บทความโดย พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ https://www.doctorbreastfeeding.com/
ป้าหมอเน้นนมแม่ ป้าหมอไม่เคยพูดเลยว่าเด็กนมแม่ ฉลาดและเป็นเด็กดีกว่าเด็กนมผงเพราะการที่เด็กคนหนึ่งจะฉลาดและดีได้ ไม่ใช่แค่ให้นมแม่อย่างเดียวแต่ต้องเป็นการเลี้ยงดูที่ดีจากพ่อแม่ด้วยคุณแป๊วเป็นคุณแม่ที่เลี้ยงลูกเก่งมากๆลองอ่านดูนะคะว่าคุณแป๊วเลี้ยงลูกอย่างไร
เรื่อง “ปรับรูปแบบ” การสอนลูกหลานให้ “รักในหลวง” แบบมีเหตุผล และเป็นรูปธรรม
โดย Apichaya Vorapun (บันทึก) เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2013 เวลา 12:48 น.
ตั้งแต่ลูกยังเล็กๆโทรทัศน์จะเป็นสิ่งที่แม่ใช้เป็นอุปกรณ์ในการเลี้ยงลูกน้อยมาก รายการที่ลูกได้ดูจะเป็นประเภทสารคดีการประดิษฐ์สิ่งต่างๆ การ์ตูน และข่าว ส่วนพวกละครต่างๆ ลูกไม่เคยได้ดู เพราะแม่จะขอร้องพี่เลี้ยงให้ดูโทรทัศน์ในช่วงเวลากลางคืนที่ลูกนอนแล้ว
รายการ “ข่าว” เป็นรายการหนึ่งที่ลูกคุ้นเคยตั้งแต่เล็กข่าวที่ลูกจะดูบ่อยๆ คือข่าวในพระราชสำนัก เหตุที่แม่ให้ลูกดูข่าวเพราะอยากให้ลูกชินกับการรับทราบข่าวสารนอกเหนือจากการดูรายการของเด็กนอกจากนั้นบทเรียนของเด็กในเบื้องต้นก็จะต้องทราบเกี่ยวกับเรื่องสถาบัน การได้ดูข่าวในพระราชสำนักก็เป็นการปูพื้นความรู้ไปในตัวอีกประการหนึ่งคือ คนอ่านข่าวจะใช้คำพูดที่ชัดถ้อยชัดคำ ซึ่งไม่เป็นผลเสียกับเด็กที่กำลังหัดพูดหัดฟัง
แม่จำได้ว่าตอนลูกอยู่เนอสเซอรี่ ที่โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ ตอนนั้นอายุ2 ขวบครึ่ง คุณครูทิพย์เคยพูดกับแม่ตอนที่ไปรับลูกว่า“ เด็กๆ ในห้องจะรู้จักแต่ในหลวง-พระราชินี แต่ลูกคุณแม่รู้จักทั้งฟ้าหญิงใหญ่พระบรม พระเทพ ฟ้าหญิงเล็ก ด้วย ชี้ได้ถูกว่าองค์ไหน” .... แม่ก็ไม่นึกว่าลูกยังจำได้
แม่บอกคุณครูว่า “ แม่ให้ดูข่าวในพระราชสำนัก แล้วก็ดูสมุดภาพเรื่อยๆและจะบอกให้ทราบว่าเป็นรูปใคร เกี่ยวข้องกับใคร เช่น พระโอรส-พระธิดาของในหลวงก็จะไม่ได้สอนแบบเรียงพี่น้อง แต่จับคู่ง่ายๆ จากชื่อคือ พระบรม-พระเทพ และ ฟ้าหญิงใหญ่-ฟ้าหญิงเล็กคือพระกับพระ ฟ้ากับฟ้า เพราะรู้สึกว่าเด็กจะจำได้ง่ายกว่า ”
และช่วงที่ธรณ์อยู่ชั้นอนุบาล 2 อายุราว 5ปี ในกิจกรรม Project Approach ห้องธรณ์เลือกที่จะทำเรื่องเกี่ยวกับ"เงินตรา"
สำหรับนิทานเรื่อง "ในหลวงพระราชินีกับคนยากจน" ของธรณ์นั้นเป็นผลงานส่วนหนึ่งของกิจกรรม Project Approach ซึ่งธรณ์ทำในห้องเรียนโรงเรียนจะมีกิจกรรมลักษณะนี้ทุกปี ทุกระดับชั้น แต่ละห้องเด็กๆจะเลือกหัวข้อเรื่องที่อยากทำกันเอง โดยใช้เวลาในการทำกิจกรรม 1 เดือน และเมื่อเสร็จกิจกรรมก็จะมีการแสดงผลงานของทั้งโรงเรียน
