อาการปวดหัวออฟฟิศซินโดรม หรือไมเกรน ค่อนข้างมีความใกล้เคียงกัน ทำให้เกิดความสับสนและรักษาไม่ถูกต้องอาการก็เหมือนกับ “เกาไม่ถูกที่คัน” อย่างไรก็ไม่หาย ซึ่งอาการปวดของโรคทั้ง 2 นี้ถึงแม้จะใกล้เคียงกันแต่ยังคงแยกแยะได้อยู่

อาการปวดหัวออฟฟิศซินโดรม

เป็นอาการปวดที่หากเป็นหนักต้องรักษา https://www.themoveclubratchada.com/office-syndrome.html มีสาเหตุเกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณบ่าตึง ทำให้เลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงศีรษะได้ยากลำบาก เมื่อบริเวณนั้นขาดเลือดปริมาณออกซิเจนก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อลดลงถึงจุดหนึ่งก็ทำให้เกิดอาการปวดหัว

ถ้าอาการปวดหัวออฟฟิศซินโดรมยังเป็นไม่มากนัก ก็บรรเทาได้ด้วยการยืดกล้ามเนื้อบริเวณบ่าและที่ต้นคออย่างต่อเนื่อง อาการปวดหัวก็เริ่มดีขึ้นและหายเองในระยะเวลาไม่นาน แต่สำหรับคนที่มีอาการปวดหัวมาก จนปวดร้าวลงมาถึงสะบัก ก็อาจมีอาการปวดหัวข้างเดียว หรือสองข้างได้

ความแตกต่างระหว่างปวดหัวออฟฟิศซินโดรมและไมเกรน

 อาการปวดหัวไมเกรนและออฟฟิศซินโดรม อาจเกิดที่หัวข้างใดข้างหนึ่งเหมือนกัน แต่สาเหตุการเกิดต่างกัน โดยอาการปวดไมเกรนเกิดจากสารเคมีภายในสมอง จึงทำให้วิธียืดกล้ามเนื้อไม่สามารถช่วยให้อาการปวดหายไปได้ ต้องรักษาด้วยวิธีอื่นแทน

ไม่ว่าจะเป็นอากรปวดหัวไมเกรน หรือออฟฟิศซินโดรม เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ควรหมั่นสังเกตุอาการและแยกให้ออกว่าเป็นแบบไหน เพื่อการรักษาที่ถูกวิธี ส่วนในกรณีที่เกิดความไม่มั่นใจ ก็ขอคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อหาวิธีรักษาที่เหมาะสมต่อไป

ทั้งนี้ จากข้อมูลเชิงสถิติพบว่า คนไทยกว่า 80% ต่างป่วยเป็นออฟฟิศซินโดรม อย่างอาการปวดหัว หรือปวดหลัง ที่มีสัดส่วนค่อนข้างสูง ซึ่งกลุ่มคนที่เป็นโรคนี้อาการเกิดมักกำเริบจากการทำงาน โดยเฉพาะคนที่ต้องนั่งทำงานอยู่ในท่าเดิมติดต่อเป็นเวลานาน รวมถึงคนที่มีพฤติกรรมใช้คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือบ่อยครั้ง.