การชงกาแฟเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่ต้องอาศัยความสามารถและความละเอียด โดยเฉพาะการคัดสรรอุปกรณ์ในการชง เมล็ดกาแฟ ไปจนถึงภาชนะสำหรับใส่กาแฟที่นอกจากจะมีความสวยงามแล้วยังต้องมีขนาดที่พอเหมาะกับกาแฟที่ชงซึ่งแก้วกาแฟที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความน่าดื่มของกาแฟให้มากขึ้น ดึงความเป็นเอกลักษณ์ของเมนูนั้น ๆ ออกมา วันนี้จะพาไปดูวิธีการเลือก ถ้วยใส่กาแฟ แบบเจาะลึกเพื่อให้ได้รู้ว่าแก้วแบบไหนเหมาะกับเมนูใด ขนาดของแก้วควรเป็นแบบไหน  

วิธีเลือก แก้วกาแฟ เมนูร้อน-เย็น

เพื่อที่จะได้รังสรรค์รสชาติเฉพาะตัวของเมนูกาแฟนั้น ๆ ให้มีรสชาติกลมกล่อมลงตัว โดยเฉพาะเมนูกาแฟร้อนที่ต้องอาศัยความละเอียดอ่อน แก้วกาแฟจึงต้องมีความเหมาะสมกับเมนูกาแฟแต่ละชนิด

1.      กาแฟเอสเพรสโซ่ หนึ่งในเมนูยอดนิยม ที่หลาย ๆ คนสงสัยว่าเหตุใด ถ้วยกาแฟ จึงมีขนาดเล็กกว่ากาแฟเมนูอื่น ๆ เพราะ กาแฟเอสเพรสโซ่ เป็นกาแฟเข้มข้นที่ผ่านการชงด้วยแรงดันไอน้ำ ปริมาณน้ำของกาแฟประมาณ 25-30 ml พร้อมกับครีม่าสีทองสวยงาม ไม่มีการเพิ่มส่วนผสมใด ๆ ลงไป เว้นเสียแต่บางคนอาจเพิ่มไซรัปเพียงเล็กน้อย จึงนิยมเสิร์ฟเป็นช็อต ดังนั้นเมนูเอสเพรสโซ่จึงมักใช้แก้วขนาดเล็กปริมาณไม่เกิน 40 ml ตัวถ้วยมีขนาดเล็กและเตี้ย ขอบแก้วมีความหนาเพียง 2-3 มิลลิเมตร

2.      กาแฟนมที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ สำหรับคาปูชิโน่ เพราะมีส่วนผสมของกาแฟเอสเพรสโซ่ที่เข้มข้น เติมเต็มความเข้มข้นนัว ๆ ด้วยนมสด ความหวานจากไซรัป ตามสัดส่วนของสูตรการชง (เพิ่มลดได้ตามความชอบเฉพาะบุคคล) เพิ่มความฟินอีกนิดด้วยฟองนมหนานุ่มและท็อปปิ้งความหอมด้วยผงซินนาม่อนหรือโกโก้ ในส่วนของลาเต้ จะเป็นการเพิ่มปริมาณนมพร้อมทำลวดลายศิลปะที่สวยงาม โดยเทให้ปริมาณนมมากพอที่จะอยู่ในระดับขอบแก้วด้านบน จำเป็นที่จะต้องใช้แก้วขนาด 80-110 ml ทรงเตี้ย ปากกว้าง เพื่อที่จะเผยให้เห็นความสวยงามของลวดลายที่ตกแต่งเพิ่มเติม

3.      กาแฟอเมริกาโน่ เป็นกาแฟเอสเพรสโซ่ ที่เติมน้ำร้อนเพื่อลดระดับความเข้มข้นของกาแฟ โดยน้ำร้อนที่เติมลงไปนั้นอาจมีปริมาณถึง 40-80 ml จึงต้องใช้แก้วกาแฟ ขนาด 110 ออนซ์ ปากกว้าง ทรงเตี้ย

4.      เมนูกาแฟเย็น คาปูชิโน่ ส่วนใหญ่จะเลือกใช้แก้วขนาด 16-18 ออนซ์ เพราะต้องคิดเผื่อเติมน้ำแข็งให้พอดีกับแก้ว จากนั้นกลั่นกาแฟเอสเพรสโซ่ 2 ช็อต เสริมแต่งไซรัป นมและอื่น ๆ ก่อนที่จะคนส่วนผสมให้เข้ากัน เพื่อไม่ให้กาแฟเย็นมีความจืดชืด ในการคนกาแฟและส่วนผสมให้เข้ากัน ควรทำการคนกาแฟในชามที่มีน้ำเย็น เพื่อช่วยลดอุณหภูมิของกาแฟลง เวลาเทใส่แก้วน้ำแข็งจะได้ไม่ละลายมากจนทำให้รสชาติกาแฟเจือจางลง

5.      วัสดุของแก้วกาแฟ ควรเป็นวัสดุที่ไม่ดูดซึมของน้ำ โดยส่วนใหญ่นิยมใช้อยู่ 2 ชนิด ได้แก่ แก้วเซรามิก พอร์ซเลน ที่มีความแข็งแรง เงา งาม ดูเรียบหรู มีน้ำหนัก กับ แก้วใส ซึ่งทั้ง 2 แบบขึ้นอยู่กับผู้ใช้ เพราะมีดีคนละแบบ โดยเซรามิกแบบแรกจะกักเก็บความร้อนได้ดี สวยงาม ชวนหลงไหลและน่าดื่ม ในขณะที่แก้วใสสามารถที่จะโชว์เลเยอร์ หรือชั้นต่าง ๆ ของส่วนผสมของกาแฟได้ชัดเจนสวยงาม

6.      สีของแก้ว ส่วนใหญ่นิยมใช้สีขาว เพื่อที่จะได้มองเห็นระดับความเข้มข้นของกาแฟและช่วยเพิ่มจุดเด่นให้กาแฟน่าดื่มยิ่งขึ้น

ใครที่กำลังเลือก แก้วกาแฟ เพื่อกาแฟถ้วยโปรด สามารถนำวิธีการเลือกแก้วกาแฟที่แนะนำไปใช้ได้เลยเพื่อให้คุณได้ลิ้มรสกาแฟแก้วโปรดได้อย่างดื่มด่ำกลมกล่อม

ชมข้อมูลเพิ่ม

https://www.nespresso.com/th/th/coffee-cup

https://www.nespresso.com/th/th/most-popular-coffee-recipes

https://www.nespresso.com/th/th/most-popular-coffee-recipes