
เรื่องของแม่ตูน จำได้ว่าตอนตั้งครรภ์ลูกคนแรก ก็พยายามหาความรู้เท่าที่จะหาได้ รวมทั้งสอบถามคนรู้จักที่มีประสบการณ์มาก่อน โดยคนที่สำคัญที่สุดก็คือ คุณแม่ ซึ่งกำลังจะเป็นคุณยายหรือ อาม่า ในอนาคตนั่นเอง ผู้ซึ่งเลี้ยงลูกทั้ง 6 คนด้วยนมแม่ล้วนๆ ก็เลยมีความตั้งใจเอาไว้ว่า จะเลี้ยงลูกตามธรรมชาติ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ด้วยความที่มักจะเก่งแต่ทฤษฎีตกปฏิบัติ ดังนั้นตอนคลอดที่โรงพยาบาลนั้นก็ถึงกับเสียศูนย์ไปเหมือนกัน แต่ก็ยังดีที่กอบกู้สถานการณ์ไว้ได้ทัน ตอนเข้าโรงพยาบาลก็แจ้งทางหมอและพยาบาลไว้แล้วว่าต้องการคลอดแบบธรรมชาติ แต่ด้วยเหตุผลทางเทคนิคบางประการ ก็ต้องทำให้ต้องผ่าคลอด สิ่งที่ตามมาก็คือต้องนอนพักหลังคลอด 24 ชั่วโมง ต้องแยกกับลูก แม่นอนนิ่งอยู่ที่เตียงส่วนลูกต้องเข้าตู้อบ ทำให้กระบวนการดูดเร็วต้องพลาดไป กว่าจะได้เริ่มดูดนมครั้งแรกก็ข้ามมาอีกวัน ตอนนี้ก็เริ่มใจเสียแล้วกลัวขั้นตอนเริ่มต้นจะไม่สำเร็จ ที่สำคัญสัญญานอื่นๆที่บอกว่าพร้อมให้นมแล้วก็ไม่ปรากฏ นมก็เล็ก (มาก) เสียด้วย อันนี้ส่วนตัวนิดนึง พอจะเริ่มขยับตัวได้ก็แจ้งความจำนงค์ว่าอยากให้ลูกอยู่กับแม่ 24 ชั่วโมง ซึ่งในขณะนั้นลูกก็ได้รับการป้อนนมผสมด้วยจุกนมไปเรียบร้อย จะไปโทษคุณพยาบาลก็ไม่ได้เพราะแกทำไปด้วยมโนสำนึกที่ว่านี่เป็นสิ่งปรกติธรรมดา ขนาดหมอก็ยังบอกว่าตอนแรกคลอดแม่ยังนมไม่มา ไม่ก็ไม่เพียงพอให้ลูกดูดกันทั้งนั้น ต้องให้นมผสมเป็นปรกติธรรมดา ก็ไม่รู้ว่าไอ้ความปรกติธรรมดาอันไหนมันคือความถูกต้องกันแน่ เราก็รู้อ่านมาแล้วล่ะว่า ลูกไม่ได้ต้องการนมจำนวนมากอะไร กระเพาะก็ยังเล็กมาก แต่นี่เค้าเป็น แพทย์ พยาบาล มีใบอนุญาตด้วยนะ เราเป็นแค่แม่รู้มากคนนึงเอง
พอได้ลูกมาอยู่ในห้องก็พยายามอุ้มมาดูดนมเป็นระยะๆ หรือตอนที่เค้าร้อง แต่ด้วยความที่ไม่มีคนมาเฝ้าตอนกลางวัน เลยไม่ค่อยได้พักได้งีบ พอตอนเย็นญาติ เพี่อนฝูงก็มาเยี่ยม เมาส์แตกกันจนหมดแรง พอกลางคืนสามีมานอนเป็นเพื่อน ก็ไม่กล้าปลุกให้มาช่วยดูลูก เลยกลายเป็นว่านอนไม่พอนมมาน้อย มายอมแพ้ตอนลูกร้องตอนตี 2 ต้องกดปุ่มเรียกพยาบาลมาเอาลูกไปทีไม่ไหวแล้ว เสร็จก็ล้มตัวลงนอนก็โดนผีอำอีก อันนี้ไม่ได้ขำนะ โดนผีอำจริงๆพักนึงก็หาย แล้วจึงหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
