
เรื่องของแม่อ้อน ![]()
ปัจจุบันนี้เราอายุ 36 มีลูกสองคนผู้หญิงทั้งคู่ คนโตชื่อน้องว่าน ตอนที่คลอดออกมา นน. 3850 กรัม ตัวโตมาก(ผ่าตัด) ความที่เป็นลูกคนแรก เราก็ต้องเห่อเป็นธรรมดา ใช่ม๊ะ แต่ว่าเรื่องนมนะสิ เราไม่มีความรู้เลย คลอดที่ รพ.วิภาวดี ตรงแยกเกษตร ตอนที่พักฟื้นอยู่ที่ รพ. หลังคลอด พยาบาล ก็จะเรียกเราไปให้นมลูกวันละ 5 เวลา คือ เช้า สาย บ่าย ค่ำ เป็นการดูดเพื่อกระตุ้น แต่ไม่มีนมออกมาเลย พอกลับมาอยู่บ้าน น้องว่านก็ยังต้องกินนมผสม เพราะว่านมยังไม่ออก เราก็ไม่มีประสบการณ์เลย ก็เลยเข้าใจว่าไม่มีนม แต่ว่าตอนนอนนมก็ไหลมาเลอะเทอะไปหมด เราก็ไม่รู้วิธีการที่จะเก็บนมนี้ไว้ได้อย่างไร เสื้อก็เลอะไปหมด แต่พอเวลาลูกร้องจะกินนม เราก็ให้ดูด แต่ว่าคงไม่ทันใจ ร้องใหญ่เลย ความที่เรามือใหม่ รวมทั้งพ่อเขาด้วย กลัวลูกร้องนานก็เลยชงนมผสมให้ ก็เป็นอันว่าไม่ได้กินนมแม่เลย ตรงนี้อยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคุณแม่มือใหม่ว่าต้องอดทน และตั้งใจจริงที่จะให้ลูกกินนมแม่ อยากจะบอกว่า ผลที่ตามมาเรื่องใหญ่มาก น้องว่านเป็นโรคภูมิแพ้ แล้วก็ ป่วยบ่อยมาก ส่วนมากเรื่องระบบทางเดินหายใจ หรือ โรคหวัดผสมภูมิแพ้นั่นแหละ เราพาลูกเข้าโรงพยาบาลบ่อยมากๆ จนเข้าโรงเรียนอนุบาล ยิ่งแย่ไปใหญ่ พอเด็กอื่นเป็นหวัด หรือมีน้ำมูก น้องว่านก็จะเป็นหนักกว่าเพื่อน ไม่ได้ไปโรงเรียนเสียหลายวันเลย ตลอดทั้งเทอมจะหยุดเรียนติดกันหลายวันและ บ่อยๆ โดยเฉพาะฤดูฝน ต่อมาประมาณ 2 ขวบครึ่ง ชักเพราะไข้สูง คุณพ่อเขาแทบบ้าเลย เพราะว่าชักที่ รพ. เลยนะ ขณะที่รอเช็ดตัว ครั้งนี้ก็นอน รพ. 3คืน แล้วคุณหมอก็เตือนมาว่า เด็กที่เคยชัก ถ้ามีไข้ขี้นให้กินยากันชักไว้เลย เพราะอาจจะชักอีกได้ ที่นี้ละ คุณเอ๋ย ความเครียดก็มาเพิ่มนะซี เป็นไข้เฉยๆ พ่อแม่ก็แทบไม่ได้นอนอยู่แล้วมีชักมาร่วมด้วยอีก คงเป็นเพราะว่าน้องว่านไม่ได้รับสารอาหารที่เป็นภูมิคุ้มกันโรคจากนมแม่เลย อีกครั้งนึงก็ประมาณ 4 ขวบกว่า มีอาการไข้ไม่สูง แต่ว่านอนหลับแล้วน้องว่านทำตาเหลือกๆ ไปในทางเดียวกัน เราตกใจมาก แฟนก็ไม่อยู่ทำงานล่วงเวลาอยู่ที่ที่ทำงาน