โรคคาวาซากิคืออะไร

ลูกชายอายุ 1 ขวบ 6 เดือน เป็นโรคคาวาซากิ รักษาแล้ว และช่วงนี้อยู่ในขั้นติดตามดูอาการ ยังต้องกินยาหลังอาหารเช้าอยู่ แต่กังวลว่าโรคนี้หลังจากรักษาหายแล้วจะมีโอกาสเป็นโรค หรือมีอาการอะไรได้อีกหรือไม่ ควรระมัดระวังตัวอย่างไร
โรคคาวาซากิ (Kawasaki หรือ Mucocutaneous Lymph Node Syndrome) เป็นโรคที่พบไม่บ่อย ไม่ทราบสาเหตุการเกิดโรค ไม่ได้เป็นโรคติดต่อ ไม่มีวัคซีนป้องกันการเป็นโรค โอกาสเป็นซ้ำพบน้อยมาก มักพบในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
เป็นโรคที่มีอาการไข้สูงเฉียบพลัน มักเป็นนานกว่า 5 วัน มีการอักเสบของเยื่อบุต่างๆ เช่นตา ปาก ทำให้มีอาการตาแดงแบบไม่มีขี้ตา เยื่อบุในปากและริมฝีปากแดงจัด แห้ง แตกปริและมีเลือดซึม ลิ้นมีลักษณะบวมแดงจัดคล้ายผลสตรอเบอรี่ ทำให้งอแงมากและทานได้น้อย มือเท้าและนิ้วบวมแดงและอูมจัด ซึ่งต่อมาจะมีผิวหนังลอกออกเป็นแผ่นๆ อาจมีลายขวางที่เล็บ อาจมีผื่นแดงขึ้นตามตัว หน้าและแขนขา นอกจากนี้อาจมีต่อมน้ำเหลืองโต ปวดท้อง อาเจียน ท้องเสีย ปวดข้อ ปวดศีรษะและคอแข็ง มักพบในเด็กที่แข็งแรงมาก่อน
ถึงแม้จะเป็นโรคที่หายได้เองในเป็นส่วนใหญ่ แต่บางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงทางระบบหัวใจและหลอดเลือด ได้แก่ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หลอดเลือดแดงโคโรนารี (เส้นเลือดที่เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ) อักเสบทำให้โป่งพองและอุดตันจนเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายตั้งแต่อายุยังน้อย แต่หากได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่แรกจะช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าวได้ การรักษา คือ

• การให้ IVIG (Intravenous Immunoglobulin) ช่วยลดความรุนแรงของโรค ทำให้ไข้ลงเร็วขึ้น อาการทางผิวหนังและเยื่อบุดีขึ้น และป้องกันหลอดเลือดโคโรนารีผิดปกติ ข้อเสียคือเป็นยาราคาแพงมาก ร่วมกับการให้ยาแอสไพริน นาน 6-8 สัปดาห์ หรือนานกว่านั้นจนกว่าผลตรวจหัวใจเป็นปกติ หมอเข้าใจว่ายาที่ลูกของคุณแม่ได้รับอยู่ น่าจะเป็นยาแอสไพริน

• การดูแลประคับประคอง เช่น การให้น้ำเกลือทางเส้นเลือดในกรณีที่ทานได้น้อย มีภาวะขาดน้ำและพลังงาน ให้พักผ่อนมากๆ งดการออกกำลังกายเพื่อไม่ให้หัวใจทำงานหนัก

• การให้วัคซีนชนิดมีชีวิต เช่น MMR (หัด หัดเยอรมัน คางทูม) วัคซีนสุกใส ต้องเลื่อนการฉีดออกไป 11 เดือนหลังการได้รับ IVIG เพราะจะทำให้ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนไม่ขึ้น ส่วนวัคซีนชนิดอื่นสามารถให้ได้ตามปกติ

• ควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในเด็กอายุ 6 เดือนถึง18 ปีที่ต้องกินยาแอสไพรินในระยะยาวเพราะถ้าเด็กติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ อาจเสี่ยงต่อการเกิด Reye syndrome (สมองบวมและตับวาย เสียชีวิตได้)

• ในรายที่มีปัญหากล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด จำเป็นต้องได้ยากลุ่มป้องกันการจับตัวของลิ่มเลือดเป็นเวลาต่อเนื่อง และหากมีการตีบของเส้นเลือดโคโรนารี อาจต้องมีการทำการสวนหลอดเลือดเพื่อขยายเส้นเลือดหรือผ่าตัดเชื่อมต่อเส้นเลือด หรือหากมีการขาดเลือดรุนแรงจนมีกล้ามเนื้อหัวใจเสียไป อาจต้องทำการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจ