ReadyPlanet.com


เหตุผลที่พ่อแม่ควร ทำประกันให้ลูกตั้งแต่เด็ก


เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเด็กเล็กนั้นมีภูมิคุ้มกันต่ำ การพาออกไปพบปะผู้คนนอกบ้านหรือพาไปท่องเที่ยวตามที่ต่าง ๆ อาจทำให้ลูกน้อยเจ็บป่วยไม่สบายได้ง่าย ๆ รวมถึงการที่ลูกน้อยเริ่มเข้าเรียนในโรงเรียนก็จะพบกับปัญหาการเจ็บป่วยได้บ่อย ๆ เช่นกัน ซึ่งการเจ็บป่วยแต่ละครั้งก็ทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมรับมือกับค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลด้วย ยิ่งการเข้ารับการรักษาตัวหรือแอดมิทในโรงพยาบาลเอกชนนั้นมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ที่สำคัญค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เฉลี่ยประมาณ 7 - 8% ต่อปีอีกด้วย 


หากคุณพ่อคุณแม่เลือก ทำประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุให้ลูก ไว้ก่อนก็จะทำให้มีความคุ้มครองด้านการรักษาพยาบาลเป็นตัวช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายลงได้ โดยมีการศึกษาพบว่าการเลือก ซื้อประกันให้ลูก เพื่อคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลหรือการทำประกันสุขภาพให้ลูกนั้นมีข้อดีดังต่อไปนี้ 

  • ช่วยให้สามารถตั้งรับกับค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวได้ และช่วยลดความกังวลในกรณีที่ลูกต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือต้องรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง 

  • กรณีที่แพทย์ต้องการให้รอดูอาการต่อเนื่องหลายวันโดยแอดมิทในโรงพยาบาลก็จะทำได้ง่ายขึ้นเพราะมีความคุ้มครองจากประกันช่วยดูแลค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว ซึ่งกรณีนี้เกิดขึ้นได้บ่อยเนื่องจากเด็กเล็กจะมีโอกาสติดเชื้อโรคหรือเชื้อไวรัสที่มีความรุนแรงหรือซับซ้อนมากขึ้น บางครั้งอาจต้องอาศัยการเฝ้าดูอาการต่อเนื่องราว 3 - 7 วัน 

  • สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลที่มีเครื่องมือ-อุปกรณ์ครบครันในการรักษา หรือเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนที่มีแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะด้านได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งก็จะเป็นผลดีต่อการดูแลลูกน้อย

  • การ ทำประกันให้ลูก ในช่วงที่ลูกยังแข็งแรง ไม่ได้เป็นโรคต่าง ๆ จะทำให้ได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ครอบคลุมทุกโรค แต่หากตัดสินใจ ซื้อประกันให้ลูก หลังจากมีรอยโรคหรือมีความเจ็บป่วยเป็นโรคประจำตัวแล้ว อาจไม่ได้รับความคุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อนการทำประกัน ทำให้เสียประโยชน์จากการได้รับความคุ้มครองไป 


แนะวิธีการเลือกซื้อประกันสุขภาพให้ลูก 

หลักสำคัญในการเลือกซื้อประกันให้กับลูกนั้นคือการที่พ่อแม่ต้องศึกษาข้อมูลความคุ้มครองของประกันสุขภาพประเภทต่าง ๆ  โดยเปรียบเทียบกับเบี้ยประกันที่จะต้องจ่ายในแต่ละงวด แล้วเลือกแบบประกันที่ให้ความคุ้มครองอย่างครอบคลุมมากที่สุดด้วยเบี้ยประกันที่สามารถจ่ายไหว ซึ่งไม่ควรสูงกว่า 10 - 15% ของรายได้ต่อปี และเมื่อตัดสินใจเลือกทำประกันแล้วก็ต้องอ่านเงื่อนไขความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้ละเอียด ที่สำคัญต้องเข้าใจว่าเมื่อตกลงทำประกันสุขภาพให้ลูกเรียบร้อยแล้วยังมีระยะเวลารอคอยการอนุมัติกรมธรรม์ซึ่งเป็นช่วงที่ยังไม่สามารถเบิกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้ 


แนะนำ “กรุงไทย สุขภาพสุขใจ” ประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมด้วยเบี้ยประกันที่คุ้มค่า ทั้งการรักษาแบบผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) โดยไม่ต้องสำรองจ่าย และยังสามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพเหมาจ่ายไปลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีได้อีกด้วย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ waanbotan :: วันที่ลงประกาศ 2024-05-03 22:47:40 IP : 134.236.161.82


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล