เมื่อ 2-3 วันก่อน Admin เพิ่งจะเห็นว่าผู้ผลิตนมผสมรายใหญ่เจ้าหนึ่งพิมพ์หนังสือคู่มือการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่รูปเล่มสวยงามน่าอ่าน เพื่อแจกฟรีให้คุณแม่ทั่วไป แว่บแรกที่เห็น อธิบายความรู้สึกไม่ถูก ไม่รู้ว่าดีใจหรือเสียใจ
จริงๆ แล้ว Admin เคยเห็นคู่มือแบบนี้ที่เป็นภาษาต่างประเทศมาก่อนหน้านี้แล้วหลายปี ตั้งแต่เริ่มทำเว็บ Breastfeedingthai ได้ไม่นาน เวลานั้นไม่เข้าใจว่าทำไมบริษัทนมผสมจึงยอมลงทุนมากมายในการทำหนังสือเพื่อส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เขาจะได้อะไรจากการลงทุนแบบนี้
เพิ่งเข้าใจคำว่าอ่อนต่อโลกอย่างแท้จริง ตอนนั้นเข้าใจไปเองว่าเพราะเป็นประเทศพัฒนาแล้ว เป็นสังคมแห่งความรู้ เขาจึงทำอะไรแบบนี้กันเป็นเรื่องปกติ ยังคิดว่าบริษัทนมผสมในเมืองไทย ทำไมไม่แจกหนังสือแบบนี้บ้าง แม่ๆ จะได้มีความรู้ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มากขึ้น ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็หายไป
จนกระทั่งมาเห็นคู่มือเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ฉบับภาษาไทยที่ผลิตโดยผู้ผลิตนมผสมเล่มนี้ (ยังไม่มีโอกาสได้เห็นตัวจริงและเห็นเนื้อหาเลยนะคะ ถ้าใครมีหลายเล่ม จะอนุเคราะห์ส่งมาให้สักเล่ม ก็จะเป็นพระคุณค่ะ)
อย่างที่เกริ่นไปว่า แว่บแรกที่เห็นมันมีอะไรคลุมเครืออยู่ในใจ เหมือนจะดีแต่ไม่ดี บอกไม่ถูกว่าทำไม
จนเมื่อตอนหัวค่ำเห็น feed ของ Best for Babes Foundation พูดถึงแคมเปญต่อต้านการโฆษณานมผสมในสถานพยาบาล มีตัวอย่างของการแจกผลิตภัณฑ์นมผสม พร้อมกับคู่มือการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
ในบทความนั้นมีการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ท่านหนึ่ง ซึ่งได้รับแจกของเหล่านี้ในระหว่างตั้งครรภ์ เธอให้ความเห็นว่า
"การกระทำแบบนี้เป็นพฤติกรรมที่เนียนมากของผู้ผลิตนมสม เนียนเสียจนกระทั่งทำให้บุคลากรทางการแพทย์จำนวนมาก หลงเชื่อว่าพวกเขาแค่ให้ตัวอย่างนมผสมเพื่อต้องการช่วยเหลือ ไม่ได้มีเจตนาที่จะขัดขวางหรือทำลายการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เลย
การแจกคู่มือการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ บอกเบอร์ติดต่อสถานที่ให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ พร้อมทั้งสนับสนุนว่า "นมแม่ดีที่สุด" ในทุกๆ การกระทำ
พวกเขา (ผู้ผลิตนมผสม) ทำราวกับว่าทุกอย่างที่พวกเขาทำนั้นก็เพื่อช่วยเหลือแม่ๆ ให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพียงแค่ว่าถ้าใครมีปัญหา ก็ให้นมผสมเป็นตัวช่วยยามจำเป็น (เท่านั้นเอง) แต่การมอบนมกระป๋องเหล่านี้ให้กับแม่ๆ จะช่วยสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างไร?"
คำให้สัมภาษณ์นี้ทำให้ Admin รู้สึกเหมือนถูกใครเขย่าให้ตื่นจากอาการสลึมสะลือ เพิ่งจะเข้าใจว่าบริษัทผู้ผลิตนมผสมเหล่านี้กำลังทำอะไรอยู่
จากประสบการณ์ในช่วง 7-8 ปี ที่ผ่านมา ด้วยความที่ขลุกอยู่กับเรื่องนี้ พบเจอ พูดคุยแต่กับคนที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ทุกๆ วัน ทำให้เผลอเข้าใจไปว่า สมัยนี้ความรู้เรื่องนมแม่หาง่าย การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
แต่แท้จริงแล้ว เป็นความเข้าใจที่ผิดมหันต์ เพราะเมื่อลองทบทวนอย่างจริงๆ จัง แล้วก็รู้ซึ้งว่าการที่แม่คนหนึ่งจะผ่านอุปสรรคของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไปได้จนสำเร็จนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ไม่เพียงแต่แม่มือใหม่ที่ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าจะเลี้ยงลูกด้วยนมอะไรเท่านั้นที่จะติดกับดักของผู้ผลิตนมผสม แม้แต่แม่ที่ตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมตนเอง ก็ยังพลาดติดกับดักนี้เช่นกัน หากไม่ได้รับการสนับสนุนและช่วยเหลือที่ดีพอจากคนที่มีประสบการณ์มาก่อน
หนังสือเล่มแรกที่เราทำเพื่อเผยแพร่คือ "ให้ลูกกินนมกระป๋อง แน่ใจหรือ" เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับแม่ตั้งครรภ์ ให้ตระหนักถึงความเสี่ยงของการให้ลูกกินอาหารทดแทนอื่นที่ไม่ใช่นมแม่
ตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบันนี้เราแจกไปได้เพียง 7 หมื่นกว่าเล่ม ซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับปริมาณของแจกของแถมที่ผู้ผลิตนมผสมทุกรายทุ่มให้กับแม่มือใหม่
เมื่อปีที่แล้ว เราเริ่มแจกหนังสือ "คู่มือคุณแม่นักปั๊ม ทำทุกอย่างเพื่อลูก" เพื่อช่วยให้แม่มือใหม่ที่เป็น Working Mom ได้มีการเตรียมตัวเพื่อที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่อไปได้ เมื่อต้องไปทำงาน
feedback ที่ Admin เห็นจากการแจกหนังสือทั้งสองเล่มนี้ (โดยที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยนึกเชื่อมโยงกับการตลาดของผู้ผลิตนมผสมเลย) คือ มีแม่จำนวนมาก (แม้ไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน แต่ Admin เชื่อว่าเกินกว่าครึ่ง) ไม่ได้เปิดหนังสืออ่านเลย หรือถึงอ่าน ก็อ่านไม่จบ เพราะคำถามต่างๆ ที่เราได้รับนั้น แสดงให้เห็นชัดว่า หนังสือเหล่านั้น ไม่ได้ถูกเปิดอ่าน
เมื่อไม่นานมานี้ Admin ได้มีโอกาสรู้จักสามีภรรยาคู่หนึ่ง มีการศึกษาและฐานะดี ทั้งคู่เตรียมตัวเป็นอย่างดีตั้งแต่ก่อนที่จะตั้งครรภ์ อ่านหนังสือทุกเล่ม เข้าร่วมอบรมครรภ์คุณภาพแทบจะทุกรพ. อ่านหนังสือคุณหมอสุธีราจบ ตั้งแต่ยังไม่คลอด รวมทั้งหนังสือที่เราแจกด้วย เลือกที่จะไปคลอดที่รพ. ศิริราช เพราะตั้งใจเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเต็มที่
Admin รู้สึกปลื้มมากกับการเตรียมพร้อมของสามีภรรยาคู่นี้ และคิดว่าคงเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างไม่มีปัญหา
เมื่อต้นเดือน Admin โทรไปหาผู้ที่เป็นภรรยา เพื่อสอบถามว่าเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นอย่างไร หลังจากการพูดคุย ทำให้ Admin หลุดจากกับดักความคิดของตัวเองที่ว่า สมัยนี้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไม่ยาก ขอให้รู้จักขวนขวายหาความรู้ก็พอ เพราะสามีภรรยาคู่นี้ แม้จะเตรียมตัวสอบเป็นอย่างดี อ่านตำราเป็นตั้งๆ แต่พอเข้าสนามสอบจริง
ปรากฎว่าข้อสอบออกมายากกว่าที่คิด ลูกมีปัญหา น้ำหนักลดมาก ตัวเหลือง ความวิตกกังวลต่างๆ ทำให้ลืมทุกสิ่ง ทุกอย่างที่เคยอ่านมา เคว้งคว้างและแก้ปัญหาไม่ถูกทาง ต้องพูดคุยแก้ความเข้าใจผิดกันเป็นเวลานาน นี่คือคนที่เตรียมพร้อมและตั้งใจแรงกล้าที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แล้วถ้าเป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนล่ะ
กลับมาที่การแจกคู่มือเลี้ยงลูกด้วยนมแม่พร้อมกับตัวอย่างนมผสม ผู้ผลิตจะได้อะไรจากการทำเช่นนี้ ได้รับความไว้วางใจจากแม่มือใหม่นั่นเอง
เมื่อเซลส์ขายนมผสมได้รับการโจมตีว่าไร้จรรยาบรรณ จากการยัดเยียดนมผสมให้กับแม่ที่กำลังเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อยู่ พวกเขาก็ฉลาดพอที่จะเปลี่ยนวิธีเข้าหา ด้วยการยกย่องชมเชยและสนับสนุนให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่อไป แต่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาพร้อมเสมอที่จะเป็นผู้ช่วยที่แสนดี หากคุณแม่มีปัญหาใดๆ กับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
ขนาดว่าเราแจกหนังสือคู่กันสองเล่ม เล่มหนึ่งบอกถึงอันตรายและความเสี่ยงของนมผสม อีกเล่มบอกวิธีเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ผลที่ได้กลับมายังช่วยให้แม่มือใหม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้สำเร็จไม่ถึงครึ่ง
เพราะฉะนั้นเนื้อหาในคู่มือการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่ผู้ผลิตนมผสมพิมพ์แจก จึงแทบไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะพวกเขารู้ดีว่า ในทุกๆ จังหวะตั้งแต่ลูกน้อยลืมตาดูโลก หมอ พยาบาล ปู่ ย่า ตา ยาย เพื่อนหรือผู้ร่วมงานที่เลี้ยงลูกด้วยนมผงมาก่อน ล้วนแล้วแต่เป็นพันธมิตรที่ผนึกกำลังกันเป็นอย่างดีที่จะทำให้แม่รู้สึกยากลำบาก และโดดเดี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
แม้จะมีคู่มือการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อยู่ในมือข้างหนึ่ง แต่มืออีกข้างก็มีผลิตภัณฑ์แสนวิเศษที่ได้รับการพัฒนา วิจัยและรับรองจากสถาบันที่มีชื่อเสียง โดยกุมารแพทย์และนักโภชนาการชั้นนำเป็นผู้แนะนำ
มันง่ายมากๆ สำหรับแม่ที่ประสบปัญหา แม่ที่ถูกกดดันจากคนรอบข้าง จะรู้สึกดีใจและขอบคุณที่มีนมผสมคอยช่วยเหลือแม่ๆ ที่โชคร้ายมีนมไม่พออย่างพวกเธอ ทำให้แม่ที่ต้องอาศัยนมผสม พร้อมเสมอที่จะต่อสู้และ defend ให้กับนมผสมยี่ห้อที่ตัวเองใช้ว่ามันดีวิเศษอย่างไร
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทุกวันนี้เราถึงมีสงครามย่อยๆ ระหว่างแม่ที่ให้นมแม่ และแม่ที่ให้นมผสมอยู่เรื่อยๆ ใน Social Media
Admin คลอดลูกคนแรกในปี 2002 อุ้มลูกกลับบ้านพร้อมกับนมชงแล้ว 2 ออนซ์ที่พยาบาลให้มาด้วย สามีเป็นคนเททิ้งเพราะพยาบาลบอกว่านมมาแล้ว
คืนนั้นลูกร้องตั้งแต่หนึ่งทุ่ม จนกระทั่งตีหนึ่ง ไม่ว่าจะพยายามบีบน้ำนมอย่างไร ก็ได้แค่ติดปลายช้อน คิดอย่างเดียวว่าลูกร้องเพราะหิว ถ้านมขวดนั้นยังอยู่ หรือมีร้านค้าแบบ 24 ชม.เหมือนทุกวันนี้ เราคงต้องป้อนลูกด้วยนมผสมแน่นอน หลังจากนั้น Admin จึงเริ่มหาความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างจริงจัง ในที่สุดก็ผ่านมาได้
ถ้าวันนั้นเรามีนมผสม เหตุการณ์มันจะแตกต่างไปหรือไม่ เป็นเรื่องที่ Admin เคยนึกสงสัย
ทำไมหมาป่าจึงต้องปลอมตัวเป็นคุณยายในนิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดง ทำไมแม่มดถึงต้องปลอมตัวเป็นคุณยายใจดีเอาแอปเปิลอาบยาพิษมาให้สโนว์ไวท์
การที่บริษัทนมผสมแจกคู่มือการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่คือ การแสดงความเป็นมิตร เพื่อทำให้คนที่ได้รับตายใจ ไว้วางใจว่าเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อแม่ที่ต้องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แต่อย่างใด เขากำลังใช้วิธีการเดียวกับหมาป่าและแม่มดในการหลอกผู้คนนั่นเอง
สำหรับคุณแม่ที่กำลังมีปัญหาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อยู่ในขณะนี้ อย่าลืมว่าการให้นมผสมไม่ใช่ทางออกเดียวของปัญหาที่คุณกำลังเผชิญอยู่
Admin ไม่ได้มีศักยภาพมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงอะไร แต่ Admin เชื่อในพลังของแม่ๆ ทุกคน หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ผ่านความยากลำบากและอุปสรรคของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มาได้ คุณคงรู้ดีว่าการที่ลูกได้กินนมแม่นั้นเป็นรางวัลพิเศษสุดสำหรับคนเป็นแม่อย่างไร
อย่าลืมที่ช่วยเหลือแม่คนอื่นๆ เท่าที่จะทำได้ ยื่นมือเพื่อฉุดคนที่ล้มลงให้ลุกขึ้นยืนและก้าวไปพร้อมๆ กัน ให้กำลังใจและอย่าใช้ถ้อยคำที่เป็นการทำร้ายกัน แม้ว่าวิธีการเลี้ยงลูกของเราจะต่างกัน แต่เราก็เป็นแม่เหมือนๆ กัน
ปล. รูปบนคือหนังสือที่แจกในเมืองไทย สองรูปล่างคือของที่แจกในสหรัฐอเมริกา หนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ยังไม่ยอมรับหลักเกณฑ์สากลว่าด้วยการตลาดอาหารเสริมและอาหารทดแทนนมแม่ของ WHO