
อย่าบอกว่าดีเหมือนกัน คนเขียนไม่ได้เป็นแม่ และคงไม่มีโอกาสได้เป็นแม่ในชาตินี้ แต่ตกกระไดพลอยโจนมารับรู้เรื่องนมแม่ เพราะพี่สาว (ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยพูดว่า ชาตินี้จะไม่มีลูก เพราะการมีลูกเป็นการสร้างกรรมต่อเนื่องต่อไป พี่สาวคนนี้ปัจจุบันเป็นแม่ลูกสาม) มีลูกและพยายามเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ก็ประสบปัญหาตามประสาแม่มือใหม่ ก็พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ถึงพี่สาวจะไม่ใช่ Gen-X แต่ก็ยังไม่ตกคลื่นเทคโนโลยีซะทีเดียว เลยยังรู้จักหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ทบ้าง สมัยเมื่อ ๗-๘ ปีที่แล้วข้อมูลในเว็บภาษาไทยไม่ค่อยได้ประโยชน์อะไรมาก แต่ข้อมูลภาษาอังกฤษนี่มีเพียบ อ่านแล้วก็อยากจะเอามาแบ่งปันให้คนอื่นได้อ่านมั่ง ก็เลยมาบังคับให้คนเขียนช่วยแปลให้ ตอนแรก ๆ ก็อ่าน ๆ แปล ๆ ไปงั้นเอง ตอนหลังอ่านเยอะ ๆ เข้าก็ชักอิน เลยกระโดดเข้าสู่สงครามน้ำนม เป็นนักรบนมแม่ ที่เห็นโฆษณานมผสม/นมผงในทีวีหรือนิตยสารทีไร ก็อยากยิงทิ้ง และรู้สึกของขึ้นตลอดเวลา หลังจากนั้นก็พยายามชักชวนให้เพื่อนหรือคนรู้จักที่มีลูกให้ลูกกินนมแม่ คำตอบส่วนใหญ่ที่ได้คือ ก็ตั้งใจจะให้กินนะ แต่นมไม่พอ พอถามกลับไปว่าคิดไปเองหรือเปล่า แม่ทุกคนต้องมีนมพอให้ลูกกิน มนุษย์เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ถ้าไม่มีนมพอให้ลูกกิน มนุษยชาติต้องสูญสิ้น เขาตอบกลับมาว่า คนที่ไม่เป็นแม่อย่างคนเขียน ก็พูดได้แต่ตามทฤษฎีนั่นแหละ ทางปฏิบัติมันไม่เป็นอย่างนั้น ทุกวันนี้แม่ร้อยละเก้าสิบเก้า บอกว่านมไม่พอ ยังไม่เคยเจอใครบอกว่า ฉันนมเยอะมวากกกก... (คนเขียนเข้าใจเอาเองว่า ความเชื่อเรื่องนมไม่พอเป็นอุปทานหมู่ ที่บริษัทนมผงทำให้เกิดขึ้น) คนเขียนมีเพื่อนคนหนึ่ง หน้าอกเล็กมากถึงมากที่สุด เลี้ยงลูกสองคนด้วยนมแม่ล้วน ๆ สิ่งที่เพื่อนท่องไว้ตอนคลอดลูกคนแรกคือ โลกนี้ไม่มีนมผง เพราะฉะนั้นเพื่อนก็จะทำทุกวิถีทางที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แล้วก็ทำได้สำเร็จ พอเล่าเรื่องนี้ไป ก็จะยังมีคนแย้งว่า มันแล้วแต่คน คนที่มีน้ำนมก็เลี้ยงได้ แต่ฉันไม่มีนมจริง ๆ พยายามถึงที่สุดแล้ว ก็ยังไม่มี/ไม่พอจริง ๆ คนไม่เป็นแม่ (อย่างเธอ) ไม่เข้าใจหรอก บางคนก็บอกว่าหัวนมบอด/บี้/แบน ลูกไม่ยอมดูด (คำตอบในทางทฤษฎี คือ ลูกของคุณเกิดมาครั้งแรก เขาไม่มีทางรู้หรอกว่าหัวนมคนอื่นเป็นยังไง แต่หัวนมของแม่คือแหล่งอาหารที่ประเสริฐที่สุดของเขา และเป็นหัวนมที่สมบูรณ์แบบบที่สุดสำหรับเขา เพราะฉะนั้นอย่าให้คนอื่นมาบอกว่าหัวนมคุณผิดปกติ ส่วนคำตอบในทางปฏิบัติ พวกคุณแม่ ๆ ตอบกันเอาเองนะคะ) สิ่งที่คนไม่เคยเป็นแม่อย่างคนเขียนอ่านมาไม่รู้กี่ร้อยรอบ (แต่คิดว่าคนเป็นแม่จริง ๆ อาจจะได้ยินน้อยเกินไป) คือ การให้ลูกกินนมแม่เป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ เป็นทักษะที่ต้องฝึกฝน ไม่มีใครเกิดมาแล้วทำเป็นเลย ทักษะนี้แม่ต้องเรียนรู้และลูกต้องเรียนรู้ ลองนึกถึงทักษะอื่น ๆ ในชีวิตประจำวัน (เช่น การทำกับข้าว เรียนภาษา ขับรถ ขี่จักรยาน ฯลฯ) บางคนมีพรสวรรค์ ทำครั้งแรกก็ทำได้ดีเลย บางคนต้องการการฝึกฝนมาก ๆ บางคนทำตั้งนานแล้วก็ยังทำได้ไม่ดี สำหรับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ถ้าแม่ลูกคู่ไหนที่มีทักษะดี ก็จะไม่มีปัญหามาก แต่ถ้าแม่หรือลูกเรียนรู้กันช้า ก็เกิดปัญหาขึ้น ก็ต้องพยายามแก้ปัญหาให้ได้ ในโลกปัจจุบันที่ใคร ๆ ก็รู้ว่ามีนมผงสำหรับทดแทนนมแม่ มีคนจำนวนมากที่คิดว่านมผงก็ดีพอ ๆ กับนมแม่ ยิ่งไปกว่านั้นมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่คิดว่านมผงดีกว่านมแม่ (นี่ก็อุปทานหมู่ที่สร้างขึ้นโดยโฆษณาหรูหราของบริษัทนมผง) เมื่อแม่เริ่มรู้สึกว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยากลำบากหรือเป็นปัญหา "ทางแก้ปัญหา" อัตโนมัติ คือ ให้ลูกกินนมผง ถ้าพ่อแม่ได้รับข้อมูลที่แท้จริงว่ามีอันตรายมากแค่ไหนที่มาพร้อมกับนมผง
พ่อแม่จะลังเลมากขึ้นที่จะให้ลูกกินนมผง พ่อแม่จะพยายามมากขึ้นในการแก้ปัญหาการให้ลูกกินนม พ่อแม่จะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ คุณแม่ที่ล้มเหลวจากการให้ลูกกินแม่ อาจจะมีคำพูด (ปลอบใจตัวเอง) ว่า อยากให้ลูกกินนมแม่มาก ๆๆๆๆ แต่ให้ไม่ได้ ไม่มีนม นมไม่พอ ตอนนี้ให้ลูกกินนมผง ลูกก็แข็งแรงดี พัฒนาการดี ไม่ป่วยง่าย แทบไม่ต่างจากเด็กที่กินนมแม่เลย ถ้าคุณแม่อยากให้ลูกกินนมแม่ และพยายามจนถึงที่สุดแล้ว แต่ให้ไม่สำเร็จ คนเขียนก็ขอแสดงความเสียใจและเห็นใจที่พวกคุณโชคร้าย แต่พวกคุณไม่ได้โชคร้ายที่มีนมไม่พอ (เพราะต่อให้โดนด่าแค่ไหน คนเขียนก็ยังจะย้ำว่า มนุษย์เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เพราะฉะนั้นต้องมีนมให้ลูกกิน) พวกคุณโชคร้ายที่ไม่มีโอกาสได้เริ่มต้นเรียนรู้การให้นมลูกอย่างถูกต้อง โชคร้ายที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือมากพอเมื่อเกิดปัญหา โชคร้ายที่ไม่ได้รับข้อมูลมากพอในการตัดสินใจ โชคร้ายที่คุณอยู่ในยุคที่นมผงหาได้ง่ายกว่าเดิม (แต่ไม่ได้ราคาถูกกว่าเดิมนะ เพราะเราคงเคยได้ยินข่าวแม่ลูกอ่อนไปขโมยนมผงในห้าง) จนทำให้ล้มเหลวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ในขณะเดียวกันคนเขียนก็ต้องขอแสดงความยินดีกับคุณแม่ที่สามารถพูดได้ว่า "ลูกกินนมผงก็แข็งแรงดี พัฒนาการดี ไม่ป่วยง่าย" ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดี โชคดีที่ลูกของคุณแม่สามารถรับนมผงได้โดยไม่มีปฏิกริยา