บทความโดย พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ https://www.doctorbreastfeeding.com/

 ดิฉันไม่ได้อยู่ไฟหลังผ่าตัดคลอดและดื่มน้ำเย็นมาตลอด (ตอนนี้ลูกสาวอายุเกือบ 2 เดือนแล้ว) จะเป็นอันตรายหรือไม่และควรแก้ไขอย่างไร และคุณยายมีความเชื่อว่าหลังคลอดต้องกินพริก จึงบังคับให้ดิฉันรับประทานอาหารประเภทแกงรสจัด เช่น แกงส้ม แกงไตปลา และแกงเผ็ด แต่ดิฉันไม่ชอบอาหารประเภทนี้เลย จึงอยากทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้คุณแม่ทุกคนที่ได้รับการคลอดในโรงพยาบาลไม่ว่าจะโดยการผ่าตัดหรือคลอดเอง คุณหมอจะให้ยาที่ช่วยให้มดลูกเข้าอู่ เพื่อป้องกันการตกเลือดหลังคลอด ช่วยขับน้ำคาวปลา เรียบร้อยแล้ว สมัยนี้จึงไม่ต้องอยู่ไฟเหมือนสมัยก่อน ถ้าคุณแม่ให้ลูกดูดนมแม่ จะยิ่งช่วยให้มดลูกเข้าที่ได้เร็วขึ้น การอยู่ไฟดิลิเวอรี่ที่มีให้บริการในปัจจุบันจึงเป็นเรื่องเกินความจำเป็น แถมยังมีราคาแพง สู้เก็บเงินไว้ซื้อของใช้ให้ลูก หรือซื้ออาหารที่มีประโยชน์บำรุงน้ำนมแม่ดีกว่า นอกจากนี้บางแผนการให้บริการมุ่งแต่จะให้แม่เข้ากระโจม โดยไม่คำนึงถึงความต้องการในการดูดนมของลูก ทำให้แม่ไม่สามารถให้นมลูกได้เต็มที่ การกระตุ้นการสร้างน้ำนมแม่จึงไม่เพียงพอ ลูกจึงไม่ได้กินนมแม่จากเต้า ลูกไปติดขวด เป็นที่น่าเสียดายมากบางสำนักใช้สารพอกตัวที่มีการปนเปื้อนเชื้อโรค ถ้าแม่ไม่ได้อาบน้ำให้สะอาด ลูกมาดูดเต้าที่สกปรก ก็จะมีปัญหาท้องเสีย คุณแม่บางคนกินยาที่คนอยู่ไฟให้มา บอกว่าเป็นยาที่ทำให้มดลูกเข้าอู่ ปรากฏว่า ลูกมีปัญหาแพ้เป็นผื่น หรือ ท้องเสียตามมา ดังนั้น หากต้องการอยู่ไฟจริงๆ ควรเลือกสำนักที่มีมาตรฐานความปลอดภัย ความสะอาด และ ไม่ขัดต่อการให้นมลูกจากเต้าอย่างต่อเนื่อง ความเชื่อที่ว่าการไม่ได้อยู่ไฟจะทำให้มีเลือดเสียคั่งอยู่ข้างในมดลูก พอมีความผิดปกติอะไรขึ้นมาหลังจากคลอด มีอาการหนาวสั่นสะท้าน จะโทษว่าเป็นเพราะไม่ได้อยู่ไฟ ที่จริงแล้ว เลือดที่ออกจากมดลูกหลังการคลอด เรียกว่าน้ำคาวปลา ไม่ใช่เลือดเสีย แต่เป็นเลือดที่ซึมออกจากแผลในโพรงมดลูกหลังจากที่รกลอกหลุดออกมา เมื่อแผลแห้งดี น้ำคาวปลาก็หยุด เท่านั้นเอง หลังคลอดแม่ควรทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ เพื่อการซ่อมแซมบาดแผลที่เกิดจากการคลอด และการสร้างน้ำนม ไม่ต้องเน้นพริก หรือของเผ็ด ถ้าไม่ชอบ เพราะไม่ได้ช่วยอะไร แถมยังอาจทำให้แม่ปวดท้องหรือท้องเสียได้ ถ้าลำไส้ของแม่ไม่เคยชิน ส่วนการดื่มน้ำเย็นไม่มีอันตรายค่ะ เย็นก็ได้ อุ่นก็ดี ขอให้ดื่มน้ำให้มากพอเพียงกับการผลิตน้ำนมให้ลูก