สวัสดีค่ะ

ลืมกันไปหรือยังคะ หายไปนานจนหลายๆ คนน่าจะหย่านมแม่กันไปแล้ว รวมทั้งคนเขียนด้วยค่ะ ที่จริงแล้วเรื่องที่เขียนค้างอยู่แต่ยังไม่เสร็จก็เป็นเรื่อง workshop เพิ่มน้ำนม the last episode คือคิดว่าจะเขียนเรื่องนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว แต่ว่าอารมณ์มันยังไม่ค่อยได้ อีกทั้งพอลูกคนเล็กเข้าโรงเรียนด้วย กิจกรรมของลูกๆ ก็พลอยทำให้แม่ไม่ค่อยจะมีเวลา เลยเขียนไม่เสร็จเสียที บังเอิญว่ามีเรื่องด่วนเข้ามาขัดจังหวะ คราวนี้อารมณ์ได้เลย ขนาดว่าอุตส่าห์หอบโน้ตบุคมาเที่ยวด้วย เพราะตั้งใจเขียนเรื่องนี้โดยเฉพาะทีเดียว

สองสามเดือนมาแล้วที่ไม่ค่อยเข้ามาดูแลบ้าน อีเมล์ที่ใช้กับเว็บนี้ก็ไม่ค่อยมีเวลาเช็ค อาทิตย์สองอาทิตย์ถึงจะเช็คสักครั้ง เมื่อสองสามวันก่อนเปิดเข้าไปก็ปรากฎว่ามีแขกประจำท่านหนึ่ง>รายงานว่ามีนมผสมยี่ห้อหนึ่งมาตั้งกระทู้ขอลงโฆษณาในเว็บของเรา เลยรีบเข้าไปดู ก็จริงดังว่า ในใจก็นึกสงสัยว่า อ๊ะ..คุณมาจากไหน ทำไมถึงกล้าจัง ในระหว่างที่กำลังคิดว่าจะตอบยังไง ก็เลย disable กระทู้นั้นไปเสียก่อน ก็ปรากฎว่ามีอีเมล์มาอีกอันนึงมาขอลงโฆษณา text link (ลิงค์ที่เป็นข้อความ โดยส่วนใหญ่มักจะเป็น keyword ที่คนต้องการค้นหา) ในเว็บของเราโดยมีเงื่อนไขว่า ขอคำว่า "การตั้งครรภ์และตั้งท้อง" แล้วลิงค์ไปยังเว็บไซต์ของนมผสม d***x ถามค่าใช้จ่ายว่าเราจะคิดเท่าไหร่แล้วขอเบอร์ติดต่อกลับ

ยังไม่ได้ตอบกลับไปเลยค่ะ ตั้งใจว่าจะตอบแบบเปิดผนึกกันตรงนี้เลยน่าจะดีกว่า

เริ่มจากทดลองมาคิดว่าค่าโฆษณาที่ต้องการนั้นควรจะเป็นเท่าไหร่ก่อนดีกว่านะคะ ปัจจุบันนี้มีผู้เข้าชมเว็บของเราเฉลี่ยเดือนละ 16,000 คน เป็น First Time Visitors เสีย 11,000 คน ที่เหลือเป็น Returning Visitors สมมติว่า 11,000 คนนี้ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลี้ยงลูกด้วยนมอะไรดี ถ้าทั้ง 11,000 คนคล้อยตามเนื้อหาทั้งหมดในเว็บนี้แล้วเลี้ยงลูกด้วยนมแม่กันทุกคน อุตสาหกรรมนมผสมจะขาดรายได้ไปเท่าไหร่คะ ทารกคนหนึ่งกินนมผสมกันเดือนละประมาณ 2,000 บาท (ความจริงอาจจะมากกว่า เพราะพ่อแม่ส่วนใหญ่จะเลือกสูตรที่แพงๆ อยู่แล้ว) 11,000 คนก็เท่ากับ 22,000,000 บาท ใช่แล้วค่ะ ยี่สิบสองล้านบาทต่อเดือน ถ้าต่อปีก็เท่ากับ 264,000,000 บาท

สมมติต่อนะคะ สมมติว่า text link ที่เราลงให้ d***x ช่วยพาคนที่ลังเลระหว่างนมแม่หรือนมผสมไปยังเว็บของ d***x แล้วก็บังเอิญคล้อยตามไปว่า d***x ก็ดีไม่แพ้นมแม่เลยนะ แล้วก็หันไปเลี้ยงลูกด้วย d***x กันสักเท่าไหร่ดี ไม่ต้องมากแล้วกัน  20% ก็พอ  text link ในเว็บเราก็จะช่วยเพิ่มยอดขายให้ d***x อีกอย่างน้อย 52,800,000 บาทต่อปี ว้าว! แบบนี้เราควรจะคิดค่าโฆษณาเขาเท่าไหร่ดีนะ

เล่าให้ฟังสำหรับคนที่ไม่เคยคิดถึงตัวเลขพวกนี้มาก่อน ปัจจุบันนี้มีประเทศไทยมีทารกเกิดใหม่ปีละ 900,000 คน ถ้าค่านมผสมเดือนละ 2,000 บาทต่อคน ก็เท่ากับ 1,800,000,000 บาทต่อเดือน หรือ 21,600,000,000 บาทต่อปี สองหมื่นล้านบาทต่อปี ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่พยายามกระตุ้นให้เด็กเหล่านี้จำเป็นต้องกินนมผสมสูตรต่อเนื่องจนอายุสองถึงสามปี มูลค่าของตลาดนมผสมที่แท้จริงก็เท่ากับ 4-6 หมื่นล้านต่อปี  เห็นภาพไหมคะว่าทำไมเขาใจดีแจกนมกระป๋องให้เรากลับบ้านฟรีๆ พร้อมกระเป๋าสวยงามน่ารัก ทุกครั้งที่คลอดลูก มีบูธสมัครสมาชิกเพื่อรับผลิตภัณฑ์ตัวอย่างได้ฟรี พร้อมสิทธิพิเศษต่างๆ อันมากมาย เพราะเขาห่วงใยสุขภาพลูกของเราอย่างที่โฆษณาหรือเปล่าคะ

ถ้าอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เฉลี่ยยาวนานขึ้นหนึ่งเดือน ก็หมายความว่ายอดขายของอุตสาหกรรมนมผสมหายไปหลายพันล้านบาท ยิ่งเลี้ยงลูกด้วยนมแม่กันนานมากเท่าไหร่ ยอดขายก็จะหายไปมากเท่านั้น

กลับมาถึงคำตอบของค่าโฆษณาที่เราควรจะคิดกับ d***x กันดีกว่า มาดูกันว่าเขาจะคิดว่าค่าโฆษณาที่เราจะคิดนั้นแพงไปหรือเปล่า หลังจากที่พยายามกดเครื่องคิดเลขอยู่นานก็สรุปได้ว่า เราน่าจะลง text link ให้ d***x ตามต้องการโดยที่ไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่ขอแลกกันโดยเราขอ text link ของคำว่า d***x ทุกคำในเว็บของ d***x เองให้ลิงค์มายัง บทความนี้ในเว็บเรา แล้วก็คำว่า DHA, ARA, OMEGA 3 ให้ลิงค์มายัง บทความนี้ น่าจะยุติธรรมดี

deal แบบนี้เป็น deal ขำๆ ค่ะ ในเมื่อเขากล้าขอ เราก็จัดให้

ขอสารภาพว่าครั้งแรกที่เห็นกระทู้ถามในเว็บบอร์ดก็รู้สึกหงุดหงิดแล้ว พอเห็นอีเมล์ซ้ำอีกก็รู้สึกไม่พอใจอย่างแรง คิดถึงแต่เรื่อง International Code of Marketing for Breastmilk >Substitutes ขึ้นมาทันที