ไม่ต้องลองผิดลองถูกเปลี่ยนนมไม่รู้กี่ยี่ห้อ ไม่ต้องเทียวเข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาลเพราะป่วยกระเสาะกระแสะ แต่คนเขียนไม่เห็นด้วยเลยที่จะบอกว่า ลูกของคุณที่กินนมผง "แทบไม่ต่างจากเด็กที่กินนมแม่เลย" เราไม่มีทางเปรียบเทียบทารกที่กินนมแม่กับนมผงได้อย่างแท้จริงเพราะเราไม่สามารถทำการทดลองที่ควบคุมได้กับทารก เด็กแต่ละคนมีทางเลือก คือ กินนมแม่ กินนมผง หรือกินนมผง+นมแม่ เป็นทางเลือกแบบเลือกแล้วเลือกเลย คุณแม่จะไม่มีทางรู้ว่าลูกตัวเองจะ "แตกต่าง" ไปจากนี้มากแค่ไหน จะแข็งแรงมากขึ้นไปอีก มีพัฒนาการดีมากขึ้นไปอีกแค่ไหน ถ้าได้กินนมแม่ล้วน ๆ ถ้าจะทำการทดลองกันจริง ๆ การทดลองกับกับเด็กฝาแฝดน่าจะให้ผลได้ใกล้เคียงความจริงมากที่สุด โดยให้แฝดคนหนึ่งกินนมแม่ อีกคนกินนมผง แต่ใครจะทำการทดลองอย่างนั้น คนเป็นแม่คงไม่ยอมทดลองกับลูกตัวเอง แต่ไม่ต้องทดลองอย่างนั้น คนเขียนก็มีความเชื่อส่วนตัว (ที่มีอคติต่อนมผสมอย่างเห็นได้ชัด) ว่าผลจะออกมาว่าเด็กที่กินนมแม่จะเหนือกว่าอยู่ดี ที่เขียนมายืดยาวขนาดนี้ คงขัดเคืองใจคนให้ลูกกินนมผงมากกก แต่อยากบอกว่าที่พลาดไปแล้วก็พลาดไป ถ้าหากมีโอกาสแก้ตัว (ไม่ว่าจะกับตัวเองหรือคนรอบข้าง) อย่ายอมเชื่อง่าย ๆ ว่านมผงหรือนมแม่ก็ดีเหมือนกัน อยากให้ลองหลอกตัวเองดูว่า โลกนี้ไม่มีนมผง และขอให้ทุกคนไม่ต้องโชคร้ายจนล้มเหลวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อีกครั้ง... จากใจคนไม่ได้เป็นแม่ หมายเหตุ : บทความจาก บล็อกนมแม่ นี้เกิดจากความเศร้าเมื่อคนเขียนได้อ่าน กระทู้จากใจแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมกระป๋อง ค่ะ |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (139422) | |
Web นี้ดีนะคะ ทุกวันนี้พยายามส่งต่อให้เพื่อน ๆ อ่านด้วย แต่บางคนเขาก็ไม่ชอบ เพราะบทความบางเรื่องทำให้เขารู้สึกว่าการเลี้ยงนมผสมนั้นแย่มาก ๆ แต่ก็จะพยามส่งนะคะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น nss วันที่ตอบ 2010-07-02 08:51:03 |
ความคิดเห็นที่ 2 (139440) | |
เห็นด้วยค่ะ นมแม่ดีจริงๆ ค่ะ บางครั้งได้ยินน้องๆ ที่ทำงานด้วยกัน บอกว่า เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แค่ 2 เดือน น้ำนมหมด เพราะลูกไม่พอกิน กินไม่อิ่ม จึงให้นมผสม ทีนี้ น้ำนมแม่ ก็แห้ง ซิคะ นึกอยู่ในใจนะ ว่าทำไมชอบพูด ว่า นมไม่พอ จึงบอกไปว่า เพราะไม่ได้กระตุ้น รึเปล่า ปั๊มไม่เป็นเวลา น้ำนมจึงหมด น้องบอกว่า สงสัยจะ ใช่ และดิฉัน ก็เป็นคนนึงที่เป็นตัวตั้งตัวตี สนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เต็มที่ค่ะ ก็มักจะคอยกระตุ้น น้องๆ หลังคลอดทั้งหลายให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ก็จะช่วยเป็นแรงกระตุ้นอีก 1 คนนะคะ เพราะดิฉันมี สิ่งเปรียบเทียบ ระหว่างลูกคนแรก กับ คนที่ 2ค่ะ แตกต่างกันค่ะ ใครว่า นมแม่สารอาหารน้อยกว่า นมผง ดิฉัน เถียงขาดใจเลยค่ะ แถม ดิฉันก็มีข้อมูลสนับสนุนด้วย ขอบคุณ "จากใจคนไม่ได้เป็นแม่" มากๆ ค่ะ ที่เห็นคุณค่าของนมแม่ เป็นกำลังใจให้ค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แม่น้องซีกะน้องซัน วันที่ตอบ 2010-07-02 10:55:08 |
ความคิดเห็นที่ 3 (139441) | |
ตอนนี้ลูกชายอายุ 1 ขวบ 9 เดือนแล้วค่ะ แต่ยังกินนมแม่อยู่ และขอบอกว่าน้ำนมยังคงมีอยู่มากค่ะ ก้อมีวิธีดูแลตัวเองคือกินอาหารที่มีประโยชน์ ไม่เคลียด และมีความตั้งใจที่จะให้ลูกกินนมแม่จนถึง 2 ขวบให้ได้ค่ะ แต่ก็กังวลว่าพอถึงเวลาลูกจะยอมอดได้ไหม? และก่อนน้ำนมจะแห้งไปเองเราต้องทรมาน กับอาการนมคัดไปนานไหม ?ใครเคยผ่านเวลานั้นมาแล้วแนะนำด้วยค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แม่น้องเต็งหนึ่ง (chu-dot-tor-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-07-02 11:09:24 |
ความคิดเห็นที่ 4 (139457) | |
ตอนนี้เป็นคุณแม่ลูก 2 ค่ะ ลูกคนแรกเลี้ยงด้วยนมผง เพราะให้เหตุผลตัวเองว่านมไม่พอ ลูกหิว แต่ปัญหาที่ตามมาเยอะ คือ ต้องกังวลตลอดเวลาเรื่องการถ่ายของลูก ถ้าวันหนึ่งไม่ถ่ายก็กลัวว่าน้องท้องจะผูก (เคยท้องผูก อึเป้นกระสุน รูก้นฉีกมีเลือด) ถ้าถ่ายบ่อยก็กลัวน้องท้องเสีย เวลาลูกร้องก็ไม่แน่ใจว่าหิว หรือ ปวดท้อง ตอนนี้แม้ว่าน้องจะโตแล้ว แต่ก็ยังคงมีปัญหาเรื่องขับถ่าย ทั้งที่กินผักและชอบกินน้ำมาก พอท้องคนที่ 2 ตั้งใจมากจะให้นมแม่ ตอนแรกก็เกือบท้อว่าตัวเองจะน้ำนมไม่พอ แต่ก็ฝืนไม่ให้น้องกินนมผง ให้ดูดนมแม่ไปเรื่อย ๆ ผลปรากฎว่านมก็มาตลอด มาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ น้องถ่ายดีมาก ไม่ร้องโยเย เลี้ยงง่าย ตัวแม่เองก็ไม่เครียด ยืนยันนมแม่ดีกว่าค่ะ อยากเป็นกำลังใจให้คุณแม่ทุกคนพยายามเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น tiffy วันที่ตอบ 2010-07-02 14:36:11 |
ความคิดเห็นที่ 5 (139476) | |
โอโห เขียนได้โดนใจมากๆ ค่ะ ดิฉันเป็นอีกคนนึงที่ตั้งใจในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 100% ตอนนี้ลูก 1 ขวบ กับอีกเกือบๆ 8 เดือน แล้วค่ะ นมแม่ล้วนค่ะ แล้วก็นมเยอะมากๆ ด้วยค่ะ ไม่มีวันหมด เวลาไปอ่านเจอคนที่บอกว่า "ตอนนี้ให้ลูกกินนมผง ลูกก็แข็งแรงดี พัฒนาการดี ไม่ป่วยง่าย แทบไม่ต่างจากเด็กที่กินนมแม่เลย" | |
ผู้แสดงความคิดเห็น janister วันที่ตอบ 2010-07-02 21:21:02 |
ความคิดเห็นที่ 6 (139707) | |
เตอนนี้ท้องได้ 4 เดือนแล้ว เพิ่งเข้ามาอ่านเป็นครั้งแรกค่ะ ตั้งใจไว้เลยค่ะว่าจะต้องเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้ได้ ขอบคุณมาก ๆ นะคะ ที่แบ่งปันความรู้ ได้บุญมาก ๆ ค่ะ ขออนุโมทนา ขอตัวไปไล่อ่านตั้งแต่กระทู้แรก ๆ ก่อนนะคะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น น้ำหวาน วันที่ตอบ 2010-07-06 12:57:26 |
ความคิดเห็นที่ 7 (139717) | |
เลี้ยงลูกด้วยนมแม่มาสองปีกว่าแล้ว โดนครหาตลอดว่าลูกตัวเล็ก ขาดอาหาร เพราะลูกหนักสิบเอ็ดกิโล แต่แข็งแรงและอารมณ์ดีมาก ตัวเองเลยต้องยืนยันว่ามันเป็นขนาดของเขาก็พ่อแม่ตัวเล็ก เรื่องหย่านมก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหาเพราะเขาเริ่มมีกิจกรรมมากขึ้น ตอนกลางวันแทบไม่ได้กินนมเลย จะมีขอนมกล่องซึ่งก็ให้เป็นนมข้าวโอ๊ต บางคืนถามเขา ก็ไม่กิน เลยคิดว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่เขาจะเลิกกินได้เอง แม่เองซะอีกที่พยายามเสนอเพราะยังไม่อยากให้เลิกด้วยคิดว่านมแม่ยังไงก็ดีกับลูก คิดว่าถึงเวลาโตขึ้นคุยกันได้เขาจะไม่อยากกินไปเองแหละค่ะสำหรับคนที่กลัวว่าจะมีปัญหาการหย่านม เพราะเราไม่เคยกังวลกลายเป็นลูกไม่ค่อยกินเอง ตอนนี้เลยคิดหนักเพราะไม่อยากให้ลูกกินนมวัวเลย ก็ต่อสู้เพื่อนมแม่ตลอดเหมือนกัน ถ้าลูกโตแล้วหันไปกินนมวัวนี่รู้สึกไม่ดีเลยไม่แน่ใจว่าถ้าเลิกนมแม่ต้องเสริมนมวัวเหมือนที่ใครๆเขาทำกันหรือเปล่า ถ้าลูกได้นมแม่มาสองปีสี่เดือนแล้ว เราไม่เสริมนมวัวหลังจากเลิกนมแม่จะเป็นไรหรือเปล่าคะ ใครมีประสบการณ์ช่วยแชร์ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แม่น้องวิญ วันที่ตอบ 2010-07-06 15:42:52 |
ความคิดเห็นที่ 8 (140300) | |
เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ค่ะตอนนี้น้องสี่เดือนกว่าแล้วค่ะ ตอนแรกมีปัญหาเรื่องการให้นมลูกมากคือ หัวนมสั้นต้องให้หัวนมยางแบบคลอบสวม ก่อนให้ลูกดูด น้ำนมก็ยังไม่ค่อยมีเพราะน้องดูดลำบาก พอเข้าหาเต้าดูดไม่ได้ก็หลับอย่างเดียวเลย แต่ละครั้งกว่าจะให้ลูกดูดได้ต้องใช้ เวลาประมาณสิบวิได้ ตอนหลังเลยใช้ที่ดึงหัวนมก่อนให้นมทุกครั้ง พอกลับมาบ้านก็ปั๊มนมเพื่อให้หัวนมยาวขึ้น ได้ผลจริงๆค่ะ ดีใจมากที่ ได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ลูกจะได้มีภูมิต้านทาน พี่สาวบอกถ้าเป็นบางคนอาจเลิกล้มความตั้งใจไปแล้วก็ได้ แต่เราตั้งใจแต่แรกแล้วยังไงก็จะ เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เลยหาข้อมูลเกี่ยวกับการกระตุ้นน้ำนม อาหารกระตุ้นน้ำนม การปฏิบัติตัวให้มีน้ำนมเยอะๆ เราก็พยายามทำแทบทุกทาง เพราะไม่ว่านมสูตรไหนก็คงไม่ดีเท่านมแม่หรอกเราว่านะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แม่น้องเจอรี่ วันที่ตอบ 2010-07-17 11:31:37 |
ความคิดเห็นที่ 9 (140624) | |
เห็นด้วยกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นอย่างยิ่งเลย ธรรมชาติสร้างมาคู่กันคงไม่มีอะไรที่จะมาดีกว่าแน่นอน ถ้าเปรียบเทียบกับรถยนต์ นมแม่นี่อะไหล่แท้เลยนะ เพราะว่าเค้าสร้างมาคู่กันทำมาแบบเดียวกัน แต่ถ้าเป็นนมอื่น ก็เหมือนกับอะไหล่เทียมนั่นแหละ ทำมาเลียนแบบ แต่ว่าคุณภาพยังงัยก็สู่ไม่ได้ จิงมะ แต่ก็อีกนั่นแหละ "การทำความดีมันทำได้ยาก" อุปสักมันเยอะ หรือ มีมารมากวนเยอะ การที่ทำให้คุณแม่ให้นมลูกก็เหมือนกัน มีอุปสักเยอะ ต้องใช้ความอดทนสูง ความพยายามสูง กว่าจะสำเร็จ...แต่ว่าผลที่ได้มันคุ้มค่า เห็นมาเยอะเลย ที่เห็นคนอื่นทำในทางที่ผิด (ให้นมอื่น)ก็ไปทำตามซะงั้น แล้วก็พูดว่า "ก็ทีคนนั้นเค้ายังทำเลย"ลูกเค้าก็ดูแข็งแรงดีนี่คุ้นๆมั้ย เพราะว่าเห็นเค้าสบาย ก็เลยอยากสบายบ้าง ทำไมไม่ลองคิดไปทำตามอย่างคนที่เค้าทำถูกดูบ้างก็ไม่รู้นะ อาจเป็นเพราะว่ามันทำได้ยากกว่า เหนื่อยกว่า....เฮ้อ ทำดีนี่มันทำยากจริงๆ................
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น พ่อน้องP&P วันที่ตอบ 2010-07-25 04:00:34 |
ความคิดเห็นที่ 10 (148934) | |
เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ ไม่ได้บอกว่าต้องกินนมผสม แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ จะทำอย่างไร เหนือสิ่งอื่นใด ควรให้ความสำคัญกับลูกค่ะ มีคุณแม่ท่านไหนมีความเห็นไหมคะ ถ้าน้ำนมมไค่อยมา ปล่อยให้หิวไปก่อนหรือคะ แล้วถ้าต้องไปทำงานนอกบ้าน ความจำเป็นที่ต้องเลี้ยงชีพ ยิ่งบางคนต้องทำงานต่างจังหวัด ลูกอยู่คนละที่ ต้องเลิกทำงาน หรือว่าต้องจ้างพี่เลี้ยงมาเลี้ยงลูกหรืออย่างไรคะ ถามในฐานะคนเป็นแม่ และยังมองไม่เห็นทางเลือกที่ว่าจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวได้อย่างไร เมื่อต้องทำงานนอกบ้าน เราไม่ได้อยู่บ้านเป็นแม่บ้านอย่างเดียวน่ะค่ะ รบกวนขอคำแนะนำ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น kero_kung วันที่ตอบ 2011-04-16 14:58:55 |
ความคิดเห็นที่ 11 (149233) | |
ตอบคุณ kero_kung เจตนาของผู้เขียนก็ไม่ได้ห้ามเลี้ยงลูกด้วยนมผสมนะคะ เพียงแต่ต้องการชี้ให้ผู้อ่านได้ตระหนักว่า "นมแม่" และ "นมผสม" นั้นไม่มีทางเหมือนกันได้ มีเด็กที่กินนมผสมแล้วแข็งแรง สุขภาพดี ฉลาดเฉลียวอยู่มากมาย ในทางกลับกันก็มีเด็กที่ได้รับความทุกข์ทรมาน และอันตรายจากการกินนมผสมก็ไม่น้อย ผู้เขียนไม่ต้องการให้มีการชี้นำในทางผิดๆ ว่า การเลี้ยงลูกด้วยนมผสมนั้นดีไม่ต่างจากนมแม่ต่างหากค่ะ หากครอบครัวใดมีความจำเป็นต้องใช้นมผสมก็ต้องใช้ค่ะ หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ใช้เพราะความจำเป็น กับใช้เพราะคิดว่ามันดีเหมือนนมแม่นี่มันต่างกันค่ะ ถ้าจำเป็นเราก็ยอมเสี่ยงได้ แต่ถ้าไม่จำเป็น เราก็ไม่ควรเสี่ยง ถูกต้องไหมคะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2011-04-24 10:00:40 |
ความคิดเห็นที่ 12 (150107) | |
มีอยู่วันนึงนั่งคุยกะแม่ ถามแม่ว่าตอนเด็กๆ ให้กินนมถึงกี่เดือน แม่บอกว่า 6 อาทิตย์ หลังจากนั้นก็ให้อาหารเสริมตามตำรา ผมก็บ่นๆว่าทำไมให้กินน้อยจัง แล้วถามต่อว่าน้องชายล่ะกินกี่เดือน แม่บอกเหมือนกัน 45 วัน อันนี้คงเป็นของคนรุ่น 30 ปีที่แล้วมั้งครับ เนื่องจากที่บ้านใกล้ทะเล พวก กุ้ง หอย ปู ปลา น้ำจืด ไม่ได้ทานเลย FYI แม่เป็นพยาบาลวิชาชีพ ซี8 กำลังจะเกษียณปีหน้า มีผมตอนอายุ 24 น้องชายอายุห่างกัน 3ปี ตอนประถมไม่เคยสอบได้ที่1 ได้แต่ที่ 2-3 ไอเจ้าคนที่สอบได้ที่1 ตอนนี้เป็นหมอที่ศิริราช ระดับมัธยม เรียนห้อง king มาตลอด ( ม ปลายในห้องติดหมอ 5 วิศวะ 18 บัญชี 6 และไม่มีใคร ent ไม่ติด) จบวิศวะ เกรด แค่เกือบ 3 เพราะ study hard , play harder ทดสอบ IQ ของ www.iqtest.dk ได้ 133 ( คุณแม่ทั้งหลาย ลองเข้าไปทำดูเล่นๆ ก็ได้ครับ ) ร่างกายแข็งแรงดี ไม่เคยเจ็บป่วยต้องนอน รพ นอกจาก เป็นไข้เลือดออก เล่นกีฬามาตั้งแต่เด็กๆ เป็นนักรักบี้ของ มหาลัย ส่วนน้องผมเป็นเด็กเรียนดีเช่นกัน จบวิศวะเหมือนกัน แต่ดูมันจะแข็งแรงกว่าผม วิ่งเร็วกว่าผม ใครที่ให้นมลูกได้น้อย ผมว่าไม่ต้องเครียดมากก็ได้มั้งครับ มันมีปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่าง อ่านๆดูเหมือนเกทับกันว่า ใครกินนมแม่นานกว่า คำถาม ถ้าแม่ฉลาด IQ สูง ลูกกินนมแม่แล้วจะฉลาด ? ตอบไม่แน่ ถ้าแม่ไม่ฉลาด IQไม่สูง ลูกกินนมแม่แล้วจะฉลาด ? ตอบไม่แน่ มันมีปัจจัยอื่นๆ อีก เกี่ยวกับ IQ ของคน ส่วนตัวมองว่า ถ้าโตมากแล้วยังกินนมแม่อยู่ จะทำให้เด็กอิ่ม หรือ ทำให้ ทานอาหารอื่นๆ ที่มีประโยชน์ ได้น้อยลงอย่างนี้หรือเปล่า
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น scipionyx II วันที่ตอบ 2011-08-31 19:43:55 |
ความคิดเห็นที่ 13 (150155) | |
ได้อ่านความคิดเห็นของคุณ Scipionyx II แล้ว อดไม่ได้ที่จะขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวบ้าง ในฐานะที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน ที่บอกว่าในฐานะที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน ก็เพราะพวกเราเป็นได้แค่คุณพ่อ และไม่มีโอกาสในกิจกรรมที่กำลังพูดถึงกันอยู่ในที่นี้เลย หมายถึงการให้นมตัวเองแก่ลูกตัวเองน่ะครับ ก็เลยไม่ได้มาแสดงความคิดเห็นแบบดี๊ด๊า ด้วยความภูมิใจ ว่าฉันทำสำเร็จ หรือ ตีโพยตีพาย ว่าทำไม่ได้แล้วไม่เห็นเป็นไงเลย... อันนั้นปล่อยให้เป็นความคิดเห็นของคนที่เป็นแม่ละกันนะครับ ส่วนผู้ชายอย่างเรา มาพูดกันตามมุมมองที่คุณว่ามาดีกว่านะครับ เท่าที่อ่านบทความด้านบนนี้ ผมเองเห็นว่าเจ้าของบทความก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะบอกว่าเด็กที่ได้รับนมแม่เต็มที่เท่านั้น