บทความโดย พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ https://www.doctorbreastfeeding.com/
ตอนนี้ลูกชายอายุ 3 ขวบ 6 เดือน เวลาเดินชอบล้มบ่อยๆ ไม่ได้สะดุดอะไรนะคะ เวลาถามเค้าก็ว่าทำไมถึงล้มเค้าตอบว่าเข่าอ่อนเฉยๆ ไม่แน่ใจว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เวลาพาออกไปเดินเที่ยวเล่นนอกบ้าน เดินได้ไม่นานก็บ่นเหนื่อยขอให้คุณแม่อุ้ม ขณะนี้ลูกชายสูง 102 ซม. หนัก 22 กก. เห็นคุณหมอที่พาน้องไปฉีดวัคซีน บอกว่าน้องเริ่มมีน้ำหนักเกินมาตรฐานแล้วนะคะ เป็นไปได้มั้ยคะว่าเกิดจากสาเหตุนี้ แล้วถ้าอยากให้ลูกมีน้ำหนักลดลงควรทำอย่างไรดีคะ ที่สำคัญลูกไม่ทานเนื้อสัตว์เลยค่ะ ทานแต่นม น้ำเต้าหู้ ไข่ต้ม ข้าวเปล่า และโจ๊กฟักทองเท่านั้นค่ะ ถ้าได้กลิ่นเนื้อสัตว์เมื่อไหร่ก็ทำท่าเหมือนจะอาเจียนทันที จึงนั่งร่วมโต๊ะอาหารกับครอบครัวไม่ได้เลย หนักใจมากค่ะ รบกวนคุณหมอช่วยให้คำแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
จากคำถาม หมอประมวลปัญหาได้ดังนี้ค่ะ
น้ำหนักตัวเกินหรืออ้วน - ลูกอายุ 3 ขวบ 6 เดือน มีส่วนสูง 102 ซม. เทียบเท่ากับเด็กอายุ 4-4.5 ขวบ ควรมีน้ำหนักประมาณ 16-17 กก. จึงจะมีรูปร่างสมส่วน แต่ความเป็นจริง ลูกมีน้ำหนักอยู่ที่ 22 กก. จึงเข้าข่ายเป็นเด็กอ้วน เนื่องจากมีน้ำหนักตัวเกินร้อยละ 20 ของน้ำหนักที่ควรจะเป็น
หมอขอชื่นชมคุณแม่ที่มีความใส่ใจเรื่องน้ำหนักตัวที่มากเกินไปของลูก เนื่องจากโรคอ้วนเป็นอันตรายต่อสุขภาพกาย สุขภาพจิตของลูก ส่งผลทั้งระยะสั้นและระยะยาว เช่น เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคกระดูกและข้อเสื่อม โรคเป็นหนุ่มสาวเร็ว เมื่ออ้วนแล้วจะเป็นเด็กไม่คล่องแคล่ว เคลื่อนไหวได้ช้า เหนื่อยง่าย หรือเสียการทรงตัวได้ง่าย ทำให้ได้รับบาดเจ็บบ่อย ด้านจิตใจ อาจเป็นเด็กที่ไม่มีความสุข เนื่องจากถูกล้อเลียน เพื่อนๆไม่อยากให้เข้ากลุ่มในการแข่งขันกีฬา เป็นต้น
การแก้ไขปัญหาโรคอ้วน ทำได้โดยการควบคุมปริมาณอาหาร และออกกำลัง ไม่กินแป้ง น้ำตาล ไขมัน มากเกินไป พยายามให้กินผัก ผลไม้ที่ไม่มีรสหวานจัด งดอาหารขยะ น้ำอัดลม ขนมหวาน ขนมถุงขบเคี้ยว อาหารทอด ปริมาณนมที่มากเกินไป ก็ทำให้เป็นโรคอ้วนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นนมรสหวาน นมเปรี้ยว นมที่มีไขมันครบส่วน ไมโล โอวัลติน นมสำหรับเด็กที่มีปัญหาเบื่ออาหาร หมอไม่แน่ใจว่า คุณแม่อาจกำลังให้ลูกกินนมชนิดนี้อยู่หรือไม่ เนื่องจากอาจเห็นว่าลูกเป็นเด็กกินข้าวยาก จึงอาจคิดว่า การกินนมสูตรดังกล่าวจะช่วยให้เด็กกินข้าวได้ดีขึ้น ตามที่เห็นในโฆษณา แต่ความเป็นจริงคือ อาจทำให้เด็กกินข้าวยากมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากอิ่มนมสูตรดังกล่าวและรสชาติที่หวานอย่างมาก ทำให้เด็กติดหวานและทำให้เด็กมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งเป็นผลพลอยได้ที่คุณแม่บางท่านต้องการ แต่ลูกของคุณแม่ท่านนี้มีปัญหาน้ำหนักตัวเกินอยู่แล้ว
การออกกำลังอาจเป็นการเล่นกีฬาหรือการหากิจกรรมให้ลูกได้เคลื่อนไหวมากๆ ลดกิจกรรมที่อยู่เฉยๆ เช่น การดูทีวี เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์
ปัญหาเลือกกิน – ส่วนใหญ่ลูกกินแต่แป้ง นม ไข่ แต่ไม่กินเนื้อสัตว์ และขาดกลุ่มผักและผลไม้
ในแง่ของโปรตีนที่ได้รับจากไข่และนม หมอคิดว่าปริมาณสารอาหารโปรตีนน่าจะเพียงพอ แต่ขาดความหลากหลาย อาจทำให้ขาดวิตะมินซึ่งควรได้จากผัก ผลไม้ และขาดธาตุเหล็กซึ่งมีมากในเนื้อหมู เนื้อวัว ตับ ผักใบเขียว จึงควรเสริมธาตุเหล็กและวิตะมินให้เพียงพอ ในช่วงแรกที่ยังไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยการกินของลูกได้ อาจต้องเสริมวิตะมินและธาตุเหล็กไปก่อน
การพยายามเปลี่ยนนิสัยการกินของลูก ต้องอาศัยความอดทน คอยสอน การกินให้ดูเป็นตัวอย่าง มีเทคนิคการทำอาหารที่มีการดัดแปลง สอดไส้ แต่ถ้าลูกอาเจียนได้ทุกกรณี ไม่ว่าจะรู้หรือไม่รู้ว่ามีเนื้อสัตว์ปนเปื้อนอยู่ อาจเป็นอาการของแพ้อาหารรูปแบบหนึ่ง ไม่ได้เกิดจากการปฏิเสธอาหารที่มาจากจิตใจต่อต้าน ซึ่งอาจเป็นจากการกินครั้งแรกเคยมีปัญหาอาเจียน ก็เลยฝังใจตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่ถ้าลูกแพ้อาหารประเภทเนื้อสัตว์จริงๆ คุณแม่ก็ไม่ต้องวิตกกังวลหรือกลัวว่าลูกจะขาดสารอาหาร เพราะ คนบนโลกนี้ที่เป็นมังสวิรัติ ไม่กินเนื้อสัตว์ ก็มีอยู่มากมาย ก็ไม่เห็นว่าจะมีปัญหาด้านสุขภาพหรือสมองไม่ดีแต่อย่างใดเลย หากกินสารอาหารโปรตีนได้ครบถ้วนจากอาหารประเภทอื่นๆ เช่น ข้าวไม่ขัดสี เมล็ดธัญพืช (whole grain) เมล็ดถั่ว (bean , nut) เมล็ดพืช (seed) ที่หลากหลาย
ปัญหาล้มบ่อยๆ - อาจเกิดจากการมีน้ำหนักตัวเกิน ทำให้เข่าต้องรับน้ำหนักตัวเกิน ทำให้เสียหลักได้ง่าย และเมื่อยง่าย ซึ่งหากควบคุมไม่ให้อ้วนได้แล้ว อาการนี้หายไป ก็จบ แต่ในระหว่างนี้ หมอแนะนำว่า คุณแม่ควรพาลูกไปพบคุณหมอด้านโรคกระดูกเด็กโดยตรง เพื่อให้คุณหมอได้ประเมินว่าลูกไม่ได้มีปัญหาโรคกระดูก หรือโครงสร้างที่ผิดปกติ ไม่ได้เป็นโรคของกล้ามเนื้อหรือระบบประสาทผิดปกติซ่อนเร้นอยู่ เพื่อการรักษาที่ถูกต้องต่อไป