ReadyPlanet.com


เลือก เมนูอาหารเด็ก6เดือน เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน



ทารกที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป จำเป็นต้องได้รับ อาหารเด็กทารก นอกจากนมแม่ เพื่อการสร้างพัฒนาการที่แข็งแรงสมวัย โดยนมแม่ยังมีเป็นอาหารหลักสำหรับเด็กช่วงวัยนี้ แต่ก็ต้องเพิ่มคุณประโยชน์จากสารอาหารอย่างอื่นด้วย เพื่อให้เพียงพอต่อพลังงานที่ต้องการในแต่ละวัน ซึ่งในอาหารหลายชนิดมี วิตามินบำรุงสมอง ที่ช่วยเสริมสร้างความพร้อมทั้งด้านร่างกายและสติปัญญา ไปดูกันว่า เมนูอาหารเด็ก6เดือน ควรมีองค์ประกอบเป็นอย่างไรบ้าง 

ข้าว

ข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทยและเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรตและวิตามินต่าง ๆ ด้วย เมนูข้าว จึงเป็น อาหารเด็ก6เดือน ยอดนิยม ซึ่งสามารถดัดแปลงได้หลากหลายทั้งข้าวตุ๋น ข้าวต้ม ผสมนมแม่ กล้วยน้ำว้าหรือผักอื่น ๆ ตามต้องการ  

ไข่ 

เมนูไข่สำหรับเด็ก 6 เดือน ควรใช้เป็นไข่แดงอย่างเดียวก่อน เพราะหากเด็กมีอาการแพ้ส่วนมากจะเกิดจากโปรตีนในไข่ขาว ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงได้ โดยไข่แดงสามารถนำมาปรุงเป็นเมนูต่าง ๆ ได้ง่ายทั้งแบบต้มและแบบตุ๋น ซึ่งในไข่แดงมี อาหารเสริมสำหรับเด็ก ที่จำเป็นอยู่มากมาย เช่น ธาตุเหล็กและ DHA ที่เป็น วิตามินบำรุงสมอง ช่วยให้มีพัฒนาการเป็นไปได้อย่างสมวัยด้วย 

เนื้อสัตว์ 

เนื้อสัตว์เป็นแหล่งของโปรตีนและสารอาหารจำเป็นอื่น ๆ โดยในช่วงวัยนี้ควรเตรียมเมนูที่ทำจากแหล่งโปรตีนที่ย่อยง่าย เช่น เนื้อไก่ ปลา เต้าหู้ ซึ่งควรบดให้ละเอียด เพื่อไม่ให้ระบบย่อยอาหารของเจ้าตัวเล็กทำงานหนักเกินไป โดยในเนื้อปลานอกจากอุดมไปด้วยโปรตีนแล้วยังมี DHA ที่จำเป็นต่อการพัฒนาสมองด้วย ซึ่งพบได้ทั้งในปลาทะเลและปลาน้ำจืด เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาช่อน ปลาตะเพียน ปลาดุกและปลาสำลี เป็นต้น 

ผักและผลไม้

ผักและผลไม้มีองค์ประกอบเป็นพวกเส้นใย ที่จะช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น และมีวิตามิน แร่ธาตุต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกายด้วย โดยควรทำเป็นเมนูบด เพราะช่วงวัยนี้ระบบย่อยอาหารยังทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่ก็มีการพัฒนาในทุก ๆ วัน ซึ่งสามารถใช้ผักและผลไม้ที่หาได้ง่าย อย่างเช่น ฟักทอง แครอท กล้วยน้ำว้าและอะโวคาโด นำมาบดผสมน้ำซุปและเนื้อำสัตว์ต่าง ๆ ได้ตามต้องการ  

ในเมนูอาหารต่าง ๆ ต้องเตรียมโดยคำนึงถึงความง่ายในการย่อยและไม่ควรปรุงแต่งรสชาติเพิ่มเติม เพื่อไม่ทำให้เกิดความเคยชินที่อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ในระยะยาวและในการเริ่มต้นอาหารชนิดใหม่ ๆ ควรเริ่มทีละชนิด เพื่อสังเกตว่ามีอาการแพ้หรือไม่ และหลีกเลี่ยงการทำให้ ทารกท้องอืด  คอยดูด้วยว่าลูกชอบหรือไม่ชอบอย่างไร เพื่อปรับเปลี่ยนสูตรและทำให้ได้สารอาหารที่ต้องการครบถ้วน เชื่อว่าเมื่อได้เห็นความน่ารักและพัฒนาการของลูกน้อยที่ก้าวหน้ามากขึ้นในแต่ละวัน ย่อมทำให้ความเหนื่อยของคุณแม่ลดลงได้มากเลยทีเดียว



ผู้ตั้งกระทู้ unyana :: วันที่ลงประกาศ 2020-05-11 12:40:46 IP : 171.98.39.184


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล