บทความโดย พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ https://www.doctorbreastfeeding.com/
อาศัยองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น ครูที่เอาใจใส่ สอนสิ่งต่างๆ เช่น ศิลปะ ดนตรี และการอ่านเขียน พ่อแม่สามารถดูลักษณะของครูได้จาก วิธีการที่ครูจัดห้องเรียน
การจัดห้องเรียนที่ดี ไม่ควรเป็นลักษณะเดียวกับเด็กโต คือ โต๊ะเรียงเป็นแนวเป็นแถว แต่ควรมีบริเวณให้เด็กได้ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ระบายสี ต่อบล๊อก เล่นสมมติ อ่านหนังสือนิทาน และเล่นพ่อแม่ลูก
โรงเรียนควรมีบริเวณให้เด็กได้ทำกิจกรรมต่างๆ สิ่งสำคัญในการเรียน คือ เด็กต้องรู้ว่าเวลาทำอะไรแล้วต้องทำให้เสร็จเป็นอย่างๆ ก่อนที่จะเปลี่ยนไปทำสิ่งอื่นต่อไป ครูจึงต้องคอยดูแลให้เด็กทุกคนได้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว ในกรณีที่เด็กเลือกกิจกรรมที่ต้องการทำไม่ได้ ครูจะช่วยเลือกให้ และหากเด็กทำกิจกรรมบางอย่างนานเกินไป ครูจะช่วยเบี่ยงเบนไปสู่กิจกรรมอื่นต่อไx
ลักษณะของห้องเรียนจะเปลี่ยนแปลงไปตามกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน วันแรกอาจเป็นพื้นที่สำหรับระบายสี วันต่อพื้นอาจเกลื่อนไปด้วยเศษกระดาษจากการตัดปะกระดาษ นอกไปจากกิจกรรมประจำวันแล้ว ควรมีเวลาที่เด็กได้เรียนรู้สิ่งที่เขาสนใจเป็นพิเศษ เช่น เรื่องราวของไดโนเสาร์และฟอสซิล ร้านขายของชำและการซื้อขายของ หรือออกนอกห้องเรียนไปสำรวจธรรมชาติ หรือ ละแวกเพื่อนบ้าน โดยสอนการสังเกตป้ายจราจร หรือ สอนว่าตึกหรือทางเท้าทำจากอะไร
ครูจะเป็นผู้จัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับความต้องการของเด็ก เด็กควรมีโอกาสวิ่งเล่น ปีนป่าย ขี่รถสามล้อ นอกห้องเรียนในบริเวณที่ปลอดภัย โดยครูเป็นผู้สังเกตการณ์ว่าเด็กแต่ละคนมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวเป็นอย่างไรบ้าง คอยเตือนเวลาที่เด็กเล่นอันตรายหรือรุนแรง