สรุปแล้วตอนอยู่โรงพยาบาลนมก็ยังมาไม่มาก นมก็ยังดูเล็กๆแฟ่บๆเหมือนเดิมไม่เห็นเต้ามันจะคัด มีนมไหลหรืออะไรเลย แถมไม่ค่อยได้นอนพัก สภาพจิตใจก็ไม่ค่อยฮึกเหิม ฝ่อๆยังไงไม่รู้ ต่างจากตอนมาเข้าโรงพยาบาล ก่อนกลับคุณพยาบาลก็เอาลูกไปอาบน้ำห่อตัวมาเรียบร้อย พร้อมแถมนมกระป๋องมาให้อีกชุดใหญ่ แล้วก็กลับบ้าน
พอมาถึงบ้านแล้วหนูปุนก็ยังดูนอนหลับเรียบร้อยดี แม่ก็เดินไปเดินมาจัดบ้านหาของ ต้อนรับแขก แต่พอตกเย็นอาม่ามาจากต่างจังหวัดมาช่วยเฝ้า หนูปุนก็เริ่มร้อง แม่ก็ทำเป็นเก่งเอาหนูมาดูดนม หนูก็ดูดใหญ่เลยแต่คงไม่ค่อยมีนม ก็เลยยิ่งร้องอีก คราวนี้ญาติก็เริ่มบอกว่า นี่นมคงไม่มา นมไม่พอนะเนี่ย ชงนมเร็ว เราก็เริ่มน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัวและหยุดไม่อยู่ อาม่าหันมาเห็นเข้าก็เลยรับหลานไปอุ้มแล้วสั่งให้ไปนอน อาม่าเลี้ยงให้เอง ก็เลยไปนอนร้องไห้จนนอนหลับไป หลังจากนั้น อาม่าก็สั่งให้นอนพัก เดินเฉพาะตอนไปกินข้าว งานบ้านอาม่าจัดการให้หมด นอนให้นมอย่างเดียว แล้วก็สอนให้นอนให้นมตอนกลางคืน ปรากฏว่าไม่กี่วันนมก็มาเต็มที่ สรุปเลยสามารถให้นมแม่มาได้ตลอดรอดฝั่งมาได้อย่างหวุดหวิด
พอเดือนที่สอง นมแม่ก็มาจนเกินพอ ก็เริ่มปั๊มนมเก็บไว้ตอนตื่นนอน วันละถุงได้ถุงละ 6-8 ออนซ์ เป็นการซ้อมมือด้วยเผื่อตอนที่ต้องไปปั๊มที่ทำงาน จนครบลาคลอด 4 เดือนก็ล้นตู้เย็น ต้องเอาไปฝากไว้บ้านคุณย่า เลยมีสต็อกนมเก็บไว้เยอะไม่ค่อยเครียดเวลากลับไปทำงาน พอไปทำงานก็ปั้มเช้ากับบ่าย 2-3 เวลา แล้วแต่จังหวะว่าง แต่จะพยายามจัดเวลาให้ ทำได้เป็นประจำสม่ำเสมอ ก็ใช้แบบปั๊มมือเนี่ยล่ะ เพราะต้องปั๊มในห้องน้ำที่ทำงาน ไม่มีปลั๊กไฟ ปั๊มมือก็ไม่เป็น ควงที่ปั๊มนมเข้าห้องน้ำเป็นอาวุธคู่กายอยู่ปีกว่า จนเพื่อนที่ทำงานงง แซวจนเลิกแซว
มีช่วงนึงที่ปั๊มนมได้น้อยลง คือมันเริ่มขี้เกียจด้วยน่ะ เลยปั๊มวันละหนสองหน เลยคิดว่าจะหานมวัวสด หรือนมแพะสด มาให้ลูกกินดี แถมฟันลูกเริ่มขึ้น เลยกัดนมจนเจ็บไปหมด บางทีปั๊มนมแล้ว ได้เลือดพุ่งออกมาแทน บางทีก็คิดอยากจะหย่านมซะเลยตอนขวบนิดๆ เลยคุยกับเพื่อน เพื่อนบอกพี่ทำเวปนมแม่อยู่โทรไปคุยสิ ก็เลยได้คุยกับ webmother ก็เลยได้คำแนะนำและกำลังใจดีๆ กลับไปให้นมแม่ต่ออีกเป็นปี สรุปลูกหย่านมตอนอายุได้ 2ขวบครึ่ง
ตอนนี้กำลังจะคลอดลูกคนที่สองอีกในไม่กี่อาทิตย์* ก็จะนำบทเรียนจากท้องแรกมารำลึกไว้เสมอ จะท่องคาถาเอาไว้ว่า อย่าทำเป็นซ่า ทำโน่นทำนี่ ต้องนอนเยอะๆ เวลาไปคลอดก็เงียบๆ บอกแค่ญาติสนิทจะได้ไปช่วยเลี้ยงหลานระหว่างอยู่โรงพยาบาล บอกเพื่อนให้มาเยี่ยมที่บ้านวันหลังก็ได้ หลัง 1 เดือนได้ยิ่งดี แล้วขอความช่วยเหลือถ้าจำเป็น อย่าเหมาทำคนเดียวหมด ไม่ได้เป็น wonderwoman นะ ที่สำคัญที่สุดต้องกลับไปอ่านเนื้อหาในเวป www.breastfeedingthai.com เพื่อเตือนความจำอีกครั้งด้วย
*ตอนนี้แม่ตูน คลอดแล้วค่ะ ส่งเรื่องเล่ามาให้ฟังแล้วด้วย สัปดาห์หน้าจะลงให้อ่านกันค่ะ |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (25661) | |
อ่านแล้วคล้ายกับแม่น้องนายเลย มีส่งเรื่องเข้ามาด้วยแต่ยังไม่ได้ลงเลย รออยู่จ้า ตอนนี้น้องนายขวบสี่เดือนแล้วยังกินนมแม่อยู่ แต่ต้องเสริมนมแพะแล้วตอนขวบสองเดือน เพราะนมแม่น้อยลงเยอะ เลิกปั๊มทำสต็อคแล้วจ๊ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แม่น้องนาย (natnicha-at-ttib-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2009-02-23 11:34:41 |
ความคิดเห็นที่ 2 (25663) | |
เรามี ความคล้ายๆ กัน หลายอย่างเลยค่ะ ข้อแรก คือ เราก้อ เป็นแม่ น้องปุน เหมือนกัน น้องปุน ของเรา ตอนนี้ 2 ขวบ 5 เดือนแล้ว ข้อสอง คือ ซีเรียส เรื่องนมแม่ และ ตั้งใจมาก และ พออุปสรรคเช่นเดียวกัน เพราะ รพ แอบมาป้อนนมชงลูกเรา ปล่อยให้เรานมคัด แทบตาย ต้องเอาเครื่องปั๊มมาปั๊มออก พอปั๊มเสร็จ บอกลูกเราอิ่มแล้ว หลับไปแล้ว พ่อน้องปุนก็ เห่อมาก พาเพื่อนมาเยี่ยม ยืนพิงกันเต็มกำแพง ห้องพัก ไม่รู้จะให้นมยังไงดี กว่าจะผ่านมาได้ ร้องไห้ไปหลายยกเช่นกัน
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น แม่น้องปุน เช่นกัน (girlysociety1-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-02-23 11:44:50 |
[1] |