บทความโดย พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ https://www.doctorbreastfeeding.com/
ไข้เป็นการตอบสนองของร่างกายต่อการติดเชื้อหรือโรคอื่นๆ ไข้อาจช่วยร่างกายในการต่อสู้กับเชื้อโรค เพราะเชื้อโรคบางชนิดอาจถูกทำลายได้ง่ายเมื่อมีอุณหภูมิสูงขึ้น ร่างกายควบคุมอุณหภูมิโดยศูนย์ไฮโปธาลามัสในสมอง ถ้าร้อนเกินศูนย์จะสั่งให้หลั่งเหงื่อ เพื่อทำให้ร่างกายเย็นขึ้น ถ้าหนาวเกินไป ศูนย์จะสั่งให้เกิดการสั่นของกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายร้อนขึ้น หากมีการติดเชื้อ ระบบภูมิคุ้มกันจะปล่อยสารเคมีไปกระตุ้นศูนย์ให้ทำงานสร้างความร้อน ดังนั้นถึงแม้ว่าขณะนั้นร่างกายมีไข้ 100 องศาฟาเรนไฮต์แล้วก็ตาม แต่ศูนย์ต้องการให้ร้อนถึง 102 องศาฟาเรนไฮต์ จะสั่งกล้ามเนื้อให้สั่นเพื่อสร้างความร้อนเพิ่มขึ้น จึงทำให้มีอาการหนาวสั่น และเมื่ออุณหภูมิสูงถึงจุดที่สมองต้องการแล้ว ร่างกายจะรับรู้ว่าตอนนี้ร้อนแล้ว จึงเกิดการหลั่งเหงื่อออกมา
พ่อแม่ส่วนใหญ่คิดว่า การมีไข้เป็นสิ่งไม่ดี ต้องให้ยาเพื่อให้ไข้ลดลง แต่ไข้ไม่ใช่สาเหตุของการเจ็บป่วย ไข้เป็นวิธีการที่ร่างกายใช้จัดการกับเชื้อโรค และยังช่วยให้เรารู้ว่าตอนนี้สถานการณ์การเจ็บป่วยเป็นอย่างไร ส่วนหมอที่ให้ยาลดไข้ ก็เพื่อช่วยให้เด็กนอนพักผ่อนได้ ไม่ปวดหัว ปวดตัว และไม่เหนื่อยเกินไป และถ้าเด็กเป็นโรคหัวใจ ก็ยิ่งต้องควรลดไข้ให้ดี เพื่อไม่ให้หัวใจต้องทำงานหนักมากเกินไป ส่วนเด็กที่มีประวัติชักเมื่อมีไข้สูง ก็ต้องคอยลดไข้ให้ดีเช่นกัน
ทำไมไข้สูงต่ำไม่เท่ากันระหว่างวัน ส่วนใหญ่ไข้มักขึ้นสูงเวลาเย็นและต่ำสุดตอนเช้า แต่ก็ไม่แปลก หากพบว่าไข้ต่ำตอนเย็นแต่สูงตอนเช้า และมีบางโรคที่ไม่มีไข้ขึ้นๆลง แต่สูงคงที่ตลอดเวลา เช่น โรคปอดบวม โรคไข้ส่ากุหลาบ ทารกที่ป่วยหนักบางคนอาจมีอุณหภูมิต่ำกว่าปกติ ดังนั้นไข้สูงหรือต่ำ ไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ความรุนแรงของโรค