บทความโดย พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ https://www.doctorbreastfeeding.com/
ช่วงหลังคลอด 1-2 เดือนแรก ในนมแม่จะมีสารที่ช่วยให้ลำไส้เคลื่อนไหวตัวได้เร็ว เพื่อเร่งการขับถ่ายสารสีเหลืองบิลิรูบินออกจากร่างกาย ทำให้เด็กอุจจาระบ่อยวันละหลายครั้ง แต่เมื่อปัญหาตัวเหลืองหมดไปแล้ว สารตัวนี้จะลดลงไป ทำให้เด็กไม่อุจจาระบ่อยเหมือนเดิม อาจเหลือเพียงวันละครั้ง หรือ หลายวันถึงจะถ่าย เพราะสารอาหารในนมแม่ดูดซึมไปใช้ได้เกือบหมดเหลือของเสียที่ต้องเร่งกำจัดออกจากร่างกายไม่มาก จึงสามารถเก็บไว้ได้หลายวัน โดยไม่ทำให้อุจจาระแข็ง ไม่เรียกว่าท้องผูก จึงไม่ต้องแก้ไขหรือรักษาแต่อย่างใด ยกเว้นแต่ว่า ลูกมีอาการอึดอัดแน่นท้อง คุณแม่อาจช่วยโดยการที่ ตัวคุณแม่เองกินผักผลไม้ที่ช่วยระบาย เช่น ส้ม พรุน มะละกอ มะขาม เน้นให้กินนมส่วนต้นซึ่งมีแลคโตสช่วยให้ขับถ่ายง่ายขึ้น หรือทำการนวดท้อง ก็อาจช่วยให้ลูกถ่ายออกมาได้เร็วขึ้น แต่ตัวคุณลูกกินของเหล่านี้เองยังไม่ได้ จนกว่าจะอายุเกิน 6 เดือน จึงให้กินอาหารเหล่านี้เพื่อช่วยระบายได้ หากไม่ถ่ายเองทุกวัน แต่ไม่ให้สวนหรือเหน็บอุจจาระเองบ่อยๆ เพราะจะทำให้ลูกเคยตัว ไม่ยอมอึด้วยตัวเอง
ในกรณีที่เริ่มกินอาหารเสริม ควบคู่กับนมแม่ แล้วลูกเริ่มมีปัญหาถ่ายแข็ง อาจเป็นผลจากอาหารที่กิน เช่น ข้าวกล้อง มันฝรั่ง ฟักทอง แครอท ตับ ไข่แดง กล้วย ซึ่งบางคนกินอาหารกลุ่มนี้แล้วอาจทำให้ถ่ายแข็ง จึงควรสังเกตแล้วหลีกเลี่ยง ไม่กินมากเกินไป หรือ ให้ผสมกับอาหารกลุ่มที่ทำให้ถ่ายง่าย ถ่ายนิ่ม เช่น มะละกอ พรุน แก้วมังกร ผักสีเขียว ผักใบ ส่วนส้ม บางคนกินแล้วอาจแพ้ เช่น มีผื่นขึ้น ก็ต้องดูว่า ให้แล้วเป็นอย่างไรค่ะ บางคนตอนกินปั่นละเอียด ท้องไม่ผูก แต่พอกินหยาบขึ้น ท้องผูก แสดงว่าลำไส้ยังไม่พร้อมย่อย ก็ให้กลับไปกินแบบละเอียดเหมือนเดิมไปก่อนได้ค่ะ
ตรงกันข้ามกับเด็กที่กินนมผงบางคนที่ไม่ถูกกับนมที่กินอยู่ ถึงแม้จะถ่ายอุจจาระทุกวัน ก็อาจแข็งกว่าปกติ อันนี้เรียกว่า ท้องผูก ต้องแก้ไขโดยการเปลี่ยนนมไปใช้ชนิดที่ทำให้ถ่ายนิ่มเป็นปกติ