ครั้งแรกที่แม่เห็นประโยคที่ธรณ์เขียนในนิทานว่า “ในหลวงบอกกับคนยากจนว่า ให้ใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง ” จากรายงานประจำสัปดาห์ของห้องเรียน แม่ก็งงๆ เล็กน้อย ไม่คิดว่าธรณ์จะจำประโยคแบบนี้มาผูกเป็นเรื่องราวได้แม่ยังเขียนในสมุดการบ้านไปถามคุณครูประจำชั้นว่านิทานเรื่องนี้ธรณ์แต่งเองหรือใครช่วยแต่ง คุณครูตอบมาว่า ธรณ์แต่งเองคนเดียว และแม่มาเห็นรูปเล่มครั้งแรกในงานProject Approach ของโรงเรียน
จำได้ว่าวันนั้นตอนเดินเข้าไปในงานได้เจอคุณครูไก่ๆ ถามว่า “คุณแม่อ่านเรื่องของธรณ์แล้วยัง” แม่ได้ตอบคุณครูว่า“ อ่านจากรายงานประจำสัปดาห์แล้ว” คุณครูไก่เล่าให้ฟังว่าวันก่อนไปที่ห้องเรียนของธรณ์ ได้ถามธรณ์ว่า “ แล้วอะไรที่ซื้อไม่ได้บ้าง”ธรณ์ตอบคุณครูว่า “ ความเอื้อเฟื้อความมีน้ำใจ เพราะเราต้องมีเอง ” คุณครูไก่บอกว่าฟังคำตอบแล้วก็นึกไม่ถึงว่าธรณ์จะตอบได้แบบนี้ แม่ฟังคุณครูแล้ว แม่ก็นึกไม่ถึงเหมือนที่คุณครูรู้สึกเช่นกัน
สำหรับนิทานของธรณ์ หรือเนื้อเรื่องในนิทานนั้น เป็นสิ่งที่ธรณ์คิดต่อยอดมาจากการได้ยินได้ฟัง ได้เรียนรู้ ตามประสบการณ์ของตัวเอง โดยที่แม่ไม่ได้มีส่วนช่วยในการแต่งนิทานเรื่องนี้เลย
*** เนื้อเรื่องของ "ในหลวงพระราชินีกับคนยากจน" ของธรณ์วัย 5 ปี ***
ในหลวงอยู่กับพระราชินีในวัง วังของในหลวงคือบ้าน แล้วในหลวงกับพระราชินีก็เสด็จไปเยี่ยมประชาชนที่ต่างจังหวัดในหลวงเห็นคนยากจน ในหลวงก็ให้เงินไปซื้อข้าวกับอาหารกิน ในหลวงบอกคนยากจนให้ใช้เงินอย่างระมัดระวังเดี๋ยวเงินจะหายแล้วจะหายแล้วจะอดทานข้าว แล้วในหลวงบอกกับคนยากจนว่า ให้ใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง
ณ ตอนนี้เราคงต้องมานั่งทบทวนว่าเราให้ความสำคัญกับเรื่องสถาบันนี้มากน้อยอย่างไร เราแค่..ให้ลูกท่องว่าเรามีสถาบันชาติ – ศาสนา - พระมหากษัตริย์ .. แล้วก็จบ แค่นั้นหรือไม่
เรามองข้ามจุดไหนไป และเราจะทำอะไรได้บ้าง ..สำหรับเด็กรุ่นปัจจุบัน และรุ่นต่อๆ ไป
- เราเคยอธิบายให้ลูกฟังหรือไม่ว่า ในหลวงของเราทำอะไรให้แก่ประชาชนและประเทศไทยบ้าง
- ลูกจะทราบหรือไม่ว่า บ้านของในหลวงน่าจะเหมือนฟาร์ม หรือสวนเกษตร มากกว่าที่จะเรียกว่า“วัง” ท่านทำเพื่ออะไร ทำเพื่อใคร
- ช่วงที่ในหลวงทรงงานอย่างหนัก ปีหนึ่งมี 365 วัน แต่จำนวนพระราชกรณียกิจต่อปีของในหลวงมีมากกว่า 365 งาน และเป็นเช่นนี้มายาวนานเป็นระยะเวลาต่อเนื่องหลายสิบปี เด็กยุคนี้จะทราบบ้างหรือไม่
- ในหลวงไม่มีวันพักร้อน เพื่อไปช็อปปิ้ง เพื่อพักผ่อนหรือไปเที่ยวต่างประเทศ การแปรพระราชฐานไปต่างจังหวัดนั้น มิใช่การพักผ่อน แต่คือการเยี่ยมเยียนราษฎรและการทรงงานด้านต่างๆ ในต่างพื้นที่ทั่วประเทศไทย
- ปัจจุบันในหลวงมีพระชนมายุใกล้ 86 พรรษา ถ้าในคนทั่วๆไป พออายุ 60 ปี ก็ได้เกษียณอายุการทำงาน ได้พักผ่อน แต่สำหรับในหลวงแล้วอีก 26 ปี ต่อมาหลังจากพระชนมายุ 60 พรรษาในหลวงยังทรงงานอยู่ตลอดเวลาจนถึงปัจจุบัน เพียงแต่พระราชกรณียกิจที่ปรากฏออกมาทางสื่อที่ต้องเสด็จพระราชดำเนินไปไหนๆ ก็จะน้อยลงตามพระชนมายุที่มากขึ้น และอาการประชวรที่เป็นอยู่
- เราเคยให้ลูกดูสารคดีเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของในหลวง เล่าเรื่องในหลวงให้ลูกฟังหรือดูข่าวในพระราชสำนักที่มีให้ดู อยู่แทบทุกวัน .... บ้างหรือไม่คะหรือลูกดูแต่การ์ตูน ดูหนัง หรือเล่นเกม ลูกเลยรู้จักแต่สารพัดการ์ตูน สารพัดดารา แต่กับในหลวงซึ่งทำอะไรให้ประชาชนมากมายหลายอย่างลูกกลับไม่ค่อยได้รับทราบ ดังนั้น “ภาพของในหลวง” ในความรู้สึกของเด็กรุ่นปัจจุบันก็จะเลือนๆ ออกไป เมื่อเทียบกับภาพการ์ตูนเกม หรือดารา ที่จำกันได้แม่นยำยิ่งกว่าตำราเรียน
ณ เวลานี้ เราจึงน่าจะต้อง “เปลี่ยนวิธี”สอนลูก สอนหลาน สอนนักเรียน ด้วยการอธิบายให้เด็กฟัง ให้เด็กได้ดู ให้เด็กได้เห็นพระราชกรณียกิจต่างๆของในหลวง เพราะในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมานั้น เด็กรุ่นปัจจุบันจะเห็นภาพหรือเห็นข่าวพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านน้อยลง ทั้งนี้เพื่อให้เด็กได้ซึมซับ ได้เข้าใจว่า ที่คนไทยรุ่นปู่ย่าตายาย รุ่นพ่อแม่รักและเทิดทูนในหลวงนั้น ไม่ใช่เพราะในหลวงเป็นแค่ “สถาบัน”แต่เพราะพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่ในหลวงทุ่มเททำให้กับประชาชนคนไทย และแผ่นดินไทย
เมื่อเหตุการณ์เปลี่ยน และยุคสมัยเปลี่ยน วิธีการสอน วิธีการเรียนรู้ก็น่าจะต้อง“ปรับ” ให้เหมาะสม กับเหตุการณ์และยุคสมัยในเมื่อเด็กไม่สามารถจะได้เห็นภาพพระราชกรณีกิจที่เคยเห็นทุกๆ วันหรือรับรู้ด้วยตัวเองเหมือนสมัยเราได้ “เรา” น่าจะเป็นผู้ส่งต่อสิ่งที่ได้เห็น สิ่งที่ได้รับรู้มาให้เด็กรุ่นปัจจุบันทราบ ซึ่งการที่เราสอนเด็กด้วยเหตุและผล สอนด้วยข้อเท็จจริง การรับรู้จะยั่งยืนและหยั่งรากกว่าการสอนให้เด็กท่องจำแบบนกแก้วนกขุนทอง
(ขออนุญาตที่จะใช้ภาษาธรรมดาๆ นะคะ )
รูปวาดลายเส้น ใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง... ProjectApproach ของธรณ์ เมื่ออายุ 5 ปี
รูปในหลวง ฝีมือธรรศ เมื่ออายุ 8 ปี ใช้เวลาวาด30 นาที ได้แบบจากปฏิทินตั้งโต๊ะ
รูปคน 4 คน ฝีมือธรณ์ เมื่ออายุ 6 ปี เป็นงานในชั้นเรียน