
การรับมือกับความเปลี่ยนแปลงจากลูกโทนไปสู่การเป็นพี่คนโต สถานการณ์ ฉันกำลังจะมีลูกคนที่สอง แต่กังวลอยู่ว่าลูกวัยสองขวบของฉันจะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อย่างไร เขายังคงทานนมแม่อยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะในตอนกลางคืน ตัวฉันเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะรับมือกับเรื่องนี้ยังไงเหมือนกัน ไม่ทราบว่าคุณแม่ท่านอื่นๆ เตรียมความพร้อมให้กับลูกคนโตอย่างไรก่อนที่จะคลอดลูกคนที่สอง และหลังจากที่คลอดน้องแล้ว ฉันจะทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยให้ลูกคนโตรู้สึกว่าตนเองยังคงได้รับความรักและเป็นที่ต้องการ ความคิดเห็น ฉันเป็นห่วงว่าลูกชายวัยสองขวบครึ่งของฉันจะรับมือกับการมีน้องสาวได้อย่างไร ดังนั้นฉันจึงได้ทำสามสิ่งที่ช่วยให้เราสามารถจัดการกับสถานการณ์นี้ได้ดีขึ้นฉันได้ซื้อหนังสือ On Mother's Lap จากแคตตาล็อก LLLI หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาที่อบอุ่นกินใจมากโดยเน้นย้ำว่าตักของแม่มีที่ว่างเสมอ เราอ่านหนังสือเล่มนี้เป็นประจำตั้งแต่ก่อนคลอดจนถึงหลังคลอดลูกสาวคนเล็กแล้ว เราเรียกน้องที่เพิ่งคลอดว่า "น้องน้อยของเรา" เสมอ แทนที่จะเรียกว่า "ลูกน้อยของแม่" หรือ "เด็กน้อย" เด็กๆ วัยเตาะแตะชอบที่จะเป็นเจ้าของสิ่งต่างๆ และลูกชายของฉันก็ต้องการที่จะดูแลทารกน้อยเนื่องจากเธอก็เป็นของเขาเช่นกัน เราพยายามที่จะไม่เผลอ "ตำหนิ" น้องคนเล็กเมื่อลูกคนโตไม่สามารถได้ในสิ่งที่ต้องการในทันที ตัวอย่างเช่น "ตอนนี้แม่ยังเล่นกับหนูไม่ได้ เพราะน้องเล็กของเรากำลังหม่ำอยู่" หากเราพูดแบบนั้น ลูกชายของเราก็คงตำหนิน้องคนเล็กเช่นกัน ฉันจึงบอกว่า "ตอนนี้แม่กำลังยุ่งอยู่นะจ๊ะ ขอเวลาแป๊บนึง แล้วเดี๋ยวแม่จะเล่นกับลูกนะ" ฉันคิดว่าทั้งหมดนี้ช่วยสร้างเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างลูกๆ ในขณะนี้ ซึ่งเวลาก็ผ่านมาได้ 19 เดือนแล้ว ซินดี้ เพย์น ความคิดเห็น ขอแสดงความยินดีที่คุณกำลังจะมีลูกคนที่สอง! มีหลายอย่างที่ฉันดีใจที่เราได้ทำเพื่อช่วยให้ลูกสาวคนโตปรับตัวกับการมีน้องสาว แคทรินอายุ 21 เดือนเมื่อตอนที่ฟรานเซสก้าเกิด อย่างแรก แม้ว่าฉันจะยังไม่อยากหยุดให้นมแม่ในระหว่างตั้งครรภ์ แต่ฉันก็ตระหนักดีว่าต้องลดมื้อนมลง ดังนั้น ฉันจึงเริ่มใช้วิธี "ไม่เสนอ ไม่ปฏิเสธ" เพื่อลดการทานนมแม่ ซึ่งทำให้ฉันเริ่มสังเกตเห็นว่าตัวเองให้นมลูกบ่อยแค่ไหน ทั้งสามีและฉันพยายามฝึกให้ลูกหย่านมมื้อกลางคืนในช่วงครึ่งหลังของการตั้งครรภ์ อย่างที่สอง ฉันอ่าน NEW BEGINNINGS และ THE WOMANLY ART OF BREASTFEEDING ร่วมกับแคทริน และชี้ให้เธอดูภาพแม่กำลังให้นมลูก แล้วบอกเธอว่า "ลูกดูสิจ๊ะ เด็กทารกน่ะจำเป็นต้องทานนมแม่นะ" ฉันมีเพื่อนที่ลูกสาวของเธอรู้สึกโกรธทุกครั้งที่น้องของเธอทานนมแม่ ดังนั้นฉันจึงพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสถานการณ์แบบนั้น อย่างที่สาม ฉันตระหนักดีว่าครั้งแรกที่ฉันได้พบแคทรินหลังคลอด เธอมารอพบฉัน ไม่ใช่รอพบน้องที่เพิ่งคลอด สามีฉันต้องเคาะประตูเพื่อให้แน่ใจว่าฉันไม่ได้กำลังอุ้มหรือให้นมฟรานเซสก้าอยู่ แล้วแคทรินก็เข้ามาหาฉันที่เตียง เรากอดกันและฉันก็ให้นมเธอ แล้วจู่ๆ แคทรินก็ชี้ไปที่น้องสาวของเธอที่กำลังหลับอยู่ในที่นอนเด็กข้างๆ ฉัน แล้วเธอก็พูดขึ้นว่า "แม่ดูนั่นสิคะ นั่นน้องนี่!" ฉันถามเธอว่าเธออยากอุ้มน้องหรือเปล่า แน่นอน เธอตอบตกลง อย่างที่สี่ ก็คือการให้นมลูกทั้งสองคนพร้อมกัน ซึ่งตอนแรกฉันก็ยังไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นยังไง แต่หลังจากที่ได้ลองทำดูแล้ว ฉันก็พบว่านี่คือสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ฉันได้ให้กับลูกทั้งสอง ฉันเชื่อว่านี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ลูกๆ มีความผูกพันกันอย่างแนบแน่น แม้ว่าฉันจะให้นมลูกทั้งสองควบคู่กันแค่ประมาณหกเดือนเท่านั้นก็ตาม การทำแบบนี้ช่วยให้ฉันได้พักในระหว่างที่พวกเขาทานนมและหลับไปพร้อมกัน การได้เห็นลูกน้อยทั้งสองทานนมแม่คนละข้างและสบตากัน นับเป็นสิ่งที่ไม่อาจประเมินค่าได้จริงๆ เป็นเรื่องยากสำหรับฉันที่จะปรับตัวกับการมีลูกสองคน ฉันรู้สึกผิดเพราะไม่สามารถให้เวลาและดูแลแคทรินได้อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันก็รู้สึกผิดที่ไม่สามารถดูแลฟรานเซสก้าได้ตลอดเวลาแบบที่เคยให้กับแคทรินเมื่อแรกเกิด จงปล่อยให้ตัวคุณรับรู้ความรู้สึกต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไป ยอมรับเถอะว่าคุณไม่จำเป็นจะต้องเป็นซูเปอร์วูแมนเพื่อที่จะเป็นแม่ที่ยอดเยี่ยม จงขอความช่วยเหลือและยอมรับความช่วยเหลือเมื่อมีโอกาส ชารอน การ์เซีย แปลจาก From Only Child to Older Sibling ซึ่งตีพิมพ์ใน NEW BEGINNINGS, Vol. 23 No. 1, Jan-Feb '06, pp. 36-39 โดย แม่หยู
|