บทความโดย พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ https://www.doctorbreastfeeding.com/
อยากทราบพัฒนาการหลักๆ ของเด็กวัยเพิ่งครบ 2 ขวบค่ะ ควรจะต้องทำอะไรได้บ้าง มีอะไรที่คุณแม่ควรต้องเพิ่มเติมเพื่อให้ลูกเป็นเด็กฉลาด สมองดี รวมถึงข้อควรระวังด้วยค่ะ"
พัฒนาการด้านหลักๆ ของเด็กแต่ละวัยมี 4 ด้าน โดยเฉลี่ยเด็กวัย 2 ขวบมักทำได้ดังต่อไปนี้ (อย่างไรก็ดี เด็กปกติอาจทำได้เร็วหรือช้ากว่าเกณฑ์ดังกล่าวได้บ้าง ดังนั้นหากสงสัยว่าลูกทำได้ช้าผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์)
*กล้ามเนื้อมัดใหญ่ – วิ่ง กระโดดตัวลอยจากพื้น เตะบอล โยนรับลูกบอล เดินลงบันไดโดยจับราวบันไดแต่ไม่สลับเท้าก้าว ควรปรึกษาแพทย์ หากลูกยังวิ่งหรือเดินไม่คล่อง หกล้มง่าย ขาเกร็งหรือนิ้วเท้าจิกพื้น
การส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการที่สมวัย ทำได้โดย อย่าอุ้มลูกเยอะ ควรจัดหาสถานที่ปลอดภัยให้ลูกได้วิ่งเล่น พาลูกไปสนามหญ้าหรือสวนสาธารณะ หัดเดินขึ้นลงบันได หัดปีนในที่ปลอดภัย โดยมีผู้ใหญ่คอยดูแลระมัดระวังอันตรายและคอยสอนอยู่ใกล้ๆ
*กล้ามเนื้อมัดเล็ก – ต่อบล๊อกได้สูง 6-7 ก้อน พลิกหน้าหนังสือได้ ใช้ถ้วยตักน้ำ เล่นเทน้ำใส่กรวย ใส่ของเล่นสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม วงกลมได้ถูกต้อง ควรปรึกษาแพทย์ หากลูกยังใช้มือหยิบจับสิ่งของได้ไม่เก่ง
การส่งเสริมพัฒนาการ ทำได้โดย จัดหาของเล่นอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับวัยและปลอดภัยให้ลูกเล่น เก็บของอันตรายให้พ้นมือ โดยผู้ใหญ่เล่นหรือทำให้ดูเป็นตัวอย่าง เพราะลูกมักสนใจสิ่งที่ผู้ใหญ่ใช้บ่อยๆ และพยายามเลียนแบบ
*ด้านภาษา – ชี้รูปภาพได้ถูกต้องอย่างน้อย 2 สิ่ง ชี้อวัยวะได้ถูกต้อง 4 ส่วน บอกชื่อรูปภาพได้ถูกต้อง 1 รูป จับคู่รูปภาพกับของจริงได้ พูดเป็นวลี บางคนเป็นประโยคสั้นๆ ทำตามคำสั่งได้ 2 ขั้นตอน ตั้งใจฟังนิทานโดยมองรูปภาพและมองหน้าผู้ใหญ่ที่เล่า บอกชื่อตัวเองได้ ตอบรับหรือปฏิเสธได้เมื่อถูกถามหรือถูกขอ ควรปรึกษาแพทย์ หากลูกไม่เข้าใจคำสั่ง ยังไม่พูด เรียกชื่อไม่หัน
การส่งเสริมพัฒนาการ ทำได้โดย พูดคุยกับลูกบ่อยๆ อ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกวัน ไม่ให้ลูกดูทีวี เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ ไอแพด ไอโฟน มากเกินวันละครึ่งชม. เพราะอาจทำให้มีปัญหาสมาธิสั้นั้ั้
*ด้านสังคม – การช่วยเหลือตัวเองด้านต่างๆ เช่น กินข้าวเอง ฝึกขับถ่าย แปรงฟัน แต่งตัวถอดเสื้อผ้าเอง เล่นสมมติ เช่น เลี้ยงน้องตุ๊กตา ขายของ ควรปรึกษาแพทย์ หากลูกไม่สบตา ไม่ชอบเล่นกับคน มีอารมณ์ฉุนเฉียวร้องไห้อาละวาดบ่อยๆ
การส่งเสริมพัฒนาการ ทำได้โดย เล่นบทบาทสมมติกับลูก พาลูกไปเจอญาติผู้ใหญ่ เพื่อนบ้าน ชุมชน ฝึกเรื่องการช่วยเหลือตัวเอง เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องของการควบคุมอารมณ์เวลาที่มีปัญหาคับข้องใจ
อย่างไรก็ดี การดูแลลูกรัก ไม่ควรมุ่งเน้นเรื่อง ความฉลาด เก่ง และสมองดีเท่านั้น แต่ควรเพิ่มหลักการอีก 2 ข้อ คือ การฝึกให้ลูกเป็นคนดี และเป็นคนที่มีความสุขได้จากความสงบภายในจิตใจ ร่วมด้วย จึงจะทำให้ลูกอยู่ในสังคมได้เป็นอย่างดี