ก็รีบพาลูกลงมาแล้วเพื่อนบ้านก็ช่วยขับรถไปส่งให้ไปถึงก็เจอแต่หมอเวร(เวรจริงๆ) ดูเด็กๆเหมือนจบมาใหม่งั้นแหละ คุยไปคุยมาให้เรา Admit ICU เราตกใจมาก แล้วถึงมาให้เหตุผลว่า ตอนที่เด็กมา เรียกอาการว่าชักตอนหลับ ถ้า Admit ห้องธรรมดา คุณแม่หลับเด็กก็อาจชักอีกได้ เราก็เลยขอต่อสายคุยกับอาจารย์หมอเด็ก ถึงได้เข้าใจ คืนนี้ก็ สแกนสมอง วัดคลื่นสมอง เพื่อหาไข้สมองอักเสบ และถ้าผลไม่ดีก็จะเจาะไขสันหลัง ตอนนั้นเรามึนงงมาก แต่ว่าสติก็ยังดีอยู่ พอตอนเช้าอาจารย์หมอมา ปรากฏว่า ไม่ต้องเจาะไขสันหลัง เฮ้อ โล่งอกไปที หลังจากนั้น น้องว่านก็ยังป่วยอยู่บ่อยๆ ก็เรื่องเดิมๆ ไอ มีน้ำมูก หมอบอกว่าเรื่องชักให้ระวังถึง 6 ขวบ ถ้าเลยไปแล้วก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ายังชักอยู่ ถือว่าเป็นโรคลมชัก หรือลมบ้าหมู แล้วแต่อาการ ตอนนี้ น้องว่านอยู่ ป.2 แล้ว อายุ 7 ขวบครึ่ง หวัด หรือ แพ้อากาศก็ยังเป็นอยู่บ่อยๆ แต่ไม่มีอะไรน่าห่วง เรานะ เรื่องยา ต่างๆ แทบจะเป็นเภสัชกรจ่ายยาเด็กได้แล้วเพราะไปหาหมอบ่อยมากๆ ที่นี้มาน้องหวาย ลูกคนที่ 2 ตอนนี้อายุ 10 เดือน วันนี้พอดี ตอนที่เราท้อง อายุ 35 พอดี ทาง รพ. ก็จะมีการให้เซ็นต์ชื่อเรื่องการตรวจ โครโมโซม เรื่อง ปัญญาอ่อน ซึ่งจะเกิดขึ้นกับเด็กที่แม่ท้องตอนอายุ 35ปี ขึ้นไป จะตรวจตอนเราท้อง 4เดือน โดยการเจาะน้ำคร่ำ อันนี้ก็สุดเครียดเลยแหละ คิดดูสิ หมอบอกว่าตรวจเพื่อรู้ว่าเป็น หรือ ไม่เป็นเท่านี้น ไม่มีหนทางรักษา ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของพ่อแม่ ว่าจะเอาไว้หรือไม่ แล้วเราจะทำได้อย่างไร ในเมื่อเราตั้งใจที่จะให้เขาเกิดมาแล้วตรวจเจอว่าเป็น ........เราก็เลยเลือกที่จะไม่ตรวจ ก็เลยคิดเองว่า เกิดมาไม่ได้ทำเวร กรรมอะไรกับใคร มากมาย เราก็ไม่น่าจะโชคร้ายนะ เอาวะ วัดดวงกัน จนมาถึง 5 เดือนลูกดิ้นบ่อยมาก และก็ดิ้นแรงๆ ก็เลยคิดเอาเองว่าลูกคงแข็งแรง ไม่เป็นอะไรแน่ๆ แล้ววันที่รอคอยก็มาถึง 21 ก.