บทความโดย พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ https://www.doctorbreastfeeding.com/
หากลูกร้องไห้มากเป็นเวลาหลายชั่วโมง ทั้งๆที่พยายามทำทุกอย่างแล้ว ความรู้สึกสงสารลูกเริ่มหดหาย แต่เริ่มรู้สึกว่าลูกไม่ดี ดันทุรัง ไม่เห็นใจพ่อแม่เลย และเริ่มรู้สึกโกรธและเป็นความโกรธจริงๆ หรือลูกคนโตทำบางอย่างที่เคยบอกไม่ให้ทำ เช่น อดใจไม่ไหวที่จะเล่นของที่แตกได้ หรือวิ่งข้ามถนนไปเล่นกับเพื่อนบ้านตรงข้าม หรือ การที่เขาแกล้งดื้อเพราะไม่พอใจที่ผู้ใหญ่ห้ามหรือสนใจแต่ลูกคนเล็ก หรือทำผิดพลาดเพราะความเป็นเด็กของเขาเอง
ความรู้สึกโกรธที่เกิดขึ้น อาจมาจากความที่ความที่เป็นคนที่รักษากฎ หรือเคยถูกสอนแบบนี้และตัวเองปฏิบัติตามได้ หรือเพราะกฎเกณฑ์ที่ตั้งไว้ถูกละเมิด หรือเพราะข้าวของที่รักถูกทำลาย หรือเพราะคาดหวังกับลูกไว้มาก เหตุผลพวกนี้ย่อมอดไม่ได้ที่จะโกรธ ลูกเองก็คิดไว้แล้วว่าคุณจะโกรธ และไม่รู้สึกเจ็บปวดหากปฏิกิริยาโกรธของคุณเป็นไปอย่างสมควร
แต่ความจริงแล้ว การที่เขาทำผิดกฎเพื่อให้ผู้ใหญ่โกรธก็เพื่อจะเตือนให้ผู้ใหญ่มั่นคงกับกฎที่ตัวเองตั้งขึ้น อย่างเช่น ลูกอาจกวนประสาทคุณตั้งแต่เช้า ไม่ยอมกินอาหารที่เตรียม เทนมหกไปครึ่งถ้วยโดยเจตนา เล่นของต้องห้ามแล้วทำเสีย แกล้งน้อง ขณะที่พ่อแม่พยายามอดทนไม่ว่าอะไร ในที่สุดก็ระเบิดออกมารุนแรง
กรณีหากผู้ใหญ่ลองมองย้อนไปอาจจะพบว่า สิ่งที่ลูกทำ คือ การร้องขอให้พ่อแม่ปฏิบัติต่อเขาอย่างมีกฎเกณฑ์ตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ผู้ใหญ่กลับเพิกเฉยมองข้ามไป โดยการพยายามอดกลั้น แล้วปล่อยให้เขาทำตามใจตัวเอง ที่ถูกต้อง คือ พ่อแม่ต้องหยุดพฤติกรรมที่ละเมิดกฎเกณฑ์ให้เร็วที่สุด ก่อนที่ความโมโหของคุณจะถึงขีดสูงสุด
นอกจากนี้ บางครั้งการโมโหลูกอาจเกิดเพราะความเครียดและความว้าวุ่นจากสิ่งอื่นๆ เช่น พ่ออาจเครียดจากที่ทำงาน แล้วมาด่าว่าภรรยาที่บ้าน เมื่อแม่อารมณ์เสียจึงตีลูกคนโต ลูกคนโตก็ไปตีน้องต่อ แล้วน้องก็ไปเตะน้องหมาต่อ