เราอยากบอกคุณว่าเราไม่ใช่คนเก่ง คนดีที่จะมากู้ชาติหรืออะไร เราไม่สามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นได้หรอก แม้ว่าเราจะอยากให้ทุกคนเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มากขนาดไหน ศักยภาพของเราก็มีจำกัด เรามีลูกอีกสองคนที่ต้องการเวลาจากเรา จนเหลือเวลาน้อยมากที่จะมาทำเว็บนี้ ทุกวันนี้กุมารแพทย์เกินกว่าครึ่งก็ถูกพวกคุณครอบงำจนสั่งนมผสมให้ทุกครั้งที่แม่มีปัญหากับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อยู่แล้ว พยาบาลดูแลเด็กแรกคลอดส่วนใหญ่ก็เป็นพวกของคุณ ชอบป้อนนมผสมให้มากกว่าจะอุ้มเด็กไปดูดนมแม่อยู่แล้ว เราพาลูกไปฉีดวัคซีนทีไร ก็เห็นบูธของพวกคุณมาทำ การตลาด แจกตัวอย่างฟรี ทดสอบไอคิวฟรี สารพัดจะคิดค้นกลยุทธ์ใหม่ๆ โฆษณาทีวี หนังสือแม่และเด็ก หนังสือพิมพ์รายวัน ก็ช่วยกันสะกดจิตกันทุกวันแบบนั้น

 สงครามแบบนี้ เรารบยังไงก็แพ้อยู่แล้ว

แต่พอนึกไปนึกมาก็เลยคิดว่า คุณคนที่ติดต่อมาก็คงพยายามตั้งใจทำงานให้บริษัท   ROI¹ ของลูกค้าของคุณสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด  เพราะฉะนั้นคุณก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยให้ ROI¹ ของ d***x เพิ่มขึ้นให้ได้มากที่สุด ถ้าทำได้สำเร็จคงจะเป็นผลงานที่สร้างความภาคภูมิใจได้ไม่น้อยทีเดียว  เราพยายามจะมองโลกในแง่ดีว่า คุณอาจจะไม่รู้เรื่อง International Code of Marketing for Breastmilk Substitutes  แล้วคุณก็อาจจะยังไม่เคยมีลูก ไม่เคยรู้ว่าเด็กที่แพ้นมผสมนั้นทุกข์ทรมานแค่ไหน ไม่รู้ว่าแม่บางคนที่นมแห้งเพราะให้ลูกกินนมกระป๋องแจกฟรีตั้งแต่แรกนั้น ต้องใช้เงินกว่าครึ่งของเงินเดือนทั้งหมดไปกับนมผสม บางคนไม่มีเงินพอซื้อนมผสม ต้องเอานมข้นหวานละลายน้ำให้ลูกกิน ไม่รู้ว่าประเทศเราสูญเงินไปกับการนำเข้านมผสมปีละกี่หมื่นล้าน แล้วยังค่ารักษาพยาบาลสำหรับเด็กซึ่งต้องป่วยบ่อยๆ เพราะขาดภูมิคุ้มกันจากนมแม่อีก ฯลฯ นึกถึงว่าถ้าเราเป็นหนึ่งในแม่กลุ่มนั้น เราคงอยากถามคุณว่า "เราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า... แล้วคุณมาทำร้ายลูกชั้นทำไม"

ขอพื้นที่เล็กๆ ให้เราอยู่กันอย่างสงบได้ไหม อย่ารุกรานกันมากเกินไปนักเลย ทุกวันนี้เปิดหนังสือพิมพ์อ่านทุกวัน ก็รู้สึกสิ้นหวังมากพอแล้ว คนเราจะเห็นแก่ตัวกันบ้างนิดๆ หน่อยๆ ก็ยังพอรับได้ ถ้ามากเกินไปมันก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน

>webmother@breastfeedingthai.com

ROI¹ = Return On Investment

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้