
ฝันของแม่
เพราะพยาบาลน่าจะมีความรู้เรื่องนมแม่มากกว่าเรา พอเขาพามาก็ให้มาดูดจุ๊บๆกระตุ้นนิดหน่อยก็พาลูกกลับไปที่ห้องเด็กอ่อนเพื่อไปป้อนนมผสมต่อ วันที่ออกจากโรงพยาบาลก็ได้นมกลับบ้าน 1 กระป๋องตามสูตร อยู่ที่บ้านเราก็เก้ๆกังๆให้นมแม่ที่บ้านพร้อมให้นมผสม รู้แต่ว่าถนัดอุ้มลูกให้นมแม่อยู่ข้างเดียว พอเปลี่ยนไปให้นมแม่อีกข้างลูกก็ร้อง ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลย คืนแรกที่กลับบ้านลูกร้องเป็นชั่วโมงไม่หยุด ก็คิดไปว่าคงให้นมลูกมากเกินไปจนลูกปวดท้อง รีบพาลูกกลับไปโรงพยาบาลตอนเที่ยงคืน พยาบาลบอกว่าลูกกินไม่อิ่มควรให้นมผสมเพิ่มและให้นมขวดไป 4 ออนซ์ลูกจึงหยุดร้อง ตอนนั้นเดีใจมากที่ลูกดูดนมผสมได้มากไม่คิดว่าจะเป็นตัวเร่งให้ลูกปฏิเสธนมแม่ ช่วงเดือนแรกพยายามให้ลูกดูดจากเต้าพอลูกร้องก็ให้นมผสมเพิ่มทุกครั้ง ตอนนั้นปั๊มนมใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมงได้นมมาแค่ 1-2 ออนซ์คิดว่าเราคงเป็นคนที่น้ำนมน้อยเพราะลูกดูดจากขวดได้ครั้งละ 4 ออนซ์ คิดผิดๆไปเองว่าเราเอาเวลาตั้ง 2 ชั่วโมงที่จะปั๊มนมมาป้อนนมผสมลูกและเล่นกับลูกดีกว่า ไปๆมาๆลูกเลยรักนมขวดมากกว่านมแม่ซะอีก ในที่สุดก็ให้นมแม่ได้แค่ 1.5 เดือน ผ่านไป 5 ปีกว่าๆ พอท้องน้องคีย์ลูกคนที่สองตั้งใจว่าจะให้นมแม่ (มากกว่าลูกคนแรกหน่อย แต่ก็ยังไม่มีความรู้เรื่องนมแม่อยู่ดี) ก็เลยแจ้งคุณหมอสูติไปว่าต้องการให้ลูกคนนี้ดื่มนมแม่ให้นานกว่าลูกคนแรก เพราะลูกคนแรกให้นมแม่ไปได้แค่ 1.5 เดือน คุณหมอน่ารักมากและเห็นด้วยที่เราตั้งใจให้นมแม่ บอกว่าหมอจะให้ยากระตุ้นการสร้างน้ำนมด้วยจะได้มีน้ำนมให้ลูกทาน พอถึงวันผ่าคลอด เรารู้สึกได้เลยว่าพยาบาลที่โรงพยาบาลเอกชนเดิมนี่เปลี๊ยนไป๋ ใส่ใจเรื่องการให้นมแม่มากขึ้น(อีกนิดหน่อย) พอเขารู้ว่าเราตั้งใจจะให้นมแม่ เขาก็งดให้นมผสมน้องคีย์ (ถ้าไม่แจ้งไว้ก่อนว่าจะให้นมแม่คงเป็นเหมือนน้องคิดลูกคนแรกคือได้นมผสมด้วย)และพาน้องคีย์มาดูดกระตุ้นบ่อยๆจนเต้านมเริ่มคัด แต่น้องคีย์ดูดไปก็ร้องไป น้ำนมก็ยังไม่เยอะ พยาบาลมาบีบๆดูแล้วบอกนมไม่เยอะจริงค่ะ เราฟังแล้วใจแป้วเลย แหมไม่มีให้กำลังใจกันเลยนะ ทุกคืนพยาบาลก็จะพาน้องคีย์กลับไปนอนห้องเด็กอ่อน คืนสุดท้ายก่อนออกจากโรงพยาบาลเราให้เอาน้องคีย์มานอนกับเราทั้งคืนเพื่อจะฝึกอุ้มและจะได้ให้นมแม่ได้ตามต้องการ เพราะรู้ว่าเวลากลับบ้านเราต้องทำเองทั้งหมดไม่มีใครมาช่วย ไม่อยากให้เป็นเหมือนน้องคิดลูกคนแรก วันที่จะออกจากโรงพยาบาลคุณพยาบาลก็พาน้องคีย์ไปอาบน้ำแต่งตัวที่ห้องเด็กอ่อน เราตามไปดูเห็นเขาเอานมผสมให้น้องคีย์ดูดบอกว่าให้กินซะหน่อยจะได้อยู่ท้องและไม่ร้องกวนเราจนถึงบ้าน เราได้ยินแล้วก็อึ้งไปเหมือนกัน กลับบ้านได้ 2 วันเต้านมคัดมากแต่น้องคีย์ดูดไปก็ร้องไปจนแม่อยากจะร้องไห้ด้วย ตี 2 โทรกลับไปปรึกษาโรงพยาบาลที่เราไปคลอดมาเพราะมีเบอร์ให้โทรถามได้ตลอด 24 ชั่วโมง เขาบอกว่าต้องขยันปั๊มนมโดยใช้เครื่องปั๊มนมแต่ก็ไม่ได้ให้ความรู้อะไรมากไปกว่านี้ รุ่งเช้าเราให้สามีรีบไปซื้อเครื่องปั๊มนมมาก็ปั๊มออกมาได้ไม่เยอะ น้องคีย์ได้นมแม่ไปประมาณ 1 อาทิตย์เราก็มีความจำเป็นออกไปทำธุระนอกบ้านก็เลยต้องฝึกให้ลูกกินนมผสมจากขวดเพราะตอนนั้นไม่มีความรู้เรื่องสต็อคนมแม่เลย แค่ฝึกได้ 2-3 วันหลังจากนั้นน้องคีย์ก็เริ่มติดขวดนม ตอนนั้นทั้งเหนื่อยและท้อ ทั้งเจ็บหัวนมมากจนคิดว่าให้นมแม่ต่อไปไม่ไหวแล้ว และคิดว่าคงต้องกลับสู่วงจรเดิมคือให้นมแม่ไม่สำเร็จอีก ต่อมาคิดได้ว่าลองหาข้อมูลเรื่องนมแม่ในอินเตอร์เน็ตดีกว่า ตอนนั้นถึงได้รู้ว่าความรู้เรื่องนมแม่หาได้ง่ายในอินเตอร์เน็ตนี่เอง เวบไซต์ที่เจอเวบแรกก็คือ Breastfeedingthai.com นี่ละ พออ่านข้อมูลในเวบแล้วเจอประโยคทองที่ว่า ‘นมแม่แค่ติดปลายช้อนก็มีประโยชน์มากมายแก่ลูก’ ได้รู้ข้อมูลว่านมผสมไม่ดีต่อทารก แถมได้ฟังเพลงอิ่มอุ่นจากหน้าเวบหลัก กระตุ้นเราให้ฮึกเหิม ลืมความเจ็บปวด(ไปบ้าง) ตั้งใจจะกลับมาให้ลูกกินนมแม่อย่างเดียวให้ได้ แต่ความที่เราเจ็บหัวนมมากนึกอยู่ตลอดเวลาว่าจะทนเจ็บไปได้สักเท่าไหร่นะ ต้องเข้าเวบฟังเพลงอิ่มอุ่นเพื่อสร้างกำลังใจให้ลืมความเจ็บปวด ทุกวันวันละหลายๆครั้ง
ถึงจะปรับท่าให้นมได้ แต่เวลาน้องคีย์ดูดนมแม่เสร็จก็ยังร้อง จะวางก็ไม่ได้เราก็นึกว่าน้ำนมเราคงน้อยแน่ๆ เราได้กำลังใจอย่างมากจากคุณเก๋ webmother ของ www.breastfeedingthai.com และลองทำWorkshop เพิ่มน้ำนม 3-4 วันแรกก็ยังไม่ค่อยเห็นผลแต่พอผ่านไปประมาณ 1 อาทิตย์จากที่เคยปั๊มได้แค่ติดก้นขวด ค่อยๆเพิ่มเป็น 1..2...3...4...5 ซี.ซี. และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดเราก็มีสต็อคนมให้ลูกและสามารถมาให้นมแม่อย่างเดียวได้สำเร็จโดยไม่ใช้นมผสมช่วยตอนน้องคีย์อายุได้ 1.5 เดือน ถึงจะเหนื่อยและเจ็บแต่ก็มีความสุข จากที่ตั้งเป้าเล็กๆว่าขอให้ได้น้องคีย์ได้รับนมแม่มากกว่าพี่คิดคือเกิน 1.5 เดือน ก็เพิ่มเป็น 2 เดือนผ่านไป 2 เดือนก็คิดว่าขอให้ได้สัก 3 เดือน....6 เดือน ค่อยๆตั้งเป้าไปเรื่อยๆจะได้ไม่ท้อ ตอนนี้ฝันของแม่เป็นจริงแล้ว วันนี้น้องคีย์อายุ 1 ขวบ ก็ยังทานนมแม่อยู่ น้องคีย์เป็นเด็กสุขภาพแข็งแรงมากถ้าเทียบกับพี่คิดในวัยเดียวกันที่ต้องเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยเพราะเดี๋ยวเป็นหวัด เดี๋ยวเป็นไข้ เดี๋ยวท้องเสีย แถมยังเป็นภูมิแพ้อีก ภูมิใจมากค่ะที่สามารถให้นมแม่ได้สำเร็จในที่สุด และเห็นด้วยกับประโยคที่ว่า”การให้นมแม่ถึงจะเป็นงานที่หนักแต่ก็เป็นการลงทุนระยะสั้นที่คุ้มค่าที่สุดเพื่อสุขภาพที่ดีของลูกไปตลอดชีวิต”
|