
เรื่องของแม่น้องจู๊ด
ทันทีที่อ่านเมล์ของคุณจบ ดิฉันก็เริ่มลงมือเขียนมันทันที ในขณะที่ตัวเองกำลังประสบปัญหาเรื่องน้ำนมที่จะให้ลูกอยู่พอดี เลยขอเขียนความในใจระบายออกไปโดยไม่ขัดเกลานะคะ ขอเขียนสดๆ เลยก็แล้วกันเพื่อทางเว็บจะได้ปิดโครงการทันในปีนี้และที่สำคัญคือ.. กลัวว่าถ้าไม่ลงมือตอนนี้อาจจะไม่ได้ทำอีกเลย(เหมือนอย่างหลายๆเรื่องตอนนี้)
และสุดท้ายของการอารัมภบท "อานิสงส์ของการให้ความรู้เป็นทาน จะช่วยทำให้เป็นผู้มีปัญญาดีค่ะ ลูกๆ ก็จะได้ฉลาดเฉลียว ทันคน" ประโยคนี้ จากที่ดิฉันไม่เคยนิยมขอพรจากอะไรก็ตามให้ตัวเองเลย แต่ครั้งนี้ต้องขอแล้วค่ะ ขอให้ดิฉันได้เลี้ยงลูกชายสุดที่รักคนเดียวคนนี้ด้วยนมแม่(ล้วนๆ)ให้ได้สำเร็จภายในอายุตั้งแต่ 1 เดือนของลูกค่ะ สาธุๆๆๆๆ (ตอนนี้น้องจู๊ด-Jude- 3สัปดาห์ค่ะ แทบจะไปกราบไหว้ส่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว
รู้ตัวว่าเป็นคนใจอ่อนและลูกกับดิฉันตกเป็นเหยื่อการตลาดของนมผสม แต่ดิฉันไม่เคยยอมแพ้นะคะ ตอนนี้กำลังจะรีดเลือดตัวเองไปซื้อเครื่องปั๊มนม ตายเป็นตายเจ๊งเป็นเจ๊งค่ะ..อ๊ะ ประโยคนี้คุ้นๆ555) อย่างไรก็ดี ถ้า"ลูกดิฉันจะได้ฉลาดเฉลียว ทันคน"ก็ต้องเป็นเพราะได้กินนมแม่ค่ะ ได้โปรดอวยพรให้ดิฉันด้วย..
โดยอ้างว่าการร้องไห้ (อย่างโดดเดี่ยวในตู้โดยปราศจากอ้อมอกแม่) ของเด็กเป็นการขยายปอด ซึ่งดิฉันไม่เห็นด้วยอย่างแรง และที่สำคัญดิฉันเห็นขวดนมที่มีนมอยู่ในรถเข็นเด็กอะค่ะ แย่แร๊วว.. นี่มันต่างจากโรงพยาบาลที่สนับสนุนนมแม่ที่บอกว่าต้องให้ลูกอยู่ในอ้อมอกเราเลยนิ ดิฉันอยากให้ลูกมาอยู่ในอ้อมอกของฉันหลังคลอดบ้าง ก็เลยถึงกับคิดจะเปลี่ยนโรงพยาบาลแล้วไปคลอดที่ศิริราชกันเลยเชียวค่ะ(บ้านใหม่อยู่ย่านพุทธมณฑลค่ะ ศิริราชก็เลยใกล้สุด)
1. แม่คลอดดิฉันและน้องสาวที่นี่ค่ะ, รพ.อยู่ใกล้กับบ้านเกิดที่โตมา(บ้านเก่าอยู่สี่แยกอุรุพงษ์-เพิ่งย้ายออกมาไม่กี่ปีค่ะ) เลยมีความผูกพันกับรพ.นี้อยู่บ้าง ซึ่งถามแม่ว่าตอนดิฉันเกิดเขาเอามาให้กินนมแม่ทันทีเลยป่าว? แม่ก็บอกว่าเอามาค่ะ ก็ยังอุ่นใจตรงนี้อยู่(พอถึงตาดิฉันคลอดจริงก็เอามานะ แต่เอามาคว่ำไว้แบบเก้ๆกังๆ พอลูกไม่ดูดก็ย้ายเอาไปเนิร์สฯทันทีเลยค่ะ)
ดิฉันเป็นหนักอาการรุนแรงกระทั่งเฉียดจะเสียสติไปหลายวัน ผลก็คืออาการคันและเจ็บปวดสุดแสนทรมานจนไม่กล้าที่จะเดินทางออกจากบ้าน นอกจากจะไปตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาลเพราะที่นั่นมีหมอเลยมีกำลังใจไปค่ะ) ส่วนเรื่องการให้นมแม่ก็ตกเป็นภาระกังวลอยู่ไม่น้อย โดยคิดที่จะพยายามหาข้อมูลอยู่ที่บ้านต่อไป ผื่นพียูทำให้เลิกล้มที่จะเดินทางไปในที่ร้อนและคนเยอะ เพราะมันไม่คุ้มกับความทรมานตอนกลับมาบ้านเลย.. นั่นคือสิ่งที่ดิฉันคิดค่ะ