ย. หมอนัดผ่าตัด น้องหวาย นน. 3,500 กรัม ก็ตัวใหญ่อีกเช่นกัน เราเริ่มปฏิบัติการให้นมเลยตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน ก็เป็นการดูดกระตุ้นอีกนั้นแหละ ไม่เห็นน้ำนมจะออกสักนิดเลย แต่เต้านมใหญ่มาก ตึงแล้วก็เจ็บ เหมือนจะแตกเลย พอกลับมาบ้านก็มีคุณแม่มือเก่าลูก 1 มาช่วยปั้มนม ที่แรกก็ออกมานิดเดียวเป็นนมน้ำเหลืองข้นมากๆ หลังจากนั้น ก็ให้น้องหวายดูดเรื่อยๆ จนกระทั่งเรามีความรู้สึกว่าลูกได้กินนมแม่แล้ว ไชโย!!!!! ระหว่าง 3 เดือนที่ลาคลอด เราก็จะให้นมลูก พอลูกหลับนมคัด ก็จะปั้มใส่ตู้เย็นไว้ เพราะว่ารู้มาถ้าตู้เย็นเป็นแบบช่องแข็งแยกกันเนี่ย นมจะอยู่ได้ถึง 3 เดือนเลย ก็จะให้นมสลับกันระหว่างดูดจากเต้าและละลายนมแม่ใส่ขวด เพื่อให้เขาเคยชินตอนที่เราไปทำงาน ลูกจะได้ดูดนมจากขวดได้ น้องหวายแข็งแรงมาก อารมณ์ดี แต่ว่าตอนเย็นนะ ร้องไม่เอาประเทศเลย ประมาณวันละชั่วโมงครึ่ง โบราณเขาเรียกว่าอ้อน3 เดือน แต่ทางหมอเรียกว่าโรคโคลิค แต่ว่าโรคนี้เอามาทำหนังเสียน่ากลัว ไม่น่าดูเลย เราลาคลอดประมาณ 2 เดือนครึ่ง ก็กลับมาทำงาน แล้วก็มาปั๊มนมที่ทำงาน เพื่อนๆ ตื่นเต้นกันมากเพราะไม่เคยเห็น แรกๆ ก็ปั๊มวันละ 3 เวลาเลย แต่ว่าหลังๆเริ่มลดลง เพราะว่าเราใช้ที่ปั๊มแบบใช้มือบีบของ ***** ใช้เวลาปั๊มครั้งละประมาณ 20นาที ได้ 4-5 ออนซ์ หลังๆ งานเราเยอะมากแล้วก็กรงใจเจ้านายที่ต้องเข้าไปปั๊มในห้องน้ำบ่อยๆ ก็เลยปั๊มมันที่โต๊ะทำงานซะเลย ก็เหลือวันละ 2 ครั้งบ้าง 1 ครั้งบ้าง แต่ตอนกลางคืน ลูกก็ดูดนมแม่อย่างเดียว
พอเริ่มจ้างเลี้ยง นมแม่ก็เริ่มไม่พอ ก็เลยให้กินนมผสมด้วย ก็เกิดเรื่องอีกนั่นแหละ น้องหวายเกิดอาการแพ้นมวัว ลักษณะคือ มีผื่นขึ้นทั้งตัวคล้ายๆลมพิษ แต่ว่าเป็นปื้นหนาๆ เราไม่เคยเจอเลย มีแต่คนเลี้ยง แล้วก็น้องสาว เรามาเจอลูกผื่นก็หายไปแล้ว น่ากลัวนะ เพราะเราไม่รู้ว่าการแพ้นี้ภายในเขามีอาการอะไรหรือเปล่า ก็เลยปรึกษาหมอ หมอให้คำแนะนำว่าให้กินนมถั่วเหลือง โดยบอกชื่อยี่ห้อมา ตอนนี้น้องหวายก็กินนมแม่ สลับกับ นมถั่วเหลือง ยี่ห้อ ***** เคยอ่านหนังสือว่าในต่างประเทศถือว่านมแม่ เป็นนมเศรษฐกิจ คือ ลดภาระค่าใช้จ่ายเรื่องนมผสมและก็ลดการนำเข้านมจากต่างประเทศด้วยนะ |