
กับดักคุณแม่ทุนนิยมสมัยใหม่ ถ้าคุณเป็นแม่คนก็ควรอ่าน ถ้าคุณเป็นว่าที่แม่คนก็ควรอ่าน ถึงคุณไม่มีแววเป็นแม่คนแต่คุณเป็นลูกใครซักคนก็ยิ่งต้องอ่าน (อยู่ดี) เคยสงสัยมั้ยคะว่าทำมั๊ย ทำมัย คุณแม่ยุค Digital ถึงได้มีปัญหาวุ่นวายกับเรื่องเลี้ยงลูกกัน นักหนา กะแค่จะให้ลูกดูดนมแม่เนี่ยทำไม มันรู้สึกเป็นเรื่องยุ่งยากเกินกว่าจะทำได้ ใครให้นมลูกได้เกิน 6 เดือน ถึงกับควรจะได้โล่ แม่ดีเด่นกันทีเดียว มันเป็นกับดัก หรือใครจะสรุปว่าเป็นหลุมพรางก็ตามสะดวก จะเรียกมันว่า กับดักคุณแม่ทุนนิยมสมัยใหม่ ก็แล้วกันค่ะ โอโหย เข้าสมัยเปี๊ยบเลย เริ่มจากจะแต่งงาน ก็ไม่อยากผูกมัด อยากเป็นตัวของตัวเอง อยากประสบความสำเร็จ(ทางการเงิน) เป็น working woman ไม่ได้บอกว่ามันผิด เพียงแต่รู้สึกงงงง นิดนิด เวลาอ่านหรือฟังสัมภาษณ์ ทางโทรทัศน์ นิตยสาร ของคู่แต่งงานคนดัง ที่ถามเรื่องลูกทีไรก็บอกรอสร้างฐานะ รอให้พร้อมเพรียบเปอร์เพคซะก่อน พออายุมากเข้าจะมีลูกยาก อยากจะเลือกเพศให้ลูก บางคนก็อยากได้ฝาแฝดชายหญิง เพราะจะได้ตั้งครรภ์ครั้งเดียว ถ้าเลือกกำจัดยีนด้อยได้ก็คงรีบทำ ยังไม่นับกลัวลูกจะพิการ หรือเป็นโรคอะไรซักอย่าง ที่มักจะมีชื่อเป็นภาษาอังกฤษแปลกๆ ฟังแล้วจะเป็นทุกข์ นึกไปถึงรายการวงเวียนชีวิตขึ้มาตะหงิดๆ ทุกๆคนก็อยากได้ลูกที่เปอร์เพค ครั้นตั้งครรภ์ก็บำรุงกันสุดชีวิต เนื้อ นม ไข่ ยาบำรุงทั้งแผนปัจจุบัน แผนโบราณ บริษัทนมผงก็ขยายการตลาดจากขายให้คุณลูก ก็เริ่มมาขายให้คุณแม่ซะก่อน แล้วขอโทษรสชาต... น่าจะใช้คำว่าสุนัขไม่รับประทานน่าจะได้ แต่เพื่อลูกน้อย กลัวลูกมี EQ IQ น้อยกว่าชาวบ้านเขา พอกินไอ้เจ้านมผสมนี่เข้าไปพลอยคิดว่าลูกได้ แคลเซี่ยม วิตามิน ABC…Z ไปครบหมดแล้ว อ้าวก็ข้างกระป๋องมันเขียนไว้อย่างนั้นนี่นา เลยละเลยขี้เกียจทานผักผลไม้แล้วล่ะ ก็แหม กว่าจะกระเดือกนมผสมนั่นลงไปหมดก็อืดจะแย่อยู่แล้ว ไปนอนดีกว่า หลับสบายโดยไม่รู้ว่าที่รับประทานนมวัวหรือนมผสมที่สกัดจากนมวัวเข้าไปมากๆ นั้นเท่ากับลูกจะได้รับสารกระตุ้นก่อภูมิแพ้โดยไม่จำเป็น ทีนี้พอบำรุงมากๆเข้าหนูน้อยก็ตัวโตเกินไม่สามารถคลอดแบบธรรมชาติได้ ซึ่งพอต้องผ่าคลอด คุณแม่ต้องใช้ความพยายามมากขึ้นเป็นสองเท่าในการจะให้นมแม่ได้สำเร็จ พอคลอดก็ต้องเข้าโรงพยาบาลที่ดีที่สุด คำว่าดีที่สุดที่ว่าก็มักจะไม่ได้หมายถึง การสนับสนุนการให้คลอดธรรมชาติ การให้นมแม่ ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่ไม่ใช่ กลับเป็นโรงพยาบาลที่แพงที่สุด ห้องพักกว้างขวาง อยู่ใจกลางเมือง ไม่ให้น้อยหน้าเพื่อนหรือญาติพี่น้อง บางคนถึงกับนัดวันผ่าล่วงหน้ากับหมอเพื่อประกันความเสี่ยง จริงๆแล้วน่าจะกลัวการเจ็บท้องคลอดมากกว่า พาลนึกไปถึงการจับเชือกที่โยงมาจากขื่อคานนอนร้องบิดตัวเร่าๆ โดยมิได้รู้เลยว่าแม่กลัวลูกในท้องก็จะรับรู้ว่าแม่กลัว อาจจะพลอยกลัวไปด้วย เลยไม่ยอมกลับหัวซะเลย (อันนี้เดาเอาเองมิได้อ้างอิงข้อมูลทางการแพทย์ใดๆ) เมื่อลูกน้อยออกจากท้องแม่มาแล้ว เจอทักทายกัน แล้วก็ต้องแยกย้ายกัน ลูกไปเข้าตู้อบปรับอุณหภูมิ ทั้งๆที่การให้แม่อุ้มอกแนบอก ผิวหนังสัมผัสกันก็เป็นการปรับอุณหภูมิตามธรรมชาติเหมือนกัน แถมยัง ได้ดูดเต้านมเปล่าๆให้อบอุ่นทางใจ เป็นการเตือนร่างกายของแม่ว่าหนูเกิดมาแล้วนะ ผลิตนมได้แล้ว ระหว่างลูกไปนอนในตู้อบคนเดียวใต้ไฟฟลูออเรสเซนที่สว่างยังกับร้านสะดวกซื้อ เพราะเปิด 24 ชม. ทั้งยังสว่างกว่าในท้องแม่เป็นร้อยเป็นพันเท่า แม่ก็ต้องเย็บแผล อยู่เป็นชั่วโมง บางทีคืนแรกไม่ได้เจอหน้าลูกเลยก็มี พอคุณพยาบาลเข้ามาสอนการให้นมแม่ก็อธิบายเพิ่มเติมด้วยว่า ตอนนี้นมแม่ยังไม่มาเต็มที่ คุณลูกจะทานไม่อิ่มทำให้ลูกร้อง หลังจากลูกดูดแล้วก็ให้ตามด้วยนมผสมเลยนะคะ ยิ่งน้องตัวใหญ่อย่างนี้เค้าทานเยอะนะคะ นมแม่ไม่พอให้น้องทานแน่นอนค่ะ แล้วทานนมแม่เนี่ยน้องหิวบ่อยต้องทานทุก 1-2 ชม. แต่นมผสมจะอยู่ท้องกว่า ทานทุก 3-4 ชม.ได้ คุณแม่จะได้พักผ่อน เอาละสิคุณแม่มือใหม่ก็ประสาทเสียกลัวลูกจะตาย จะหิว เห็นดูดกันเก้ๆกังๆ ทั้งแม่ทั้งลูก มารู้ตอนหลังว่ากระเพาะเด็กนั้นเล็กนิดเดียว กินยังไม่เยอะหรอก แถมยังมีตุนออกมาจากในท้องแม่ ก็ดูเด็กที่แม่ใจยักษ์เอาไปทิ้งบางคนอยู่เป็นวันๆก็ยังไม่ตาย แล้วที่หนูร้อง บางทีหนูก็กลัวเป็นเหมือนกันนะ ก็หนูเพิ่งออกมาสู่โลกใหม่ ต้องแยกออกมาจากแม่ หายใจในอากาศ ไม่ลอยไปลอยมาเหมือนเดิม หนูก็อยากให้แม่อุ้มปลอบหนูให้หนูอุ่นใจ และวางใจในโลกใบใหม่เหมือนกันนะ ไม่ใช่ว่าหนูจะร้องเพราะหิวอย่างเดียว ทีนี้พอออกจากโรงพยาบาล นมแม่ก็ยังไม่มาหรือมาน้อย ไม่ไหลกันเห็นๆเหมือนเวลาไปดูเค้าปั๊มนมวัว จะได้วัดปริมาณเป็นขีดเป็นออนซ์ ได้ ลูกก็ร้องตลอด พ่อแม่ญาติพี่น้องก็แนะนำแกมบังคับให้เอาขวดนมยัดปาก ลูกหิวจะแย่แล้วไม่เห็นหรือ นมเล็กอย่างนี้ไม่พอหรอก (นั่นแหนะ มาว่าสรีระเราอีก) จุดนี้แหละเป็นจุดวัดใจ ถ้าผ่านไปได้โดยคุณแม่มีความตั้งมั่นไม่หลงมัวเมาไปกับอวิชชาการตลาดที่นมผสมกรอกหู กรอกข้อมูลมาตลอดเวลาว่า “ใช้แทนได้น่า” “มันก็เหมือนๆกันนั่นแหละ แถมเสริม EQ IQ ด้วยนะ” คุณแม่ก็จะพบว่าทนแค่วัน สองวันนมก็มา หลังจาก คุณแม่กับนักดูดมือใหม่เริ่มเป็นแล้ว ปริมาณนมก็จะเยอะขึ้นๆ ทุกวันจนมากสุดที่เดือนที่ 2-3 ที่ต้องปั๊มออก