พี่เพิ่งเห็นรูปหนูน้อยดูดนมวัวนี้เป็นครั้งแรก
จากเพจของป้าหมอสุธีราเมื่อสัปดาห์ก่อน
ด้วยความสงสัยก็เลยไปค้นที่มาของภาพว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ภาพนี้เป็นภาพข่าวจาก AP ค่ะ
รายงานว่าหนูน้อยวัย 1 ขวบ 8 เดือนชาวกัมพูชาคนนี้ 
เห็นลูกวัวดูดนมแม่วัวก็เลยทำตาม
เพราะพ่อแม่ของหนูน้อยคนนี้ต้องทิ้งลูกให้ปู่เลี้ยง
เพื่อที่จะมาหางานทำที่เมืองไทย
ส่วนรูปที่สองเป็นรูปพยาบาลในประเทศคิวบา
ช่วยให้ทารกดูดนมจากแพะ
ก่อนหน้านี้ทารกที่ถูกทอดทิ้งหรือแม่เสียชีวิต
จะได้รับการช่วยเหลือด้วยการใช้แม่นม (wet nurse)
ในกรณีที่หาแม่นมไม่ได้ เขาก็ให้ดูดนมสัตว์อื่นแทน
โดยเฉพาะในช่วงที่มีการแพร่ของโรคซิฟิลิส
ซึ่งทำให้การใช้แม่นมมีความเสี่ยงต่อการติดโรค
ในช่วงศตวรรษที่ 18-19 ตามสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในยุโรป
จะนิยมให้เด็กที่ถูกทอดทิ้งดูดนมแพะหรือลาแทน
พวกเราเห็นรูปทั้งสองนี้แล้วมีความรู้สึกอย่างไรกันบ้างคะ
มันเป็นภาพที่ไม่ควรเกิดขึ้นหรือเปล่า
ทำไมหนูน้อยทั้งสองในรูปจึงโชคร้ายเช่นนี้
ทั้งสองกรณีเกิดขึ้นเพราะไม่มีทางเลือกค่ะ
กรณีแรกเกิดจากความยากจนของพ่อแม่ทำให้ต้องทิ้งลูกไปหางานทำ
กรณีที่สองเกิดจากหนูน้อยไม่มีแม่ ไม่ว่าจะถูกทิ้งหรือแม่เสียชีวิตก็ตาม
นี่คือชีวิตที่เลือกไม่ได้ค่ะ...
หลังๆ นี้พี่เลิกพูดคำว่า "ลูกคนต้องกินนมคน"
หรือ "ลูกคนนะ ไม่ใช่ลูกวัวจะได้กินนมวัว"
เพราะพี่รู้ว่าคำพูดแบบนี้มันทำให้คุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมผงรู้สึกไม่ดี
รู้สึกเหมือนโดนดูถูก
ทั้งๆ ที่คนที่พูดประโยคเหล่านี้
ไม่ได้พูดเพราะต้องการดูถูกคนอื่นเลย
แต่พูดเพราะต้องการให้กำลังใจตัวเองต่างหาก
คุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่พูดว่า "ลูกคนต้องกินนมคน"
เพื่อให้ตัวเองมั่นใจว่าตัวเองต้องมีนมพอสำหรับลูก
และต้องพูดว่า "ลูกคนนะ ไม่ใช่ลูกวัวจะได้กินนมวัว"
เพราะต้องป้องกันตัวเองจากคนที่กดดันให้เสริมนมผง
ไม่มีใครอยากพูดเพราะต้องการดูถูกคนอื่นเลย
วันนี้พี่เปลี่ยนใจและขอยืนยันเรื่องนี้อีกครั้งแต่ขอเปลี่ยนคำพูดว่า
"ลูกแม่ควรจะต้องกินนมแม่"
เพราะพี่ไม่ชอบภาพทั้งสองนี้เลย
ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจบริษัทนมผงมากขึ้นเป็นร้อยเท่า
เพราะบริษัทเหล่านี้ใช้กลยุทธ์ทางการตลาด
เปลี่ยนภาพที่น่าสงสารทั้งสองนี้ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่แสนวิเศษ
ทำให้คุณแม่ทั้งหลายรู้สึกว่านมผงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับลูกตัวเอง
ทำให้คนรอบข้างที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นพี่ป้าน้าอา ปู่ย่าตายาย
หลงคิดไปด้วยว่านมผงดีกว่านมแม่ กดดันให้แม่ต้องให้นมผง
ลองนึกภาพนะคะ ถ้าบนกล่องนมผงมีรูปหนูน้อยดูดนมวัวแบบนี้
แทนภาพโฆษณาที่ใช้อยู่ ..
คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายจะยังเห็นว่า
มันเป็นทางเลือกที่ดีและยินดีซื้อให้ลูกกินไหมคะ?
อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ล้วน 6 เดือนของไทย
ที่สำรวจล่าสุดมีเพียง 12.3% เท่านั้น
นั่นหมายความว่า แม่เกือบ 90% ต้องใช้นมชนิดอื่นแทนนมของตัวเอง
มันใช่หรือคะ?
ลูกของพวกเราไม่มีทางเลือกเหมือนหนูน้อยทั้งสองในภาพจริงๆ หรือ?
หรือแท้จริงเป็นเพราะเราเองต่างหากที่เลือกทางผิดให้กับลูก
เพราะบริษัทนมผงจูงใจเราให้คิดว่าเราไม่มีทางเลือกกันแน่
การที่แม่ส่วนใหญ่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไม่สำเร็จ
ไม่ใช่เพราะโชคร้ายที่ไม่มีน้ำนมค่ะ
ไม่ใช่เพราะไม่มีทางเลือก
แต่เพราะเราอยู่ในสังคมที่ไม่สนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่างหาก
สังคมที่....
> ทำให้คุณแม่ไม่ได้รับความช่วยเหลือที่ถูกต้องและทันเวลา
> ไม่มีบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญมากพอที่จะช่วยเหลือคุณแม่ได้
> ทำให้คนอื่นในครอบครัวเข้าใจผิดว่านมผงเป็นทางเลือกที่ดีกว่านมแม่ และกดดันให้คุณแม่ต้องใช้นมผง
> บริษัทนมผงสามารถบิดเบือนข้อมูลเพื่อทำให้เกิดอุปทานหมู่ได้ว่านมแม่ไม่พอสำหรับลูกน้อย
> คุณแม่ไม่ได้รับการดูแลทางด้านสวัสดิการที่ดีในที่ทำงาน ทำให้ไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างต่อเนื่องได้
ถ้าคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมผงจะรู้สึกโกรธและไม่พอใจ
เมื่อได้ยินใครพูดว่า "ลูกคนต้องกินนมคน" แล้วล่ะก็
คนที่ควรจะถูกโกรธ ไม่ใช่คนที่พูดประโยคนี้ค่ะ
แต่เป็นคนที่ทำให้คุณแม่ต้องใช้นมผงเลี้ยงลูกต่างหาก
#พี่เก๋_ร้านนมแม่
ปล.1 นักรบนมแม่ทุกท่านคะ หน้าที่เราคือรบกับบริษัทนมนะคะ ไม่ใช่รบกับคุณแม่ที่ให้นมผง หรือคนในครอบครัวเราที่เข้าใจผิดว่านมผงดีกว่านมแม่
หน้าที่เราคือช่วยกันแก้ความเข้าใจผิด ทำให้เขาเปลี่ยนความคิดได้จึงจะเจ๋งค่ะ การด่ากันเพื่อแสดงว่าตัวเองเหนือกว่า นอกจากไม่ช่วยอะไรแล้ว ยังทำให้จิตใจมืดบอดอีกด้วย
ปล.2 ลงชื่อสนับสนุนพรบ.ห้ามโฆษณานมสำหรับทารก ได้ที่นี่ค่ะ http://chn.ge/1tt2dSC