การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าที่แม่ทุกคนจะทำได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะทำได้ทุกคน
ปัญหาส่วนใหญ่ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สามารถแก้ได้ไม่ยาก โดยไม่ต้องใช้นมผสม เพียงแค่คุณแม่ทุกคนมีการเตรียมตัวโดยการหาความรู้และข้อมูลตั้งแต่ยังไม่คลอด
แต่ในความเป็นจริง แม่ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยรู้กันว่าจะต้องเตรียมตัวกันอย่างไรและไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเราไม่จำเป็นต้องใช้นมผสมเลี้ยงลูกของเราเลย
ในขณะที่บริษัทผู้ผลิตนมผสมได้รับผลประโยชน์ทางธุรกิจจำนวนมหาศาล ทำให้สามารถแจกแถมตัวอย่างนมผสมให้กับแม่ทุกคนได้ 
รวมทั้งการโฆษณาชวนเชื่อถึงคุณสมบัติที่ดีเกินกว่าความเป็นจริงของนมผสม ทำให้คนส่วนใหญ่แทบไม่ลังเลเลยที่จะให้ลูกกินนมผสมแทนนมแม่ เมื่อรู้สึกว่ามีปัญหากับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แม้เพียงเล็กน้อย
สำหรับคนที่ทำงานรณรงค์เพื่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้น จะรับไม่ได้กับตัวอย่างแจกฟรี ในขณะที่คนทั่วไปจะคิดเพียงตื้นๆ ว่า ไม่เห็นเป็นไร รับมาแล้วไม่กินก็ได้ แค่อยากได้กระเป๋า ของเล่น หนังสือที่มาพร้อมนมผง หรือ เอาไปให้คนอื่นก็ได้
ความคิดเช่นนั้นเป็นความคิดที่ไม่รอบคอบ เพราะการรับตัวอย่างแจกฟรี ทำให้วงจรอุบาทว์นี้ยังคงดำเนินต่อไปเพราะ
1. บริษัทรู้ว่าวิธีการนี้ใช้ได้ผล เพราะเมื่อแจกแล้วก็มีคนรับทุกครั้ง ดังนั้น ก็จะมีการแจกต่อไป
2. บุคคลากรที่รับผลตอบแทนจากนมผสมไม่รู้สึกผิด เพราะทุกครั้งที่แจก คนก็รับด้วยความเต็มใจ
3. คุณแม่ที่รับตัวอย่างแจกฟรีมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ไม่มีความรู้เรื่องนมแม่ คิดว่าตัวเองไม่มีน้ำนม รับแล้วก็นำไปใช้เอง ก็จะทำให้ลูกตัวเองไม่ได้กินนมแม่
กลุ่มที่ 2 มีความรู้เรื่องนมแม่ดี รับแล้วตัวเองไม่ใช้ แต่เอาไปให้คนอื่นต่อ ไม่ว่าจะเป็นคนข้างบ้าน คนงานต่างด้าว คนที่ความรู้น้อยกว่า เมื่อได้ตัวอย่างนี้ก็จะดีใจ เพราะคิดว่าเป็นของดี ราคาแพง เมื่อเขาเอาให้ลูกกิน ก็จะทำให้ลูกเขาไม่ได้กินนมแม่เช่นกัน
เพราะฉะนั้นแบบนี้ไม่ใช่การทำบุญค่ะ แต่เป็นการสร้างบาป เพราะคนที่ความรู้น้อย รายได้น้อยนั้น ถ้าต้องเสียเงินซื้อนมผสมแทนนมแม่ ยิ่งเป็นภาระที่หนักกับเขามาก ยังไม่นับถึงความเสี่ยงว่าตัวอย่างนมผงนี้อาจจะทำให้เด็กแพ้ก็ได้
ถ้าเราต้องการหยุดวงจรอุบาทว์ เราต้องปฏิเสธการรับตัวอย่างแจกฟรี และแสดงให้ผู้แจกไม่ว่าจะเป็นบุคคลากรในโรงพยาบาลหรือเซลส์ที่ขายก็ตามทราบว่า เราไม่ต้องการ
และควรจะเขียนใบแสดงความคิดเห็นเพื่อร้องเรียนทุกครั้งหากเกิดกรณีเช่นนี้
ไม่ว่าหมอเด็กจะเป็นผู้ให้โดยตรง หรือพยาบาลนำมาแจกก็ตาม การเขียนใบแสดงความเห็น ไม่จำเป็นต้องลงชื่อก็ได้ หากว่าเราไม่อยากมีปัญหากับบุคคลใด
ถ้ามีเซลส์มาออกบูธแจก แล้วเราปฏิเสธไม่รับ หากมีคนอื่นที่รับอยู่ด้วย อย่างน้อยก็อาจทำให้เขาฉุกคิดได้ว่า ทำไมเราไม่รับ มันไม่ดีอย่างไร
ถ้าเขาถาม เราก็สามารถชี้แจงได้ว่ามันไม่ดีอย่างไร ก็จะช่วยให้คนมีความรู้เพิ่มขึ้นอีก
ถ้าเป็นหมอแจก แล้วเราปฏิเสธไม่รับ คุณหมอเองจะเป็นคนที่ต้องอาย ถ้ามีคนไม่รับมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดหมอก็จะไม่กล้าแจก
ถ้าต้องการให้โลกนี้เปลี่ยนแปลง เริ่มต้นง่ายๆ จากตัวเราเองค่ะ#MakeTheDifference
#พี่เก๋_ร้านนมแม่
ปล. คุณแม่ที่มีนมผงตัวอย่าง หรือที่เคยซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ กรุณาอย่านำไปแจกคุณแม่ในกรุ๊ปนะคะ ขอให้นำไปบริจาคที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนทุกแห่ง หรือสหทัยมูลนิธิแทนค่ะ