เก็บทำสต๊อกน้ำนมกันเป็นล่ำเป็นสัน ทราบมาว่าแม่บางคนแทบจะทำเป็นอุตสาหกรรมส่งออกเลยทีเดียว ลาคลอดได้แป๊บๆก็ต้องกลับไปทำงานแล้ว ลูกติดนมแม่มากเลยไม่ยอมดูดจากขวด ทำไงดี ก. เลิกนมแม่เลยดีกว่า จะได้ยอมดูดขวด ข. หัดกินนมแม่โดยใช้แก้ว หรือช้อน (ไม่ได้หรอกเด็กตัวแค่นี้ ใครๆเค้าต้องดูดขวดเท่านั้นไม่หกเลอะเทอะด้วย) ค. เอาไว้หัดตอนแม่ไปทำงานแล้วกัน เค้าหิวก็ยอมกินเองแหละ น่าแปลกใจว่าคุณแม่หลายท่าน เลือกทำข้อ 1 ทั้งๆที่กว่าจะให้นมแม่มาได้ขนาดนี้ฝ่าด่านอรหันต์มาได้ แต่กลับมาตายน้ำตื้น ลองวิเคราะห์ดู ก็พอจะสรุปได้ว่า มันเหมือนสังคมไทยโดยเฉพาะพนักงานบริษัท ได้รับอนุญาตให้เล่นบทแม่ลูกผูกพันได้เฉพาะช่วงลาคลอดเท่านั้น พอกลับไปทำงานแล้วก็ต้องทำงานกันเต็มที่ เจ้านายไม่เข้าใจว่าทำไมต้องปั๊มนม เสียเวลาทำงาน ครั้นคุณแม่จะหางานใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ จะอยู่บ้านเลี้ยงลูกก็จะขาดรายได้อีก เอาไงดี หนูกินนมกระป๋องก็แล้วกัน ถ้าหนูพูดได้คงบอกแม่ว่า แม่จ๋าแม่ให้หนูกินอะไรน่ะ ไม่อร่อยเลยแถมไม่ค่อยสบายท้องอีกต่างหาก อย่างงแล้วกันถ้าพาลูกไปเที่ยวฟาร์มโคนมแล้วลูกเรียกแม่วัวว่า แม่ แม่ อยากจะบอกว่า อยากให้กำลังใจคุณแม่ที่ต้องทำงานนอกบ้านทุกคน อยากให้ลองพยายามดูก่อน ทราบว่ามันยุ่งยากนิดหน่อย แต่มันพอจะจัดการได้ แทนที่จะคิดว่างานเยอะไม่รู้จะไปปั๊มนมตอนไหน ให้คิดใหม่ว่าฉันจะไปปั๊มนมวันละ 3 ครั้ง เวลาเช้า พักเที่ยง บ่าย จะทำงานให้เสร็จทันได้ยังไง ลองตัดเวลาเช็คอีเมล์ ท่องโลกอินเตอร์เนต เมาท์เจ้านาย เมาท์ดารา เมาท์เพื่อนร่วมงาน และอื่นๆที่คุณคิดว่าไม่สำคัญออก คุณจะพบว่ามันมีทางที่จะทำได้ ระลึกไว้เสมอว่าแม้นมแม่ดูเป็นของที่ได้มาฟรีๆ จากธรรมชาติ แต่มันคือสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมากๆกับลูกของเรา เป็นทั้งอาหาร ยา และความเอื้ออาทรด้วยความรัก ความอบอุ่นจากแม่สู่ลูก และจากลูกสู่แม่ เป็นกำลังใจให้คุณแม่ทุกคนค่ะ ว่าควรให้ความสำคัญกับคุณค่าแท้ อย่าตกหลุม กับดักคุณแม่ทุนนิยมสมัยใหม่ ที่เต็มไปด้วยโฆษณาชวนเชื่อ อย่าละเลยจนปล่อยโอกาสสำคัญให้ผ่านเลยไป เพราะมันมีช่วงเวลานี้เพียงครั้งเดียวในชีวิตค่ะ ใครอ่านบทความนี้แล้วรู้สึกเห็นด้วย และอยากคุยกับแม่ตูน เชิญได้เลยนะคะ |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (177505) | |
ใช่เลยค่ะ มีเยอะ กับดักคุณแม่ทุนนิยมสมัยใหม่ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แม่น้องภูดิน (khanitta_d-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2019-09-26 11:42:23 |
[1] |