ที่จะเติบโตเป็นคนที่ฉลาดที่สุด และแข็งแรงที่สุด ประสบความสำเร็จสูงสุด เลยนะครับ แต่เจ้าของบทความเพียงแค่พยายามบอกกล่าวให้เราได้เห็นและตระหนักว่า นมผสมไม่ได้ดีเทียบเท่ากับนมแม่อย่างที่ผู้ผลิตนมผสมพยายามโฆษณาชวนเชื่อกันอยู่ในขณะนี้ เพื่อไม่ให้คนที่สามารถที่จะให้นมแม่แก่ลูกด้วยตัวเอง ไม่ไปหลงเชื่อตามคำโฆษณาเหล่านั้น ส่วนความเห็นของผมนั้น ผมคิดว่าการที่มนุษย์เราเติบโตจากวัยแรกเกิด จนโตเต็มวัย มันมีปัจจัยหลายอย่าง ที่ทำให้มนุษย์เราเป็นคนฉลาดมากหรือฉลาดน้อย สุขภาพดีมาก หรือสุขภาพดีน้อย ซึ่งปัจจัยที่ว่าก็มีได้ตั้งแต่ ดีเอ็นเอ... อาหาร... สภาพแวดล้อม... การเลี้ยงดู... โอกาส... และอื่นๆอีกมากมาย ดังนั้นการที่คุณ Scipionyx II ได้รับนมแม่น้อย แต่อาจได้รับปัจจัยอี่นๆดีพอสมควร คุณก็เลยมีไอคิวที่ดี มีสุขภาพดี และประสบความสำเร็จมากตามความคิดของคุณ ซึ่งก็เป็นเรื่องน่ายินดี เนื่องจากคนเราหนึ่งชีวิต สามารถเดินทางชีวิตได้เพียงหนเดียว และมีโอกาสได้รับปัจจัยต่างๆดังที่ว่าได้เพียงครั้งเดียว แต่หากผมสามารถบันทึกชีวิตคุณที่ผ่านมานี้ไว้ได้.... และหากผมยังสามารถพาคุณย้อนเวลากลับไปสู่วันทีคุณกำเนิดมาได้... และถ้าผมยังสามารถเกลี้ยกล่อมหรือให้ความช่วยเหลือคุณแม่คุณจนสามารถให้นมแม่แก่คุณได้ตามที่ควรจะเป็น.... ได้แล้วละก็ คุณอาจไม่เชียนแสดงความคิดเห็นอย่างนี้ก็เป็นได้ ขอให้มีความสุขครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พ่อลูกสาม วันที่ตอบ 2011-09-06 22:37:33 |
ความคิดเห็นที่ 14 (150431) | |
เห็นด้วยกับบทความดังกล่าวค่ะ ดิฉันเป็นพยาบาลเด็กประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เห็นเด็กป่วยหนักมากมายมีบางรายแม่ไม่ได้ตระหนักที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ก็ไม่ได้บีบนมไว้ พอเด็กเริ่มกินจึงต้องกินนมผสมเด็กหลายคนแพ้ บ้างก็ท้องอืดมีปัญหา แต่เด็กคนไหนได้นมแม่ปัญหาเรื่องการแพ้พบน้อย และการขับถ่ายดี ซึ่งจะเห็นความแตกต่างระหว่างการให้นมแม่กับนมผสมอย่างเห็นได้ชัดในเด็กป่วย ดังนั้นจึงสนับสนุนการให้เด็กไทยทุกคนกินนมแม่ ตอนนี้ตัวเองก็เป็นแม่ลูกหนึ่งแล้ว น้ำนมเยอะมาก เคยแบ่งนมตัวเองให้กับแม่เด็กแถวบ้านที่น้ำนมน้อยด้วย ลูกก็แข็งแรงดียังไม่เคยป่วยเลย พัฒนาการก็ดี เคยแนะนำแต่คนอื่นเรื่องการให้นมแม่ตอนนี้มาเป็นแม่เสียเองก็เลยไม่มีปัญหาเรื่องน้ำนมไม่พอ แล้วก็เป็นแม่ที่ลูกอยู่ต่างจังหวัด ต้องนั่งรถโยสารเดินทางไปส่งนมลูกทุกสัปดาห์ อาจจะลำบากแต่เพื่อลูกอะไรก็ทำได้ตั้งใจว่าจะให้ลูกกินนมตัวเองนานที่สุดเท่าที่เขาอยากจะกิน เพราะ"ลูกคนไม่ใช่ลูกโค ควรเติบโตด้วยนมคน" ค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แม่น้องพีช วันที่ตอบ 2011-10-29 14:25:26 |
[1] |