บทความโดย พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ
ลูกอายุขวบกว่าแล้ว แต่ยังร้องกินนมขวดมื้อดึกคืนละประมาณ 2-3 ครั้ง ให้ดูดน้ำก็ไม่ยอม ถ้าไม่ได้นมจะแผลงฤทธิ์แบบไม่ฟังอะไรเลย กลัวจะมีผลต่อพัฒนาการหรือกลายเป็นเด็กอารมณ์ร้ายเมื่อโตขึ้น จะทำอย่างไรดี
เด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป ควรได้รับการฝึกให้นอนหลับโดยไม่ต้องตื่นขึ้นมาดูดนมกลางดึก เนื่องจากการกินนมกลางคืนจะทำให้ฟันผุได้ง่ายเพราะมีฟันขึ้นหลายซี่แล้ว คราบนมตกค้างในปากจะถูกแบคทีเรียในปากย่อยจนเกิดสารที่ทำให้ฟันผุกร่อน นมส่วนเกินทำให้เป็นโรคอ้วน เป็นการสร้างทัศนคติเกี่ยวกับการกินแบบผิดๆ ไม่ใช่กินเพื่อการดำรงชีวิต แต่ใช้การกินเป็นการตอบสนองความต้องการทางอารมณ์(สุขก็กิน ทุกข์ก็กิน กลายเป็นอ้วนไปเลย) หากกินนมใกล้เวลาอาหารเช้า ก็จะทำให้ไม่อยากกินข้าวเช้า
นอกจากนี้ยังเป็นเหตุที่ทำให้ลูกยังต้องใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปเพื่อรองรับปัสสาวะจำนวนมากเพราะไม่อาจกลั้นฉี่ได้จนถึงเช้า แล้วหากลูกเติบโตมากขึ้นจนใส่ผ้าอ้อมไม่ได้ก็ต้องตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำกันคืนละหลายครั้ง ทำให้การนอนของลูกและคุณเองถูกรบกวนโดยไม่จำเป็น ดังนั้นหากลูกกินข้าวและนมในปริมาณที่เหมาะสมแล้วในช่วงวัน (หากคุณแม่ไม่แน่ใจ ลองปรึกษาคุณหมอที่ดูแลลูกได้ค่ะ) การที่ลูกตื่นกลางคืนแล้วเรียกหานมไม่ได้แสดงว่าลูกหิว แต่เป็นเพราะความเคยชินกับการที่ใช้การดูดนมเป็นตัวกล่อมทำให้หลับ และไม่เคยถูกฝึกให้หลับเองได้ด้วยตัวเอง แต่คุณแม่ยังไม่ต้องท้อใจ เพราะเราสามารถฝึกลูกได้หลายวิธีค่ะ
บางคนเพียงต้องการดูดเพื่อที่จะหลับ ดังนั้นอาจลองจุกหลอกหรือให้ดูดน้ำเปล่าจะช่วยลดโอกาสฟันผุ แต่ถ้าดูดน้ำก็ยังทำให้ต้องฉี่กลางคืนบ่อยอยู่ดี แต่ถือว่าเป็นขั้นนำร่องไปก่อน เพราะต่อไปลูกอาจคิดได้ว่าไม่คุ้มที่จะตื่นมาดูดน้ำเปล่า หากไม่ยอมดูดน้ำเปล่า ลองใช้วิธีชงนมให้เจือจางลงเรื่อยๆ ทำให้ลูกรู้สึกว่านมไม่อร่อยเท่าเดิม อาจเลิกติดใจนมมื้อดึกได้ แต่ถึงไม่ยอมเลิก ก็ยังช่วยลดฟันผุลงไปบ้าง
ปล่อยให้ร้องไปเลยค่ะ แต่ต้องอธิบายให้คนที่บ้านเข้าใจว่า กำลังฝึกหย่านมกลางคืนอยู่ ลูกจะไม่ป่วยหรือไม่สบายจากการร้องไห้มากๆและนานๆค่ะ โดยทั่วไปคืนแรกอาจร้องนาน 1-2 ชม.จนเหนื่อยแล้วหลับไปเอง แต่จะลดลงเรื่อยๆ และไม่ตื่นอีกภายใน 1-2 สัปดาห์ คุณแม่อาจอุ้ม ตบก้นเบาๆ ร้องเพลงกล่อมได้ แต่ไม่ให้นม
ผู้เชี่ยวชาญบางคนแนะนำว่าน่าจะถือโอกาสแยกห้องในช่วงนี้ไปเลย หากมีแผนการณ์จะแยกห้องอยู่แล้ว เพราะเด็กบางคนจะตื่นบ่อยถ้านอนด้วยกัน เพราะเวลาแม่ขยับตัวอาจไปกวนการนอนของลูกได้ หากอยู่คนละห้อง อาจไปแอบดูหรือเดินเข้าไปหาเป็นพักๆได้ เวลาที่ลูกร้องไห้หนักๆ ว่ายังปกติดีหรือเปล่า ไม่ได้มีผ้าห่มหรือหมอนอุดหรือพันรอบคอ แต่อย่าอุ้มหรืออยู่นานจนลูกหลับ ให้วางลงเตียงขณะสะลึมสะลือแล้วบอกลูกว่า นอนซะลูก พรุ่งนี้เจอกันใหม่ แล้วออกไป หากลูกร้องอีก ให้ยืดระยะเวลาในการกลับเข้ามาดู ให้มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ใช้เวลาในห้องน้อยลงเรื่อยๆแล้วออกไป ไม่ต้องห่วงว่าลูกจะมีปัญหาทางด้านอารมณ์ เพราะช่วงกลางวัน คุณแม่ก็ให้ความรักความเอาใจใส่และให้เวลาลูกเต็มที่ ไม่มีปัญหาแน่นอนค่ะ