยเสริมสร้างความเชี่ยวชาญทางอารมณ์ให้แก่ลูก 
 
เรื่องของช่วง พวกเราต่างรู้ดีไม่ว่าสถานภาพทางบ้านจะปานกลางหรือร่ำมั่งคั่ง ระหว่างในชีวิตของแต่ละคนโดยมากจะมีไม่ค่อยพอ เพราะบทบาทการงานที่จึงควรรับผิดชอบ ด้วยเหตุผลดังกล่าวควรต้องจัดอันดับความสำคัญ หากจัดไม่ได้ก็อาจจะยากลำเค็ญ เพราะฉะนั้นหลายๆครอบครัวจึงฝากความมุ่งมาดไว้ที่เนอสเซอรี่หรือสถานรับดูแลเด็ก ซึ่งโดยส่วนมากจะรับไม่ถูกถูกใจได้ในเรื่องการชมแลทางกายเพียงแค่นั้น อาทิเช่น ป้อนข้าว ป้อนน้ำ อาบน้ำ แต่งตัว เป็นต้น แต่จะสามารถชมแลไปจนกระทั่งเรื่องการปรับปรุงด้านจิตใจได้ไหมนั้น อาจจะเกิดเรื่องยากที่จะหาคนเลี้ยงที่จะทุ่มเทเหมือนมารดาและบิดาได้ โดยเหตุนี้ผู้มีอุปการะคุณทุกคนควรให้ความเอาใจใส่กับพัฒนาการในลูกวัยเล็ก เนื่องมาจากความก้าวหน้าของเด็กเป็นสิ่งที่รอไม่ได้ หากไม่อ่อนข้อเหนื่อยในช่วงเวลานี้ ก็คงจะจำเป็นที่จะต้องเหนื่อยระหว่างโต ถ้าหากมีปัญหา ขณะนั้นจะแก้ยาก พูดกันไม่รู้เรื่อง ซึ่งอาจจะเป็นผลให้ลูกมีปัญหาเกี่ยวกับต่างๆ ที่ส่งผลให้คนเป็นพ่อเป็นแม่จำเป็นที่จะต้องเจ็บใจได้ อย่างเช่น ไม่มีความรับไม่ถูกถูกใจ ไม่เรียนรู้หนังสือ เที่ยวเตร็ดเตร่ ไปซิ่งรถ ไปใช้ยาเสพติด ยิ่งไปกว่านั้นไปกว่านั้น พ่อแม่คงมองไม่แสดงตัวปัญหาที่ลูกกำลังเจออยู่เลยก็เป็นได้
 
 
 
สั่งซื้อออนไลน์
วิวัฒนาการลูกน้อยแต่ละตอนวัย
ความก้าวหน้าลูกน้อยแต่ละณ เวลาวัย
สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ให้ความเอาใจใส่ในเรื่องของการเลี้ยงชมลูกนิดหน่อยนั้น อาจไม่พ้นเรื่องพัฒนาต่าง ๆ ของลูกในแต่ละระหว่างวัย เพราะว่าการที่คุณพ่อคุณแม่ให้ความสำคัญและเข้าใจวิวัฒนาการลูกนิดหน่อยเป็นอย่างดี นำมาซึ่งการทำให้ลูกนิดหน่อยได้รับการกระตุ้นและตอบสนองได้อย่างดิ่งจุด ส่งผลให้ลูกมีความแฮป***และอบอุ่นใจ พร้อมที่จะทำความเข้าใจต่อสิ่งต่างๆ ได้อย่างเต็มที่
 
รู้ทันความก้าวหน้าที่ไม่ถูกต้องในแต่ละระหว่างวัย-วัยแรกเกิด
วัยแรกเกิด (ระหว่างอายุ 0-1 ปี) 
ระหว่าง 1-3 เดือนแรก 
จะเป็นเวลาพัฒนากล้ามเนื้อศีรษะ ลูกจะค่อยๆ เริ่มขยับศีรษะได้เองโดยไม่จำเป็นที่จะต้องเกื้อหนุน สามารถยิ้ม ส่งเสียงคราง ให้คุณแม่ชื่นใจได้แล้วนะคะ
ณ เวลา 4-6 เดือน เขาก็จะเริ่มขยับมือและเท้า เริ่มต้นหยิบสิ่งของเข้าปาก ฟันก็เริ่มขึ้น เริ่มต้นลุกขึ้นนั่ง 
ช่วง 7-9 เดือน ก็จะเริ่มต้นส่งเสียงอ้อแอ้เป็นคำๆ ตามที่ได้ยิน สามารถที่จะจับสิ่งของเล็กๆ หรือเริ่มยืนหรือเดินโดยยึดเกาะอย่างกับหรือขอบโต๊ะไว้ด้วย 
ณ เวลา 10-12 เดือน เขาเริ่มต้นเข้าใจคำถาม ตอบสนองคุณแม่ได้ดีขึ้น ซึ่งพัฒนาการในช่วงขวบปีแรกนี้ ลูกจะโตขึ้นขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ และแข็งแรงก็ด้วยความรัก ความเอาใจใส่ ของคุณแม่ และการแบ่งปันลูกได้ทานอาหารที่มีค่าสารอาหารที่ ครบถ้วน เพราะว่าวัยแรกคลอดถือเป็นจุดกำเนิด ของการเติบโต เพื่อให้ร่างกายของลูกมีความก้าวหน้าโตขึ้นแข็งแรง ได้อย่างเต็มที่ สิ่งที่จำเป็นที่สุดก็คือน้ำนมแม่ค่ะ และนอกเหนือจากนั้นอาหาร คุณแม่ยังช่วยเสริมสร้างความก้าวหน้า ลูกเล็กน้อยด้วยของเล่นต่างๆ ได้อีกด้วยนะคะ ยิ่งกว่านั้นดูแลวิวัฒนาการทางร่างกายแล้ว การชมแลวัยเด็กให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอยู่เสมอเพื่อที่จะปกป้อง ให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บในเด็กที่ยังไม่โต และหมั่นพินิจอาการต่างๆ ที่คงกำเนิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การเกิดผดในเด็ก ผื่นคันจากอากาศร้อน หรือผื่นผ้าอ้อม เนื่องด้วยต่อมเหงื่อและผิวของเด็กวัยแรกคลอดยังปฏิบัติการไม่สมบูรณ์และ แข็งแรงพอ จึงมีจังหวะกำเนิดผดผื่นได้อย่างง่ายๆ หลายครั้งที่ลูกร้องไห้งอแงเหตุเพราะสัมผัสไม่สะดวกและสบายตัว โดยยิ่งไปกว่านั้นอากาศ ร้อนๆ ในเมืองไทย ทำให้มีจังหวะมีการอุดตันของการระบายเหงื่อบริเวณข้อพับ ผิวหนังใต้ผ้าอ้อม ซึ่งเป็นอาการยอดนิยมของการกำเนิดผดผื่นในเด็กทารก โดยสามารถคุ้มครองปกป้องด้วยการทาแป้งเด็กที่อ่อนโยนต่อผิวลูก รอบๆที่คงเกิดผดได้โดยง่าย และอุตสาหะอย่าให้เขาเกาเพราะเหตุว่าคงกลายเป็นแผลได้ แต่หากสังเกตเห็นการ อักเสบ ผดแดง ควรจะพาลูกไปเจอแพทย์ทันทีจ้ะ
ทราบทันความก้าวหน้าที่ไม่ถูกต้องในแต่ละณ เวลาวัย-วัยคลาน
วัยหัดคลาน (ขณะอายุ 1-2 ปี) ผ่านตอนขวบปีแรกมาได้แล้ว คุณแม่กูรูก็สุขใจได้อันดับหนึ่งแล้วนะคะ เนื่องด้วยว่านั่นเป็นขณะที่จะเรียกว่า ยากที่สุดก็ได้เหมือนกัน เหตุเพราะลูกเล็กยังไม่รู้เรื่องถ้อยคำของเรา แต่พอไปสู่วัยหัดคลาน ลูกเริ่มรู้เรื่องคำบอกเล่าบางคำ แต่อาจจะจะยังพูดไม่ได้ หรือกล่าวเป็นคำๆ แต่เขาจะรู้เรื่องความหมายขณะที่คุณแม่บอกหรือชี้ให้เห็นท่าทาง เด็กวัยนี้ ควรจะเป็นการดูแลมากเป็นพิเศษนะคะ คุณแม่ควรให้ความสนิทสนม เอาใจใส่ และใช้เวลาอยู่กับลูกให้มากๆ โดยอาจจะคัดสรรค์กิจกรรมซึ่งสามารถเข้าร่วมเบิกบานกันได้ทั้งครอบครัว หรือชวนลูกๆ
ของเพื่อที่จะนคุณแม่ที่มีวัยใกล้เคียงกัน แล้วปลดปล่อยให้พวกเขาได้เล่นด้วยโดยพิจารณาการณ์อยู่ห่างๆ ก็ได้นะคะ เด็กวัยนี้ จะเชื่อรับฟังคุณแม่เนื่องด้วยเขายังไม่รู้ ว่าอะไรทำแล้วได้หรือทำมิได้ แต่อย่างไรก็เพียรพยายามอย่า “ห้าม” มากเกินไป ทดลองปลดปล่อยให้ลูกได้พยายามเล่นอะไรแปลกๆ แบบที่ไม่เหมือนเดิม ดูบ้าง คุณแม่คงจะปลดปล่อยเขาเล่นกับสัตว์เลี้ยง ลงไปวิ่งเล่นบนสนามหญ้า หรือช่วยคุณแม่ปลูกต้นไม้บ้าง นอกนั้นจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางความนึกคิด ยังช่วยสร้างเสริมภูมิต้านทานของลูกด้วยค่ะ
 
เครดิตภาพ : Flickr
 
ทราบทันวิวัฒนาการที่ไม่ถูกต้องในแต่ละเวลาวัย อายุ 1-2 ปี
วัยหัดบอก (ระหว่างอายุ 2-3 ปี) ระยะเวลานี้แหละค่ะที่คุณแม่จะไม่เหงา พูดคนเดียวอีกต่อจากนี้ไปแล้ว เนื่องจากว่าเจ้าตัวเล็กจะเริ่มต้นส่งเสียงบอกเป็นคำยาวๆ หรือบางครั้งบางคราวเป็นประโยคเลยก็มี เพื่อช่วยทำให้ลูกได้ฝึกฝนกล่าวได้คล่องก่อนเข้าโรงศึกษาเล่าเรียนอนุบาล คุณแม่เองก็อย่าทำเป็นนึกไม่ออกฝึกพูดคุย กับลูกอยู่บ่อยมากๆ นะคะ บางเวลาคงจะกล่าวบางสิ่ง เพื่อให้ลูกตั้งคำถามกลับมา หรือถามไถ่ข้อสงสัยและปัญหาเขาให้เขาได้คิด และตอบ ไม่ว่าจะเป็นข้อสงสัยหรือคำตอบว่าอะไร ยืนยันว่าเรียกรอยยิ้มจากคุณแม่และทุกคนในบ้านได้แน่ๆ และการเจรจากันหลายครั้งๆ ก็ยังช่วยฝึกความก้าวหน้าพูด ความเชี่ยวชาญการคิด ช่วยทำให้เขากล้าพรีเซนเทชั่นความเห็นและกล้า บ่งบอกออกได้อย่างดีเยี่ยมเลยจ้ะ นอกจากนี้ เด็กวัยนี้ควรจะเป็นวิธีการใช้พลังงานและการเสริมสร้างความก้าวหน้าทาง ร่างกายที่เหมาะสม การเฟ้นกีฬาโดยง่าย ก็จะช่วยทำให้ลูกได้ใช้กล้ามเนื้อแขนขาได้เป็นอย่างดีด้วย โดยคุณแม่คงจะจะชวนลูกน้อยไปจ๊อกกิ้งรอบพวกบ้าน หรือให้เขาปั่นจักรยานสามขาตามตอนที่เราเดินออกกำลัง นอกเหนือจากนี้จะช่วยฝึกฝนวิวัฒนาการด้านร่างกายแล้ว ยังช่วยให้ท่านแม่ได้ใช้เวลาดีๆ กับลูก เพิ่มอีกความอบอุ่นและให้เขา รู้สึกได้ถึงความห่วงใยของคุณแม่ด้วยค่ะ
ระดับการขึ้นของฟัน
เมื่อกล่าวถึงวิวัฒนาการเด็ก การขึ้นของฟันเหมือนจะเป็นสิ่งที่ใช้ตอนนานและดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ยุติ ทั้งเจ็บปวดฟัน สัมผัสไม่สะดวก และอีกสารพัดอาการที่มิได้มีผลต่อแค่เด็ก แต่ยังทุกข์ยากถึงผู้ปกครองด้วย
 
ฟันน้ำนม – เริ่มขึ้นตั้งแต่อายุ 0-6 เดือน โดยจะโผล่ออกมาจากเหงือกบวม ๆ และทำให้เจ้าตัวเล็กน้ำลายยืดตลอดระยะเวลา ไม่สบายตัว และอาจจะทำให้เป็นไข้ได้
ฟันกระต่าย – เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่อายุ 6-10 เดือน ในในช่วงเวลานี้ฟันคู่หน้าทั้งบนล่างจะเริ่มต้นงอก อาจจะเป็นผลให้คุณแม่รับรู้ไม่ค่อยสบายนักขณะให้นม
ฟันกราม – ระหว่างอายุตอน 10-14 เดือน ฟันกรามจะเริ่มต้นงอกนำมาซึ่งการทำให้เด็กเจ็บจนอาจถึงขั้นไม่หลับไม่นอน
เขี้ยว – อายุ 1-2 ขวบ เขี้ยวจะเริ่มต้นงอก และอาจส่งผลให้ปวด ไม่สบาย หรือมีไข้ได้เช่นเดียวกัน
ฟันกรามส่วนที่ 2 – ฟันชุดสุดท้ายจะขึ้นในณ เวลาอายุ 2-3 ขวบ ซึ่งรวมถึงฟันกรามใหญ่ นั่นแสดงว่าจะเจ็บปวดและไม่สะดวกและสบายปากเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
เคล็ดลับผ่อนคลายอาการคันเหงือกของทารกเมื่อฟันเริ่มต้นขึ้น
ลูกฟันเริ่มต้นขึ้นแล้ว มันไม่เจ็บปวดเลย ขำ ๆ ไม่ยาก ๆ สะดวกและสบาย ๆ … ซะเมื่อไหร่กันล่ะ! สำหรับทารกแล้ว ช่วงฟันขึ้นเนี่ยมันทั้งไม่สะดวกสบายปาก คันเหงือก เจ็บ น้ำลายไหลยืด เพื่อให้ทั้งคุณและลูกสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาฟันขึ้นไปให้ได้ จะเป็นเรื่องดีเอามาก ๆ ที่คุณต้องเลือกเฟ้นกระบวนการบรรเทาความเจ็บจากฟันขึ้นเอาไว้ล่วงหน้า มันช่วยได้นะ และนี่คือกรรมวิธีเหล่านั้นที่พวกเราต้องการบอกต่อ
 
เคี้ยวของเย็น
ให้เคี้ยวอะไรเย็น ๆ ก็จะช่วยผ่อนคลายอาการปวดหรือคันเหงือกเมื่อฟันขึ้นได้เนื่องจากว่าของเย็น ๆ จะช่วยลดอาการบวมของเหงือกและทำให้ทราบสึกชา ของเย็น ๆ ที่ว่าก็มีตั้งแต่เคี้ยวยางกัดแช่เย็น หรือนำผัก ผลไม้หั่นเป็นชิ้นใหญ่ๆ ล้างให้สะอาด แช่เย็นแล้วเอามาให้ลูกกัดผ่านถุงตะข่ายแนวทางแบบนี้จะช่วยคุ้มครองป้องกันอาหารไปติดหลอดลมได้ ข้อควรระวังคือ ของแช่เย็นนั้นไม่น่าจะใช่ของแช่แข็ง ที่มีความแข็งและความเย็นมากเกินความจำเป็นเนื่องจากยิ่งจะทำร้ายเหงือกและเพิ่มเติมอีกปวดยิ่งขึ้น
 
ยางกัด
ของเล่นยางกัดก็ช่วยบรรเทาอาการเจ็บจากฟันขึ้นได้ มีของเล่นยางกัดวางขายเป็นจำนวนมากทั่วไปตามท้องตลาด แต่คุณพ่อคุณแม่ควรระมัดระวังเมื่อจะซื้อยางกัดให้กับลูก เฟ้นชิ้นที่มีทั้งพื้นผิวหนาและนุ่ม มีสัมผัสที่ไม่เหมือนกันออกไป อันที่จริงอาจจะจะไม่เป็นยางก็ได้เช่นกัน อาจเป็นพลาสติก ไม้ หรือแม้แต่ผ้าก็ได้เหมือนกัน ที่สำคัญคือ ควรจะเป็นสิ่งที่ลูกสามารถนำเข้าปากได้ ไม่มีองค์ประกอบใดที่เล็กหรือหลุดออกมาได้ หมายปัจจัยเพื่อคุณพ่อคุณแม่ คือ เด็กนิยมจะเอาใดๆก็ตามเข้าปากเพื่อจะบรรเทาอาการเจ็บปวดจากฟันขึ้น อันที่แท้นี่ไม่น่าจะใช่สิ่งที่ห่วยแตกตราบใดที่ของที่ลูกเคี้ยวและชมดนั้นสะอาดและไม่มีอันตรายว่าจะทำให้ลูกติดคอ
พัฒนาการเด็กทางร่างกายและการผลักดันและส่งเสริม
ลูกเล็กน้อยเมื่ออยู่ภายในระหว่างวัย 1-2 ขวบ สามารถเดินและยืนได้เองอย่างไม่รวนเร อย่างเช่น สามารถเก็บของเล่นที่อยู่ที่พื้นและเดินเตาะแตะนำไปเก็บเข้าที่เข้าทางได้ ถ้าเหน้าจอสถานที่ที่ไม่เรียบ เขาจะคลานเหมือนหมี ปีนข้ามที่กีดขวางโดยลงน้ำหนักที่มือหรือเท้าพร้อมด้วยยกเข่าสูง บังคับการร่างกายได้ดีมากยิ่งขึ้นโดยเกิดการเพิ่มอีกความเร็วทันใจและจบสิ้นได้เมื่อเหน้าจอบางอย่างที่น่าดึงดูด เกิดการกะระยะและสั่งการอวัยวะต่างๆ ของร่างกายได้ดีขึ้นมาก
 
ด้านกล้ามเนื้อมัดเล็กลูกสามารถหยิบหยิบสิ่งของหลาย ชิ้นได้ในมือเดียว มีการกำแน่นไม่ปลดปล่อยหากมีคนมาห่วยแตกง แต่ก็จะเดินนำของเล่นไปให้คนที่ตัวของเราเองจับใจด้วย และนอกจากการหยิบหยิบแล้ว วัยนี้จะเริ่มดึง ฉุด ลาก สิ่งที่เขาชอบและเข้าใจการทำงานของของเล่นแบบดึงลาก ซึ่งจะช่วยให้เด็กมีการเคลื่อนไหวที่ดียิ่งขึ้นด้วย
 
การเดินบ่อยๆ จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อขาและการทรงตัวแข็งแรง ไม่ล้มไม่ยาก วิ่งกระโดดได้ดิบได้ดีคล่องแคล่ว
การเดินช่วยพาเจ้าหนูไปยังพื้นรู้สึก (Sensory) ที่แตกต่างกันออกไป ได้ศึกษารู้เรื่องทิศทางสำหรับเพื่อการออกสู่โลกใหม่
การเล่นในสถานที่และสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนออกไป ส่งผลให้เด็กได้ฝึกคิดต่อ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ว่าจะเล่นอะไรกับสิ่งแวดล้อมใหมองี้ดี
 การวิเคราะห์พบสิ่งที่ต่างไปจากเดิม ด้วยตนเอง สิ่งแรกที่ได้คือความภูมิใจ มีทั้งความเบิกบาน ความตื่นเต้น จนบางเวลาออกอาการขี้อวดหยิบสิ่งที่ไปเจอนำมาให้คุณแม่ด้วย
 เมื่อลูกเริ่มก้าวเดินได้ ความเอาใจใส่อย่างแรกปรากฏทีจะเกิดเรื่องความไม่เป็นอันตรายนะคะ คุณควรทำบ้านให้รัดกุม มีที่กั้นระหว่างบันไดหรือประตู ยิ่งบ้านไหนมีสระน้ำแล้วยิ่งต้องระมัดระวังให้มาก
ควรเลือกของเล่นที่เหมาะสมกับวิวัฒนาการ


ผู้ตั้งกระทู้ love :: วันที่ลงประกาศ 2022-07-19 13:40:12 IP : 223.207.221.138


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล