บทความโดย พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ https://www.doctorbreastfeeding.com/
การได้เห็นลูกที่เพิ่งเกิดยิ้มเป็นครั้งแรกก็ทำให้คุณแม่มีความสุขได้แล้ว ทุกๆวันที่ได้เห็นลูกเติบโตก็ทำให้คุณแม่เป็นสุขได้ถึงแม้ว่าบางวันอาจเป็นวันที่คุณเหน็ดเหนื่อยมากเพียงใด คุณก็ยังมีความสุขได้ หากรู้เคล็ดลับต่อไปนี้
1. กำหนดมาตรฐานของตัวเอง อย่าเอาไปเปรียบเทียบกับคนอื่นให้ทุกข์ใจ : เพราะคุณจะได้รับคำแนะนำจากผู้หวังดีที่อยู่รอบๆมากมายหลายความคิดเห็น ไม่ว่าจะเป็นคนรู้จัก ญาติสนิทมิตรสหาย หรือ จากคนที่ไม่รู้จัก ยังไม่รวมถึงหนังสือนิตยสารแม่และเด็กที่กองเป็นพะเนิน และ ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ท ทำให้คุณรู้สึกสับสนกับคำแนะนำเหล่านั้น จงอย่าเอาคำแนะนำเหล่านั้นมาปฏิบัติ ถ้าคุณไม่เห็นด้วย คุณควรทำสิ่งที่คุณรู้สึกว่าใช่ และ ดีสำหรับคุณและลูกของคุณ เช่น หากคุณรู้สึกว่าการให้นมแม่เป็นเรื่องที่เครียดและยากมากสำหรับคุณ ทั้งๆที่คุณไปขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญคลินิคนมแม่แล้วก็ตาม คุณก็ควรปล่อยวางและให้นมผงเสริมได้โดยไม่ต้องรู้สึกผิดแต่อย่างใด เพราะมีคุณแม่ที่ผลิตน้ำนมไม่พอจริงๆบนโลกใบนี้ 5% คุณอาจอยู่ในจำนวนนั้นก็ได้ หรือ คุณอาจมีภาระหน้าที่การงานที่ไม่สามารถปั๊มนมในที่ทำงานได้เลย จำเป็นต้องใช้นมผง ก็ต้องใช้ค่ะ
2. ขอเวลานอก : บางเวลาคุณแม่ก็ต้องการเปลี่ยนบทบาทบ้าง เช่น เปลี่ยนมาเป็นผู้รับ ไม่ใช่เป็นแต่ผู้ให้ตลอดเวลา คนทุกคนต้องการเวลาพักเบรค จงอย่ารู้สึกผิด เวลาที่คุณปลีกตัวไปแช่น้ำอุ่นให้สบายตัว หรือ นอนเล่นอ่านหนังสือดีๆ ขณะที่ให้คนอื่นดูแลลูกแทนชั่วคราว เพื่อเติมพลังให้ตัวเองก่อนที่จะกลับไปดูแลลูกอีกครั้งอย่างกระปรี้กระเปร่า
3. พูดคุยกับแม่ๆท่านอื่น : กำลังใจเล็กๆน้อยๆจากผู้มีประสบการณ์แบบเดียวกัน อาจเป็นเพื่อนออนไลน์ก็ได้ จะช่วยลดความตึงเครียดในการเลี้ยงลูก เพราะคุณจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอยู่คนเดียว
4. จัดลำดับความสำคัญให้เป็น : เพราะมีงานมากมายที่ต้องทำ การเป็นแม่ที่มีความสุขได้ต้องจัดลำดับความสำคัญให้เป็น ใช้เวลา 2-3 นาทีในตอนเช้าตรู่ จัดลำดับงานหรือธุระที่ต้องทำ 3-4 อย่างที่สำคัญๆเพื่อทำให้เสร็จก่อน งานที่เหลือจิ๊บๆจ๊อยๆเอาไว้ทำวันหลังได้ เพราะถ้าคุณทำงานหนักตลอดเวลา 24 ชม./วัน , 7 วัน/สัปดาห์ คุณจะพลาดสิ่งที่ดีที่สุดในการเป็นแม่ นั่นคือ การมองเห็นพัฒนาการที่น่าทึ่งของลูกในแต่ละวัน
5. แบ่งปันความรับผิดชอบ : โดยการขอให้คุณพ่อ ญาติผู้ใหญ่ หรือ เพื่อนที่ไว้วางใจ ช่วยดูแลลูกแทนบ้างในบางเวลา อย่ารู้สึกผิดที่ไม่ได้ดูแลลูกเองตลอดเวลา
6. แบ่งเวลาไปทำสิ่งที่คุณชื่นชอบ งานอดิเรก หรือ กิจกรรมที่ทำให้คุณมีความสุข ซึ่งจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกเห็นในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและมีความสมดุล แน่นอนที่สุดที่เวลาส่วนใหญ่คุณทุ่มเทให้กับลูกที่คุณรัก แต่ก็อย่าลืมแบ่งเวลาดูแลตัวเองให้มีความสุขบ้าง คุณแม่ที่มีความสุขย่อมมีลูกที่มีความสุขเช่นกัน