ที่นึ่งขวดนมก็ไม่มี จะทำอย่างไรให้ขวดสะอาดและเปิดนมกระป๋องเล็กๆที่เขาแถมมาให้ชงได้อย่างไรดิฉันไม่รู้เลย รู้แต่ว่าแย่แล้ว.. เพลียจากการคลอดและอดนอนมาแล้ว 1 คืน(เพราะช่วงพักฟื้น 24 ชั่วโมงก็ไม่ได้นอนค่ะ คือทั้งไปดูวิดีโอสอนการอาบน้ำ เช็ดสะดือ ฯลฯ กับเอาแต่จะคุยๆๆเรื่องตอนคลอดกับพ่อเด็ก) ฉันจึงปล่อยให้ลูกร้องหิวโดยที่ตัวเองขอหลับไปถึง 2 ชั่วโมง
คุณ webmother ขา... ฉันเสียใจมากๆและไม่คิดจะให้อภัยตัวเองเลย ทุกวันนี้ภาพเจ้าหนูกำลังร้องไห้หิวนมเป็นเวลา 2 ชั่วโมงข้างๆฉันยังคงตามหลอกหลอนฉัน ปากน้อยๆของเขาเปิดกว้าง ร้องไห้หิวโดยที่ไม่ได้รับความสนใจ(พิมพ์ไปใจก็หล่นไปค่ะ) รับไม่ได้กับสิ่งที่ตัวเองทำ...
แต่ก็อาจจะเป็นลิขิตของเจ้าหนูนะ เพราะมันยิ่งทำให้แม่คนนี้ยิ่งรักหนูมากจนสุดใจและห่วงใยหนูขึ้นอีกเป็นทวีคูณ.. ความรู้สึกผิดตั้งแต่วันแรกที่อุ้มลูกเข้าบ้านครั้งนั้นทำให้ฉันต้อง"work hard"กับทุกเรื่องของเขาไปตลอดชีวิตเป็นการชดเชยค่ะ..ฉันบอกกับตัวเองอย่างนั้น
นั่นก็คือการเริ่มต้นอุปสรรคของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ค่ะ จะเห็นได้ว่าแม้จะเป็นคุณแม่ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างฉัน ก็ยังไม่วายมีปัญหาเฉพาะตัวที่แหล่งข้อมูลไหนๆก็ไม่สามารถจะเตือนให้ระวังหรือเตรียมตัวใดๆได้อยู่ดี(โชคร้ายมั่กๆ) และบางครั้งก็รู้สึกว่า องค์ความรู้ที่ได้ยินได้ฟังมามากๆนี่แหละตัวดี ทำให้เราระแวงไปหมด และเมื่อมันไม่เป็นอย่างที่เคยรู้มาก็เกิดความไม่มั่นใจ ประสาทกินจนทำอะไรไม่ถูก ทั้งนี้เพราะความรู้ที่ได้ยินมานั้นมันยังขัดแย้งกันอยู่และไม่มีข้อยุติน่ะค่ะ พอถึงเวลาจริงๆแล้วตัดสินใจไม่ถูก .. เกิดอาการ"ไปไม่เป็น"ว่าจะยืนอยู่ข้างไหนถึงจะดี มันเลยก้าวต่อไปไม่ได้
มันก็มีทั้งที่คิดเอาเองจากการสังเกตและศึกษาลูกและตัวเอง หรืออีกทางคือการขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ.. จากบทความในเว็บเองก็มีบทหนึ่งที่แปลเอาไว้ ใจความว่าอย่าคิดแก้ไขเอง..ให้ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญดีกว่า แต่ดิฉันก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อ จากสัญชาตญาณเลยนะคิดว่าไม่น่าจะมีใครเข้าใจฉัน และลูกเรา.. เราก็น่าที่จะจัดการไปในแบบของเรา และที่สำคัญคือ ใช่..! บทความแปลมาจากฝรั่ง(สังเกตจากชื่อ) และฉันเชื่อว่า"ผู้เชี่ยวชาญ"ของฝรั่งกับบ้านเราน่าจะมีมาตรฐานที่ต่างกัน
ขอสรุปปัญหาตอนนี้เป็นข้อๆดังนี้ค่ะ
1.หัวนมบอด เข้าใจค่ะว่าต้องดูดที่ลานนม แต่ความมั่นใจมีน้อยนิดเพราะแม่คนนี้เคยเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหัวนมเมื่อ 10 ปีก่อน(ตอนนั้นอายุ20กว่าๆ) แต่การผ่าตัดล้มเหลวทำให้หัวนมข้างหนึ่งขาดไปเลยค่ะ ข้างนั้นเลยได้แต่ปั๊มทั้งๆที่น้ำนมไหลเยอะกว่าอีกข้างเสียด้วยซ้ำ ลูกไม่ยอมดูดเลยค่ะ
(ต่อ)..ของตัวเองก่อน และตกลงกับสามีแสนดีของฉัน ว่าเราจะให้นมแม่เท่าที่เราจะทำได้ค่ะ
"เลี้ยงลูกด้วยนมแม่" หวังว่าประโยคนี้จะไม่ได้หมายถึง
ต้องการพูดคุย ปรึกษา ปรับทุกข์กับแม่น้องจู๊ด กรุณากรอกแบบฟอร์มแรก หรือต้องการแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรอกแบบฟอร์มล่างสุดค่ะ |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (12297) | |
ดิฉันก็เป็นคุณแม่ที่หัวนมบอดและให้ลูกดูดนมแม่จากขวด เพราะหัวนมดูดยากลูกก็เลยไม่ค่อยจะยอมดูดและร้องไห้เพราะหิวและดูดนมไม่ได้ ดิฉันก็เลยใช้วิธีปั๊มใส่ขวดแทน ปัจจุบันลูกดิฉันอายุ 4 เดือน 4 วัน แล้วดิฉันก็ยังมีนมแม่ให้ลูกได้กินอยู่เลย เพราะดิฉันไม่ท้อที่จะทำให้ลูกได้กินนมแม่ ดิฉันก็เลยขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่น้องจู๊ด อดทนและสู้ๆ เหมือนดิฉันน่ะค่ะ และพยายามทานอาหารเพิ่มน้ำนมเยอะๆ ค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น คุณแม่น้องเป้ยเป้ย (warithar-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-01-12 13:24:02 |
ความคิดเห็นที่ 2 (12302) | |
ขอเป็นกำลังใจให้แม่น้องจู๊ดนะคะ ขอให้น้องจู๊ดแข็งแรง มีปัญญาดีอย่างที่คุณแม่ต้องการด้วยค่ะ ไม่มีอะไรที่แม่ทำไม่ได้ถ้าตั้งใจแน่นอน ถึงดิฉันหัวนมไม่บอดแต่ก็มีปัญหาเป็นแผลบ่อย ตอนนี้น้องวิญ (ลูกชายคนแรกและคนเดียว) สิบเอ็ดเดือนแล้ว โตมาด้วยนมแม่ล้วนๆ แข็งแรงมาก เป็นกำลังใจให้นะคะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แม่น้องวิญ วันที่ตอบ 2009-01-12 15:39:41 |
ความคิดเห็นที่ 3 (12385) | |
ขอเป็นกำลังใจให้นะค่ะ คิดว่าสิ่งที่สำคัญคือพยายามอย่าเครียดและสนุกกับการปั้มนมและค่อยๆ พยายามให้ลูกหัดดูดนมจากอกแม่ไปเรื่อยๆ มีปัญหาเรื่องหัวนมบอดเหมือนกัน หมอและพยาบาลโรงบาลที่คลอดเคยให้คำแนะนำและตรวจดูหัวนมแต่สุดท้ายก็บอกว่าช่วยไม่ไหวเพราะสั้นมาก ก็ไม่เป็นไรค่ะ ปั้มนมสลับกับให้เค้าดูดไปซักพัก เด็กก็จะหัดมาดูดนมแม่ได้เอง อยู่ที่ความตั้งใจของแม่นะค่ะ ตอนนี้ลูกได้ 9 เดือนกว่าแล้วยังกินนมแม่อย่างเดียวอยู่ค่ะ แม้แม่ต้องไปทำงานนอกบ้าน | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แม่ลูกหนึ่ง (chalalai_m-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-01-13 10:12:14 |
ความคิดเห็นที่ 4 (12408) | |
ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ ดิฉันก็มีปัญหาในช่วงแรกเช่นเดียวกันตอนนี้ลูกชายอายุ 8 เดือนครึ่งแล้วนมแม่เพิ่งจะหมดไปอาทิตย์กว่า ในช่วงแรกมีปัญหาหัวนมบอดไม่สามารถแก้ไขได้ รวมทั้งลูกต้องอยู่ในตู้อบ 2 อาทิตย์ ลูกไม่ยอมดูดนมจากเต้า ทำอย่างไรก็ไม่ยอมดูด จนดิฉันถอดใจ เลยตัดสินใจบีบนมใส่ขวดให้ลูกดื่ม ไม่ปั้มค่ะ ดิฉันทำเช่นนี้มาตลอดระยะเวลา 8 เดือนลูกได้กินนมแม่จน 8 เดือนค่ะ จริง ๆ แล้วถ้าไม่รู้สึกว่าเป็นภาระเพราะดิฉันมีงานยุ่งมากลูกคงได้กินนมแม่ต่ออีกดิฉันกินยาเม็ดคุมกำเนิดนมแม่เลยแห้งไปค่ะ ขอให้พยายามต่อไปนะคะแล้วคุณจะรู้สึกปลื้มมาก ๆ อย่างดิฉันค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แม่น้องลีโอ (m_pooja_poo-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-01-13 13:10:25 |
ความคิดเห็นที่ 5 (12433) | |
เป็นคนที่มีปํญหาเรื่องนมแม่มาตั้งแต่ลูกคลอด ทุกคนต่างบอกว่าเรานมน้อย มีปัญหาหัวนมแตกมากเจ็บถึงหัวใจทุกครั้งที่ลูกดูด เจ็บกว่าแผลผ่าตัดอีก แต่โชคดีที่รพ.ที่คลอดสนับสนุนนมแม่มาก พาลูกมาดูดกระตุ้นทุก3-4ช.ม ทุกครั้งที่ลูกดูด มีทั้งอิ่มใจและเจ็บนมมากทุกครั้ง ทั้งรอคอยลูกและหวาดกลัวความเจ็บปวด เคยท้อจนร้องไห้ แถมกลับมาบ้าน ปั๊มนมได้ไม่ถึงครึ่งoz น่าถอดใจมั้ยคะ แต่ด้วยพลังความเชื่ออย่างแรงกล้าว่าแทบจะไม่มีแม่คนไหนให้นมแม่กับลูกตัวเองไม่ได้ อดทนคำเดียวเท่านั้น ไม่ใช่แค่ไม่กี่วันอย่างหลายคนนะคะ แต่เป็นเดือนค่ะที่ต้องให้ลูกดูดทั้งที่ไม่รู้เลยว่าเค้าได้นมบ้างมั้ย พอหายจากหัวนมแตก ต้องเจอกับเต้านมอักเสบอีก เจ็บทั้งเต้า เจ็บทั้งหัวนม โดนผ้าเช็ดตัวยังไม่ได้เลยแถมเจอการรักษาผิดวิธีให้บีบนมทิ้งอีก กว่าทุกอย่างจะเรียกได้ว่าราบรื่นก็ปาเข้าไป2เดือน ทุกวันนี้มีความสุขมากที่วันนั้นเราสู้ตาย ยอมเจ็บแต่ไม่ยอมแพ้ ลูกแม่แข็งแรงมาก ไม่เคยป่วยเลย ร่าเริง ทะเล้นที่สุด รักนมแม่สุดชีวิต เป็นกำลังใจให้นะคะ ไม่ว่าจากขวด จากเต้า นมแม่มีความหมายสำหรับลูกเสมอ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น มามี้หนูcc (tukopas-at-yahoo-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2009-01-13 16:57:40 |
ความคิดเห็นที่ 6 (12623) | |
เป็นคุณแม่หัวนมบอดเหมือนกัน ลูกคนโต(ตอนนี้ 2 ขวบ) ตอนแรกไม่มีนมเลย มีแต่ซึมๆ 1อาทิตย์ต่อมา ปั๊มได้วันละครึ่งออนซ์ พยายามทำทุกอย่างและกินทุกอย่างที่บอกว่าจะทำให้มีน้ำนม บวกกับความพยายามของลูกน้อยในการดูด ดูดจนหัวนมปูดออกมา ตอนนี้ลูกคนที่สองเลยสบายไปเลยค่ะ (กว่านมจะปูดออกมา ก็ให้ลูกดูดแบบบอดๆ ไป เกือบ 3 เดือน แบบว่าหลอกลูกโดยเอาน้ำนมมาหยอดๆตอนลูกดูดข้างที่บอด ให้เค้ามีกำลังใจดูดอะค่ะ) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แม่น้องเฟย (yeejeab-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-01-15 15:00:02 |
[1] |