IBFAN (International Baby Food Action Network โครงข่ายรณรงค์เกี่ยวกับอาหารทารกนานาชาติ) ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับแผนการตลาดของนมผสมในปี ๒๐๐๗ รายงานซึ่งใช้ชื่อว่า “Breaking the Rules, Stretching the Rules 2007” (ฝ่าฝืนกฎ บิดเบือนกฎ ปี ๒๐๐๗) บันทึกหลักฐานเกี่ยวกับวิธีการต่างๆ ซึ่งบริษัทนมผสมนำมาใช้ในการโหมโฆษณาผลิตภัณฑ์นมผสมอย่างรุนแรงทั่วโลก ซึ่งฝ่าฝืนข้อตกลงนานาชาติว่าด้วยการทำการตลาดของสารทดแทนนมแม่ (International Code of Marketing of Breastmilk Substitutes)
IBFAN จะเผยแพร่รายงานทุกๆ สามปีหลังจากทำการเก็บสถิติและตัวอย่างการทำการตลาดผลิตภัณฑ์อาหารทารกจากทั่วโลก ในรายงานล่าสุดนี้ได้มีการเก็บตัวอย่างมากกว่า ๓,๐๐๐ รายการจาก ๖๗ ประเทศทั่วโลก หนึ่งในผลการสำรวจจากรายงานฉบับนี้พบว่า การตลาดของผลิตภัณฑ์อาหารสังเคราะห์สำหรับทารกมีความเข้มข้นมากขึ้นในบริษัทขนาดใหญ่จำนวนไม่มาก ในช่วงสามปีที่ผ่านมาบริษัทเนสท์เล่ได้ซื้อกิจการของบริษัทไฮนซ์จากบริษัทโนวาร์ทิส เหตุการณ์นี้ทำให้บริษัทเนสท์เล่ถือครองส่วนแบ่งการตลาดของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในทวีปอเมริกาเหนือเกือบทั้งหมด การควบรวมกิจการทำนองเดียวกันนี้เกิดขึ้นในทวีปยุโรปและที่อื่นๆ ทั่วโลกด้วย ซึ่งมีผลให้บริษัทผลิตนมผสมมีขนาดใหญ่ขึ้นและมีอำนาจมากขึ้น
การส่งเสริมการใช้นมผสมสำหรับทารกผ่านระบบประกันสุขภาพยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นการฝ่าผืนข้อตกลงนานาชาติฯอย่างรุนแรง IBFAN พบว่าในบางประเทศแพทย์ได้รับค่าคอมมิสชั่นจากบริษัทนมผสมเพื่อให้ระบุยี่ห้อนมผสมของตัวเองในใบสั่งจ่ายยา และมีสถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งชาติอย่างน้อย ๒ แห่งที่ประกาศรองรับนมผสมบางยี่ห้อ
ในช่วงสามปีที่ผ่านมา ยังพบว่ามีการอ้างสรรพคุณด้านสุขภาพเพิ่มขึ้นอย่างมากมายเพื่อกระตุ้นให้ใช้นมผสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอ้างสรรพคุณเกี่ยวกับการเพิ่มระดับสติปัญญาและความฉลาด โฆษณาทั่วโลกแสดงภาพเด็กทารกแต่งชุดครุยรับปริญญา หรือนั่งเล่นคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปของเล่น เพื่อจะลวงให้พ่อแม่เชื่อว่านมผสมยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งสามารถเพิ่มระดับสติปัญญาของทารกได้ การเติมกรดไขมันซึ่งเชื่อว่าสามารถเพิ่มความฉลาดอย่าง DHA และ ARA และสารธรรมชาติอื่นๆ อย่าง โพรไบโอติกส์ พรีไบโอติกส์ โอเมกา ๓ เป็นความพยายามของบริษัทนมผสมที่จะแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดจากยี่ห้อเดิมๆ
INFACT Canada ซึ่งเป็นผู้ประสานงานของ IBFAN ในทวีปอเมริกาเหนือ มีส่วนร่วมในรายงานฉบับนี้โดยแสดงหลักฐานของการฝ่าผืนข้อตกลงนานาชาติฯในประเทศแคนาดา ผลการสำรวจพบว่าการอ้างสรรพคุณด้านสุขภาพของบริษัทผลิตนมผสมมีความหลอกลวงและจงใจทำให้เกิดความเข้าใจผิดเพราะคำอ้างเหล่านั้นไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ ผลงานวิจัยที่ใช้ในคำอ้างเหล่านี้ไม่ได้รับการรับรองจากสมาคมทางการแพทย์ในวงกว้าง และในหลายๆ กรณีก็เป็นการวิจัยที่บริษัทนมผสมจ้างให้ทำขึ้นมา ซึ่งก่อให้ความน่าสงสัยเกี่ยวกับความเป็นกลางของผู้ทำวิจัย และทั้งๆ ที่ไม่มีหลักฐานที่เป็นที่ยอมรับ การอ้างเหล่านี้ก็ยังทำให้พ่อแม่เข้าใจผิดว่านมผสมสำหรับทารกมีคุณภาพเท่าเทียมกับนมแม่
รายงานของ IBFAN ชี้ให้เห็นว่าบางประเทศมีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเกี่ยวกับฉลากของผลิตภัณฑ์ ในประเทศบราซิล, บังคลาเทศและแทนซาเนีย มีการออกกฎหมายห้ามติดฉลากที่ยกย่องคุณสมบัติของนมผสมโดยการสร้างภาพเปรียบเทียบไปในทางที่ดี ซึ่งการใช้รูปภาพในทำนองนี้ไม่ได้เป็นข้อห้ามในข้อตกลงนานาชาติฯ
เนสท์เล่ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอาหารเด็กที่ใหญ่ที่สุดโลก ก็ยังเป็นบริษัทที่ฝ่าฝืนข้อตกลงนานาชาติฯมากที่สุดและก่อให้เกิดอันตรายมากที่สุด
บางส่วนของรายงานฉบับนี้มีให้อ่านที่เว็บไซต์
http://www.ibfan.org/site2005/Pages/article.php?art_id=510&iui=1.
แปลโดย คุณนิจวรรณ ตั้งวิรุฬห์
ต้องการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้