บทความโดย พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ https://www.doctorbreastfeeding.com/
คุณแม่ท่านหนึ่ง ได้กรุณาแชร์เรื่องราว ความเข้าใจผิดเรื่องนมแม่ของบุคลากรทางการแพทย์ดังนี้
หลังจากตรวจโรคเสร็จแล้ว
หมอ : เดี๋ยวจะจ่ายยาให้ไปกินนะครับ
คุณแม่ : เอ้อ คุณหมอคะ พอดีต้องเรียนว่า ยังให้นมน้องอยู่นะคะ
หมอ : อ้าวเหรอ...น้องอายุเท่าไรแล้วครับ
คุณแม่ : ใกล้ขวบแล้วค่ะ
หมอ : น่าจะเลิกได้แล้วนา นมแม่ตอนนี้ไม่มีประโยชน์แล้วนะ น้องก็อายุเยอะแล้วด้วย
(คุณแม่ : เอ๊ะ...แต่กระทรวงสาธารณสุขรณรงค์ให้นมแม่ครบ 2 ปีเชียวนะคะ อย่างนี้แสดงว่า กระทรวงโกหกสิคะ คุณหมอดูนี่สิคะ ใบรณรงค์นมแม่ 2 ปี อิชั้นพกติดตัวเลยนะคะเนี่ย โห อย่างนี้ไม่ถูกแล้ว กระทรวงทำอย่างนี้ เด็กไทยก็โง่หมดสิ ขาดสารอาหาร ไม่ได้การละ อิชั้นจะให้ทนายฟ้องกระทรวง คุณหมอว่าดีไหมคะ อย่างนี้ไม่ถูกเลยนะ โกรธแล้วนะคะเนี่ย เราอุตส่าห์หลงเชื่อ พยายามเลี้ยงนมแม่ให้ได้นานๆ อดทนทุ้กอย่าง หวังจะให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกของเรา)
หมอ : งั้นเดี๋ยวหมอให้ยาที่ไม่มีผลกับน้ำนมนะครับ
คุณแม่ : ขอบคุณค่ะ
ปล. ข้อความในวงเล็บ แค่คิดในใจ ไม่ได้พูดออกไปหรอกค่ะ
โชคดีที่คุณแม่ท่านนี้มีความรู้เรื่องนมแม่เข้มแข็งมาก จึงไม่คล้อยตามความคิดเห็นของคุณหมอท่านนี้ซึ่งให้ข้อมูลเรื่องนมแม่แบบไม่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าการที่คุณหมอท่านนี้พูดลอยๆขึ้นมาว่า น่าจะเลิกได้แล้ว ไม่มีประโยชน์แล้ว หากเป็นคุณแม่ท่านอื่นที่ไม่เคยมีความรู้เรื่องนมแม่มาก่อน ก็อาจเข้าใจว่า ส่ิงที่คุณหมอท่านนี้พูดเป็นเรื่องจริง แล้วหยุดให้นมแม่ไปเลย ซึ่งความจริง คือ นมแม่มีประโยชน์ตราบที่คุณแม่ยังมีน้ำนมอยู่ ไม่ว่าจะนานกี่ปีก็ตาม
ส่วนปัญหาเรื่อง การใช้ยาในแม่ที่ให้นมลูกนั้น ต้องระวังมากน้อยเพียงใด ทำไมหมอส่วนใหญ่จะพูดว่า ถ้าให้ยาตัวนั้น ตัวนี้ ต้องหยุดให้นม หรือ ไม่ก็เลือกทางที่แม่ไม่ต้องกินยารักษาโรค เพราะยาทุกตัวมีผลกับน้ำนม จริงหรือไม่
คำตอบ คือ ยาส่วนใหญ่ไม่มีปัญหากับการให้นมลูก ไม่เหมือนกับตอนตั้งครรภ์ ซึ่งขณะตั้งครรภ์ ไม่ควรใช้ยาถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เพราะยาจะไปที่ลูกได้โดยตรงทางกระแสเลือด และจะยิ่งอันตรายมากขึ้น หากเป็นช่วงตั้งครรภ์อ่อนที่เป็นช่วงสร้างอวัยวะของลูก แต่การกินยาของแม่ให้นม ยาส่วนใหญ่จะถูกสกัดไว้ที่เซลที่ล้อมรอบกระเปาะน้ำนม โอกาสออกมาในน้ำนมน้อยมาก หรือ ยาอาจอยู่ในกระเพาะอาหารของลูก แต่ไม่ถูกดูดซึมเข้าร่างกาย ส่วนใหญ่จึงไม่มีผลกระทบต่อลูก แต่ทว่าคุณหมอส่วนใหญ่ จะไม่ทราบข้อเท็จจริงนี้ จึงมักบอกคนไข้ว่า ให้หยุดให้นมชั่วคราว เพราะตัวคุณหมอเองไม่รู้จริง หรือ ไม่แน่ใจว่า ยาตัวไหนใช้ได้ ยาตัวไหนใช้ไม่ได้ หรือ คุณหมออาจบอกว่าให้เลิกนมแม่ได้แล้ว เพราะเชื่อว่านมแม่หมดประโยชน์แล้ว หรือ อาจใช้วิธีไม่สั่งยาให้คุณแม่ ทำให้อาการโรคของคุณแม่ไม่หายเสียที ดังนั้นทางที่ดี คือ คุณแม่ควรรู้จักเว็บไซต์www.e-lactancia.org เมื่อต้องใช้ยา ให้ตรวจสอบข้อมูลเรื่องยากับการให้นมแม่ จากเว็บไซต์นี้ได้ด้วยตัวเอง ตามวิธีการดังนี้
1.เมื่อเข้าเว็บไซต์ จะพบว่าเป็นภาษาสเปน ให้คลิกธงอังกฤษ จะเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ
2.คลิก Search by Product แล้วใส่ชื่อยาสามัญของยา (ไม่ใช่ยี่ห้อยา) กด Go
3.ถ้าขึ้นเป็น Risk Level 0 แปลว่า ใช้ยาตัวนั้นได้ ถ้าขึ้น Risk Level 1 ถ้าจำเป็นต้องใช้ ก็ใช้ได้ แต่ต้องติดตามดูอาการข้างเคียงอะไรบ้าง ในนั้นจะบอกทุกอย่าง รวมถึงแนะนำว่า ควรเปลี่ยนไปใช้ยาอะไรแทนได้บ้างที่ออกฤทธิ์แบบเดียวกัน (Alternative) แต่ถ้าขึ้น Risk Level 3 ห้ามใช้ค่ะ เช่น ยารักษาโรคมะเร็ง แร่กัมมันตรังสี